Jack Dorsey ลงจากตำแหน่ง CEO ของ Twitter

Jack Dorsey

Jack Dorsey ผู้ก่อตั้ง Twitter

ปีนี้เราได้เห็น Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon บริษัทอีคอมเมิร์ซของสหรัฐอเมริกาลงจากตำแหน่ง CEO เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา และในช่วงปลายปีเราก็ได้เห็นการลงจากตำแหน่งของ CEO อีกครั้งโดยคราวนี้เป็น Jack Dorsey ผู้ที่เป็น CEO ของ Twitter

Jack Dorsey เป็นผู้ก่อตั้ง Twitter โดยเริ่มต้นเป็นประธานบริษัทในปี 2007 ซึ่งต่างจากที่เข้ารับตำแหน่งเป็นประธานบริษัทเขาก็ได้ถูกเลิกจ้างหลังจากที่เขาได้เป็นประธานบริษัทเพียงแค่ 16 เดือน แล้วต่อมาในปี 2015 เขาก็ได้กลับมารับตำแหน่งประธานบริษัทต่อจาก Dick Costolo หลังจากที่ทำงานเป็นประธานบริษัทในครั้งที่ 2 มาเป็นเวลา 6 ปีเขาก็ได้ก้าวลงจากตำแหน่งอีกครั้งโดยผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งแทนก็คือ Parag Agrawal

Parag Agrawal ได้เข้ามาร่วมงานกับ Twitter ในช่วงปี 2011 ได้รับตำแหน่ง CTO ในปี 2017 โดยในตำแหน่งดังกล่าวเขาได้ทำงานมากมายให้กับทวิตเตอร์ โดยหลักแล้วขอทำหน้าที่เกี่ยวกับกลยุทธ์เทคนิคของสื่อสังคมออนไลน์และการใช้ Machine Learning ในปัจจุบันนี้ตัวเขามีผู้ติดตามในทวิตเตอร์มากกว่า 100,000 คน แต่ตัวของเขาไม่ค่อยได้ใช้งาน Twitter มากนักโดยตลอดทั้งปีการทวิตและรีทวิตเพียงแค่ 24 ครั้งเท่านั้น การก้าวขึ้นมาเป็นประธานบริษัทครั้งนี้เขาตั้งใจที่จะโฟกัสให้บริษัท Twitter นั้นก้าวไปข้างหน้าและเขาก็ได้มีการกล่าวขอบคุณ CEO คนเก่าอย่าง Jack Dorsey ด้วยเช่นเดียวกัน พี่เชื่อมั่นในตัวของเขาและมอบหน้าที่ผู้นำบริษัทให้กับเขา

สำหรับ Jack Dorsey ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของบริษัท Twitter นั้นเขาก็ได้สร้างสรรค์ฟีเจอร์ต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะในปีนี้ที่มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานหน้าใหม่ให้เข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้นได้แก่ newsletters, live audio และ tipping 

ถึงแม้ว่าเจ้าของเขาจะประกาศลงจากตำแหน่งประธานบริษัททวิตเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่เขายังคงเป็นประธานบริษัท Square ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางด้านการเงิน ซึ่งตัวของเขานั้นเป็นผู้สนใจใน Bitcoin และมีแผนกำลังพัฒนารูปแบบการเงินไร้ส่วนกลางหรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ DeFi อยู่ในตอนนี้

ต้องมาติดตามดูกันว่าหลังจากที่ Jack Dorsey ลงจากตำแหน่งประธานบริษัทของ Twitter เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทวิตเตอร์จะมีทิศทางการดำเนินธุรกิจไปในทิศทางใด และสำหรับบริษัท Square จะมีการพัฒนาในเรื่องของคริปโตเคอเรนซี่มากน้อยเพียงใด ซึ่งทั้งหมดนี้คงจะถูกเปิดเผยให้มาในอนาคตสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของ Jack Dorsey ก็สามารถไปติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของตัวของเขาได้ที่ทาง Twitter ได้เลย

ภาพจาก Wallpapercave

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บริษัท Square ของ Jack Dorsey มูลค่าเพิ่มขึ้น 2 เท่า

ack Dorsey

บริษัท Square ของ Jack Dorsey ประกอบธุรกิจทางด้าน Fintech

วันที่ 18 ตุลาคม 2564 ราคาของ Bitcoin กลับมาใกล้กลับราคาสูงสุดอีกครั้งหลังจากที่เคยทำจุดสูงสุดที่ราคา 2 ล้านกว่าบาทเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งการที่ราคาของ Bitcoin ผู้กำกับมาใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิมอีกครั้ง ซึ่งการที่ราคาของ Bitcoin สามารถขึ้นมาทำจุดสูงสุดได้ครั้งนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 5 เดือนเพียงเท่านั้นเรียกว่าเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูงมากเลยทีเดียว ทำให้บริษัทที่มีการซื้อ Bitcoin เป็นทุนสำรองมีมูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกันซึ่งหนึ่งในบริษัทที่มีการซื้อ Bitcoin เก็บไว้เป็นประจำก็คือบริษัท Square ของJack Dorsey

Jack Dorsey เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin มาโดยตลอดโดยตัวของเขานั้นมีการพูดถึง Bitcoin บน Twitter อยู่เป็นประจำและมีการซื้อ Bitcoin และใช้มันในบริษัทของเขาด้วยตัวอย่างเช่น Twitter ที่มีฟีเจอร์ Tipjar ฟีเจอร์ที่เอาไว้ใช้ส่งเงินสนับสนุนให้กับผู้ใช้งาน Twitter หรือเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช้งาน Twitter โดยสามารถส่งเงินสนับสนุนเป็นเหรียญ Bitcoin ได้ นอกจากนี้บริษัท Square ที่เป็นบริษัทของ Jack Dorsey ที่ประกอบธุรกิจทางด้าน Fintech ก็ซื้อ Bitcoin ไว้เป็นประจำ โดยบริษัทได้ลงทุนใน Bitcoin ไปเป็นจำนวน 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในตอนนี้ที่ราคาของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นจนเกือบถึงจุดสูงสุดเดิมทำให้มูลค่าของบริษัทนั้นที่ได้จากการซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้นเป็น 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งสูงกว่า 2 เท่าเสียอีกด้วยซ้ำ

โดยจากการรายงานจากหนังสือพิมพ์ Bitcoin Magazine บริษัท Square มีการถือเหรียญ Bitcoin เป็นจำนวน 8,027 โดยประมาณ โดยจากจำนวนเงิน 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้มีการซื้อ Bitcoin ที่ราคาประมาณ 27,407 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วบริษัท Square ได้มีการเข้าซื้อ Bitcoin ด้วยจำนวนเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลอดทั้งปี 2020 บริษัทได้มีการประกาศออกมาว่าได้มีการเข้าซื้อ Bitcoinไป ประมาณ 3,318 เหรียญ

นอกจากบริษัท Square แล้ว บริษัท Tesla ก็เป็นอีก 1 บริษัทที่ได้รับผลกำไรจากการขึ้นของ Bitcoin ในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกันหลังจากที่บริษัทได้มีการซื้อ Bitcoin ในช่วงของราคา 1.5 ล้านบาท และได้มีการประกาศขายออกไปบางส่วนแต่ก็ยังได้กำไรกลับมา และยังมีบริษัทอีกหลาย ๆ บริษัทที่ได้รับอานิสงส์จากการขึ้นของราคาในครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามการลงทุนในเงินดิจิตอลนั้นถือว่ามีความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนรายย่อยอย่างเราดังนั้นควรศึกษาเหรียญต่าง ๆ ก่อนที่จะเลือกเข้าไปลงทุน เพราะว่าบางเหรียญก็ไม่ได้มีราคาที่ขึ้นลงอย่างรวดเร็วและบางเหรียญก็ใช้เวลานานมากกว่าจะราคาขึ้น และที่สำคัญเป็นตลาดที่มีความผันผวนอย่างมากดังนั้นต้องศึกษาและมีความรู้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Gadgets.ndtv

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook