5 กับดักทางการเงินที่ต้องหลีกเลี่ยง โดย PHIL TOWN นักลงทุนชาวอเมริกัน ตอนที่ 3

PHIL TOWN

มาถึง 2 กับดักทางการเงินสุดท้าย แล้วที่คุณจะต้องระวัง ถ้าชีวิตอยากจะประสบความสำเร็จ เพราะเรื่องบางเรื่องที่คุณไม่คาดคิดว่ามันคือกับดักทางความสำเร็จของคุณ ได้เรียนรู้ที่จะระแวดระวังกันไปถึง 4 กับดัก ไปเรียนรู้ที่เหลือ 2 กับดักสุดท้ายกันเลยดีกว่า

5.กับดักทางการเงินข้อที่ 5  การที่ไม่เคยคิดที่จะลงทุนใดๆเลยในชีวิต

หลายๆคน อาจคิดเรื่องลงทุน แต่ก็เลือกที่จะลงทุนในระยะสั้นๆ เพื่อเป้าหมายบางเป้าหมายที่ไม่ยั่งยืน หรือเป็นเป้าหมายในเรื่องเล็กๆ  เปรียบเสมือนการวิ่งแค่ 100 เมตร แต่คุณอย่าได้ลืมไปว่า การจะก้าวไปสู่จุดหมายอันยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า “อิสรภาพทางการเงิน” นั้น มันคือการวิ่งมาราธอนระยะยาวที่ต้องใช้เวลาและกรทุ่มเท ซึ่งเป็นเสมือนการลงทุนในระยะยาว  และแน่นอนว่าการลงทุนในระยะยาวนั้น คุณยิ่งเริ่มต้นได้เร็วเท่าไหร่คุณก็ยิ่งได้เปรียบและมีโอกาสประสบความสำเร็จที่สูง การวางแผนทางการเงินเพื่ออิสรภาพทางการเงินนั้น เป็นเรื่องของความสมดุลระหว่าง การจับจ่ายจ่ายใช้สอย การชำระหนี้สินในปัจจุบัน และการสำรองเงินไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน ความสมดุลของทั้ง 3 สิ่งนี้ก็เพื่อช่วยให้คุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น  PHIL TOWN มักบอกทุกครั้งที่มีโอกาสตลอดเวลาว่า ทุกครั้งที่เขาได้เงินมา เขาจะตัดออก 10 % ทันทีเพื่อจ่ายให้กับตนเองเพื่อเข้าสะสมในบัญชีการลงทุนก่อน แล้วค่อยเอาเงินส่วนที่เหลือไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งรวมถึงจ่ายภาษีด้วย และทุกครั้งที่เขารู้ตัวว่าเขาจ่ายฟุ่มเฟือย เขาจะหักเงินออกอีก 10 % แล้วนำไปสมทบในบัญชีการลงทุนทันที เพื่อเตือนและป้องกันตนเองไม่ให้ใช้จ่ายเงินมากจนเกินไป 

และทั้งหมดที่นำมากล่าวในบทความทั้ง 3 คอน ก็คือ 5 กับดักทางการเงินที่ต้องหลีกเลี่ยงหากคุณต้องการประสบความสำเร็จ  โดยขอสรุปโดยสังเขปเพื่อให้เป็นข้อคอยเตือนคุณให้ระวังอย่างเข้าใจง่ายๆ ทั้ง 5 กับดักไว้ปิดท้ายทั้ง 5 บทความดังนี้

สรุป 5 กับดักโดยสังเขปที่คอยขัดขวางคุณไม่ให้ประสบความสำเร็จที่คุณอาจมองจะมองข้าม

1.อย่าซื้อรถยนต์ที่เกินกำลังที่ตัวคุณจ่ายไหว เหตุผลที่ต้องระวังข้อนี้ก็เพราะการซื้อรถยนต์นั้นมักเป็นการใช้เงินก้อนใหญ่ในชีวิตของคนเรา

2.อย่าซื้อบ้านที่เกินกำลังที่ตัวคุณจ่ายไหวเพราะบ้านคือสิ่งที่แพงที่สุดในชีวิตของคนๆหนึ่งที่เกิดมา

3. อย่ากินกินข้าวนอกบ้านมากเกินไป เพราะมันจะเพิ่มรายจ่ายให้คุณมากขึ้นเดือนละอย่างน้อย 25 % ซึ่งจำนวนรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นมาของคนบางคนอาจทำให้คุณมีเงินกินข้าวที่บ้านไปได้อีก 1-2 เดือน

4. อย่าเพลิดเพลินกับการใช้และชำระหนี้บัตรเครดิตมากเกินไป เพราะหนี้บัตรเครดิตคือหนี้ที่เลวร้ายมากที่สุด นับตั้งแต่มีระบบการติดหนี้ที่เคยมีมา

5.การไม่คิดที่จะลงทุนใดๆเลยในชีวิตทำให้คุณประสบความสำเร็จในได้ช้า ดังนั้นจึงควรคิดเรื่องลงทุนนสิ่งสำคัญแรกๆเมื่อมีรายได้เข้ามา

เราหวังว่าหลังจากคุณได้อ่านบทความทั้ง 3 ตอนนี้แล้ว คุณจะไม่หลงลืมและติดกับดักทั้ง 5 ข้อที่คุณเคยมองข้ามมันมาช้านาน แล้วพบกับที่เส้นชัยของความสำเร็จ

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com

กับดักทางการเงินที่ต้องหลีกเลี่ยง โดย PHIL TOWN นักลงทุนชาวอเมริกัน ตอนที่ 2

PHIL TOWN

ในบทความตอนที่ 1 ได้รู้ถึงกับดับทางการเงินข้อที่ 1 และ 2 ที่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงไปแล้ว บทความนี้เราไปเรียนรู้ถึงกับดักทางการเงินข้อต่อๆไปกันเลย

3.กับดักทางการเงินข้อที่ 3 กินข้าวนอกบ้านมากเกินไป หลายคนอาจเถียงว่า  อุตส่าห์เหนื่อยกับการทำงานมาทั้งวัน  จะไม่ให้ไปผ่อนคลายนอกบ้านกันเลยหรืออย่างไร ? แล้วถ้าไม่ให้ใช้จ่ายนอกบ้านบ้าง จะหาเงินกันไปเพื่ออะไร ? ซึ่งในข้อนี้ PHIL ไม่ได้ต้องการบอกคุณว่าห้ามกินเที่ยวนอกบ้านอย่างเด็ดขาด แต่เขาให้คุณกินเที่ยวนอกบ้านในวงเงินที่คุณได้กำหนดเอาไว้แล้วเท่านั้น เพราะหากคุณลองจดรายการที่คุณออกไปใช้จ่ายนอกบ้านตามความจริง คุณจะพบกับความจริงที่น่าตกใจว่า นี่มันเป็นรายจ่ายที่ทำให้คุณต้องใช้เงินแบบเดือนชนเดือน หรือใช้เงินหมดตั้งแต่ยังไม่ถึงสิ้นเดือน แต่สำหรับบางคนที่เขารู้จักบริหารการเงิน เขาจะกำหนดงบประมาณที่จะไปกินไปเที่ยวนอกบ้านตั้งแต่เงินเดือนไม่ออกเลยว่าเขาจะใช้เงินในส่วนนี้เท่าไหร่ แล้วพอเงินออกเขาก็แยกเงินส่วนนี้ใส่ซองไว้ต่างหาก และเมื่อไหร่ที่เงินในซองหมดเขาก็จะรู้ตัวเลยว่างบที่จะใช้นอกบ้านนั้นหมดแล้ว นี่เป็นวิธีง่ายๆแต่สามารถยับยั้งตัวคุณเองได้อย่างอัตโนมัติ

4.การชำระหนี้บัตรเครดิตมากเกินไป หนี้บัตรเครดิตถือเป็นหนี้ที่เลวร้ายมากที่สุด นับตั้งแต่มีระบบการติดหนี้ที่เคยมีมา โดยเฉพาะหนี้ที่มาจากการอุปโภคบริโภค ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ติดหนี้ได้อย่างง่ายดาย แถมการเดินออกมาจากวงการนี้ก็ยากมากด้วย และเมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มจ่ายบัตรเครดิตแบบวงเงินเต็มไม่ไหว และเข้าสู่การจ่ายขั้นต่ำเมื่อไหร่ นั่นแสดงให้เห็นว่าการเงินของคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หลายคนเลือกที่จะเปิดบัตรเครดิตใบใหม่แล้วเอามาผ่อนใบเก่า กลายเป็นงูกินหางไปเรื่อยๆ และกลายเป็นวงจรอุบาทว์ไม่มีที่สิ้นสุด และมันจะลุกลามไปสู่การจ่ายไม่ไหว ซึ่งดอกเบี้ยของบัตรเครดิตนั่นสูงจนหน้าตกใจเพราะอยู่ในช่วงราวๆ 18-25 % ในขณะที่การลงทุนโดยทั่วไปได้กำไร 10 % ก็ถือว่าเก่งแล้ว แต่ก็ยังได้ไม่ครึ่งของดอกเบี้ยบัตรเครดิตด้วยซ้ำ ดังนั้นต่อให้คุณลงทุนเก่งแค่ไหน แล้วไปเสียดอกเบี้ยให้บัตรเครดิต ยังไงคุณก็ล้มเหลวทางการเงินอยู่ดี

และกับดักทางการเงินข้อที่ 3 และ 4 ในบทความตอนที่ 2 นี้ ชี้ให้เราได้เห็นเลยว่า  เรื่องที่เราคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างการไปกินข้าวนอกบ้านและการใช้บัตรเครดิตในการอุปโภคบริโภค มันคืออุปสรรคสำคัญอีกสองข้อที่ทำให้คนในวัยทำงานต้องสูญเสียความสำเร็จในชีวิตที่รวดเร็วไปอย่างไม่น่าเชื่อ 

ยังเหลือกับดักสุดท้ายที่ PHIL TOWN กำลังจะเตือนเรา ดังนั้นอย่าไห้พลาดที่จะติดตามบทความในตอนที่ 3 ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของกับดักทางการเงินที่ต้องหลีกเลี่ยง โดย  PHIL TOWN กันเชียว พบกันกับดักสุดท้ายที่คุณต้องระวัง ถ้าอยากมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จที่รวดเร็ว

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com

กับดักทางการเงินที่ต้องหลีกเลี่ยง โดย PHIL TOWN นักลงทุนชาวอเมริกัน ตอนที่ 1

PHIL TOWN

PHIL TOWN เป็นนักลงทุนชาวอมริกัน และเป็นนักพูด นักเขียน หนังสือพิมพ์ New York Times เจ้าของรางวัล  best seller  เจ้าของผลงาน RULE NO.1  ซึ่งในปี 2020 เขามีทรัพย์สินอยู่ที่ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราวๆ 150 บาท ให้ได้คำแนะนำเรื่องกับดักทางการเงินไว้ว่า

ในฐานะที่เขาผ่านช่วงวัยอายุ 30 ปี หรือวัยกลางคนมาก่อน เขาพบว่ามีกับดักทางการเงินมากมายที่ทำให้คนวัยทำงานประสบความสำเร็จในการทำงานได้ช้าลง ซึ่งส่งผลให้คนส่วนใหญ่มักมีเงินไม่พอใช้หลังเกษียณ หรือบางคนแทบไม่มีเงินใช้เลยด้วยซ้ำ โดยหลักๆจะมีกับดักทางการเงิน 5 ข้อดังต่อไปนี้

1.อย่าซื้อรถยนต์ที่เกินกำลังที่ตัวคุณจ่ายไหว เขาเล่าว่าตอนที่เขาเริ่มลงทุนใหม่ๆเขาเล่าว่ามีช่วงหนึ่งที่เขาทำเงินได้ประมาณ 2.5 ล้านบาท ซึ่งสิ่งที่เขาทำทันทีที่ได้เงินก็คือ ตรงดิ่งไปยังโชว์รูมรถยนต์  แล้วก็ถอยรถใหม่ออกมาทันที โดยเหตุผลที่เขาซื้อมันมาก็เพราะ เวลาที่เขาขับไปที่ไหนก็ต่างแต่มีคนชื่นชมเค้า แต่หลังจากที่เขาซื้อรถมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ไม่มีใครสนใจรถแฟนซีของเขาอีกต่อไป ดังนั้นข้อคิดที่เขาได้จากเหตุการณ์นี้ก็คือ จงอย่าซื้อรถเพื่อสร้างความประทับใจกับคนที่คุณไม่ชอบ หรือคนที่ไม่ชอบคุณ หรือแม้กระทั่งคนที่คุณไม่รู้จัก ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่าอยากอวดคนอื่นว่าฉันก็มีปัญญาซื้อรถแพงๆเหมือนกัน เพราะคนอื่นไม่ได้สนใจคุณตั้งแต่แรกด้วยซ้ำไป

ซึ่งจริงๆแล้วสิ่งที่คุณต้องการก็คือ การเดินทางที่สะดวกสบาย หากคุณเลือกรถยนต์ที่เป็นพาหนะในการเดินทางมันก็มีหลากหลายราคาให้คุณเลือกซื้อใช้ เพราะรถจะถูกจะแพงก็ติดไฟแดงเหมือนกัน เหตุผลที่ต้องระวังข้อนี้ก็เพราะการซื้อรถยนต์นั้นมักเป็นการใช้เงินก้อนใหญ่ในชีวิตของคนเราที่ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น แถมสิ่งที่น่าตกใจก็คือ มูลค่าของรถยนต์จะมีมูลค่าหายไปประมาณ 30 % เพียงแค่อายุรถเพียง 1 ปี และมูลค่าจะหายไปเกือบครึ่งเมื่อหมดปีที่ 3 ทั้งๆที่สมรรถนของรถยังดีอยู่ ดังนั้นการเลือกซื้อรถมือสองที่มีอายุ 3 ปี จึงเป็นตัวเลือกที่ดี

2.อย่าซื้อบ้านที่เกินกำลังที่ตัวคุณจ่ายไหว เพราะบ้านคือสิ่งที่แพงที่สุดในชีวิตของคนๆหนึ่ง  แต่คนส่วนใหญ่ที่ทำเรื่องกู้ซื้อบ้านกับธนาคารก็มักจะกู้ในอัตราเต็มเหนี่ยวของเงินเดือน หรือเต็มเหนี่ยวกับรายได้ที่ได้รับในแต่ละเดือน นั่นแสดงว่าเมื่อรวมค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายรายเดือนเข้าด้วยกัน มันจะทำให้คุณไม่เหลือเงินไว้ใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นอย่างอื่นได้อีก เช่น เงินสำรองฉุกเฉิน หรือเงินเพื่อการลงทุน และยังทำให้ชีวิตสมรสเกิดความเครียด ทะเลาะเบาะแว้งเรื่องปัญหาทางการเงิน  และมีภาวะที่มีเงินใช้แบบเดือนชนเดือน และจะเกิดปัญหาทางการเงินในที่สุด เริ่มมีการกู้หนี้ยืมสิน เริ่มบริหารการเงินไม่ได้ กลายเป็นยิ่งแย่ยิ่งกู้ หนี้ยิ่งเพิ่ม สุดท้ายต้องขายบ้านไปหาบ้านเช่า หรืออาจโดนยึดบ้าน และเสียเครดิตในการทำธุรกรรมอื่นๆไปอีกด้วย ซึ่ง PHILแนะนำว่าทางที่ดี คุณอย่าใช้ร้อนรีบซื้อบ้าน เพราะความอยากได้ แต่ให้มองหาบ้านที่ประกาศขายที่สามารถต่อรองราคาได้ เช่นหาคนที่ต้องการขายบ้านนั้นเพราะร้อนเงิน รีบใช้เงิน  จะสามารถต่อรองได้เยอะ และมีโอกาสที่จะได้บ้านราคาถูกมากกว่าปกติอย่างมาก หาได้แล้วค่อนซื้อก็ยังไม่สาย 

บทความในตอนนี้ ชี้ให้เห็นถึงกับดัก 2 ข้อแรก ที่คนส่วนใหญ่มักจะพลาดและติดกับดักจนดิ้นไม่หลุด ที่ PHIL ได้เตือนเอาไว้ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงในชีวิตของคนเราในวันทำงานหรือวัยกลางคนส่วนใหญ่  ดังนั้นจึงอย่าพลาดที่จะติดตามกับดับข้อที่เหลือที่เขาจะนำมาเตือน ซึ่งเราอาจจะมีโอกาสพลาด จนทำให้ชีวิตเราไม่ประสบความสำเร็จ ในตอนต่อไป

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com