Google ส่งวิศวกรช่วยเหลือบริษัทสตาร์ทอัพ

Google

บริษัท Google เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีและโลกอินเทอร์เน็ต

บริษัท Google เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีและโลกอินเทอร์เน็ตซึ่งมีพนักงานที่มีความสามารถและเป็นที่ยอมรับในสังคม นอกจากพัฒนาบริษัทของตัวเองแล้วบางครั้ง Google ก็ส่งพนักงานของตัวเองเข้าไปช่วยเหลือในการพัฒนาบริษัทอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

Normative เป็นบริษัทสตาร์ทอัพพี่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อนและเป็นบริษัทสัญชาติสัญชาติสวีเดนที่ได้รับการช่วยเหลือจากบริษัท Google บริษัท Normative เพิ่งได้มีการประกาศระดมทุนจากนักลงทุนจำนวน 10 ล้านยูโรซึ่งจะนำไปพัฒนาบริษัทให้เป็นบริษัทที่รักษ์โลก และด้วยเหตุนี้ CEO ของบริษัทจึงได้มีการขอความช่วยเหลือวิศวกรจาก Google เพื่อให้เข้ามาช่วยพัฒนา emission counting software สำหรับใช้ในการคำนวณ environmental footprint

วิศวกรของบริษัท Google นั้นจะเข้ามาช่วยเหลือในการสร้างซอฟต์แวร์ในเวอร์ชัน “เริ่มต้น” ซึ่งการเข้ามาทำงานร่วมกับบริษัท Normative ของวิศวกรจาก Google จะเข้ามาทำงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาโดยจะทำงานร่วมกันกับพนักงานของบริษัท Normative เป็นระยะเวลา 6 เดือนด้วยกัน ทำให้ทางตอนนี้บริษัทมีทีมพัฒนาจำนวนมากกว่า 50 คน โดยซอฟต์แวร์ที่ได้มีการพัฒนานั้นจะมีการเปิดตัวภายในงาน COP26 climate conference ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

Jen Carter ผู้ที่เป็น head of technology and volunteering ที่ Google.org ได้บอกกับสื่อ cnbc ว่าการที่การคำนวณอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับบริษัทเล็กๆ เพราะว่าพวกเขาจะได้รู้ผลกระทบของการกระทำที่ทำลงไปนั้นเอง

นอกจากบริษัท Google จะพัฒนาและพยายามที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อรักษาโลกของเราให้ดีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้นเพื่อลดจำนวนขยะภายในบริษัทของตัวเองแล้วยังพยายามช่วยเหลือบริษัทเล็ก ๆ ที่มีความต้องการที่จะช่วยเหลือโลกด้วย ครึ่งก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันนั่นเอง

ไปอดีตต้องยอมรับว่าการพัฒนาของเทคโนโลยีนั้นยังไม่ได้ก้าวหน้ามากนักทำให้โรงงานหรือบริษัทต่าง ๆ ใช้พลังงานเชื้อเพลิงซึ่งเป็นพลังงานที่สร้างก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศของโลกซึ่งทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก แต่ว่าในปัจจุบันเมื่อมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีมากขึ้นสายงานการผลิตหลาย ๆ สายงานมักจะใช้พลังงานจากธรรมชาติมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ ซึ่งพลังงานจากธรรมชาตินั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากเลยทีเดียว และบริษัทและโรงงานที่เกิดขึ้นใหม่ก็มักที่จะเลือกใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้นมีการรีไซเคิลมากขึ้นเพราะว่ามีการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งการที่บริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ ๆ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นั้นให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นก็คงช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้มากเลยทีเดียว  ซึ่งก็เหมือนว่าการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนนั้นเป็นเป้าหมายของบริษัทรุ่นใหม่และบริษัทยักษ์ใหญ่หลาย ๆ บริษัท

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก cnbc

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Google จะลงทุนในทวีปแอฟริกา

Google

บริษัท Google เข้าไปลงทุนในทวีปแอฟริกาด้วยจำนวนเงินมาถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ถึงแม้ว่าตอนนี้โลกของเรานั้นจะเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีแล้วแต่ว่าในแต่ละพื้นที่ของโลกนั้นก็มีความสามารถของเทคโนโลยีแตกต่างกันออกไป ประเทศที่มีการพัฒนาแล้วก็จะมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปกว่าประเทศที่กำลังพัฒนาและสำหรับในประเทศที่พัฒนาช้าก็จะมีเทคโนโลยีที่ไม่ดีเท่าประเทศที่พัฒนาหรือกำลังพัฒนา ซึ่งการมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตทำให้ชีวิตนั้นมีความสะดวกสบายมาก ซึ่งก็หมายความว่าประเทศที่เทคโนโลยีพัฒนาและก้าวล้ำไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วนั้นประชาชนภายในประเทศนั้น ๆ ก็จะมีความสะดวกสบายมากกว่าประเทศที่ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยียากนั่นเอง โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาที่คนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้มีชีวิตที่ดีเหมือนกับทวีปอื่น ๆ และการเข้าถึงเทคโนโลยีของบางประเทศนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากทำให้ในทวีปแอฟริกานั้นมีการเติบโตทางด้านธุรกิจที่ช้ากว่าประเทศที่พัฒนาแล้วนั่นเองยิ่งในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิดทำให้การเติบโตนั้นชาร์จยิ่งขึ้นไปอีก 

บริษัท Google จึงจะเข้าไปลงทุนในทวีปแอฟริกาด้วยจำนวนเงินมาถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้มีการประกาศมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเงินลงทุนจำนวนดังกล่าวนั้นมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ตในทวีปแอฟริกานั่นเอง รวมไปถึงเป็นเงินทุนสนับสนุนเหล่า startup ภายในประเทศในทวีปแอฟริกาด้วย

โดยในงาน Google for Africa event ที่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกนั้นบริษัท Google ได้ก่อตั้งกองทุนการลงทุนแอฟริกาโดยเป็นการร่วมมือกับ Kiva เพื่อขอเงินกู้ 10 ล้านดอลลาร์ ในการช่วยเหลือ startup ในประเทศเคนยา ประเทศกานา ประเทศแอฟริกาใต้ และประเทศไนจีเรียให้ผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิตนี้ไปได้ นอกจากนี้กองทุนรวมดังกล่าวจะทำให้ startup สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปีข้างหน้านี้

การช่วยเหลือทวีปแอฟริกาของบริษัท Google นั้นคงช่วยให้ทวีปแอฟริกานั้นสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีรวมไปถึงการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและเหล่าธุรกิจ startup มากมายเลยทีเดียว และอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะเข้าไปลงทุนในทวีปแอฟริกาในอนาคตก็เป็นได้ และที่สำคัญเลยก็คือทำให้เกิดความเท่าเทียมกันมากขึ้นผู้คนที่ไม่เคยเข้าถึงเทคโนโลยีก็สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นแล้วมีโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองแล้วเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างดีมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ซื้อ Bitcoin ผ่าน Coinbase ด้วย Apple pay

Bitcoin

ปี 2021 ถือว่าเป็นปีทองของเงินดิจิตอลเพราะว่าเป็นปีที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับเงินดิจิตอลมากขึ้นในทรัพย์สินที่ใช้ในการเก็บออมรวมไปถึงใช้ในการทำกำไร ซึ่งการมาของเงินดิจิตอลในปีนี้นั้นทำให้ทั่วทั้งโลกได้ตระหนักถึงการเข้ามาเปลี่ยนแปลงบทบาททางด้านการเงินได้เป็นอย่างดี ด้วยประเด็นนี้ทำให้หลายๆ บริษัทและหลาย ๆ ประเทศนั้นมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถเข้าถึงเงินดิจิตอลได้มากที่สุด

ซึ่งเราก็คงได้เห็นข่าวคราวกันมาโดยตลอดบางประเทศยอมรับ Bitcoin เป็นเงินที่สามารถชำระเงินที่ถูกกฎหมาย บางประเทศก็เริ่มมีการพิจารณากฎหมายการใช้งานเงินดิจิตอลแล้วด้วย บางบริษัทก็ใช้เงินดิจิตอลน้ำในการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ซึ่งการขยับเขยื้อนของ Bitcoin และเงินสกุลดิจิตอลต่าง ๆ ในประเทศเล็ก ๆ ในบริษัทเล็ก ๆ ทำให้ยักษ์ใหญ่ของโลกจะต้องทำการปรับตัวด้วยเช่นเดียวกัน

บริษัท Apple เป็นอีก 1 บริษัทที่ดูเหมือนว่าจะขยับเข้ามาร่วมวงการนี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยทาง Coinbase ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนยักษ์ใหญ่ของประเทศอเมริกาได้ออกมาบอกว่าในตอนนี้ลูกค้าที่ใช้งาน Coinbase อยู่นั้นสามารถที่จะซื้อเงินดิจิตอลผ่าน Apple pay ได้แล้ว ซึ่งการเพิ่มช่องทางในการชำระเงินใหม่มาทำให้ผู้คนนั้นสามารถเข้าถึงคริปโตเคอเรนซี่หรือว่าเงินดิจิตอลได้มากขึ้น ที่สำคัญเลย Apple Pay ยังเป็นการทำธุรกรรมของ Apple ที่มีการยอมรับว่ามีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงมาก

ซึ่งทาง Coinbase สามารถให้ผู้ใช้บริการ Apple Play สามารถโอนหรือว่าซื้อขายคริปโตได้ด้วยจำนวนเงินสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้บริการดังกล่าวผ่านอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และเว็บเบราว์เซอร์ Safari ในภายหลังทาง Coinbase จะเพิ่มภูมิภาคที่ให้บริการอีกด้วย

นอกจาก Apple pay ของบริษัท Apple แล้วดูเหมือนว่า Coinbase จะไม่หยุดเดินหน้าขยายการทำธุรกรรมเพียงเท่านี้ในอนาคต Google pay ของบริษัท Google ก็จะได้รับการพิจารณาเฮ้ยสามารถโอนแล้วซื้อขายคริปโตได้ด้วยเช่นเดียวกัน

การก้าวเข้ามาของยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีคงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าในตอนนี้เงินดิจิตอลนั้นได้รับการยอมรับอย่างจริง ๆ จัง ๆ ทั่วโลกเลยทีเดียว และในอนาคตคงมียักษ์ใหญ่อีกหลาย ๆ เจ้าเข้ามาร่วมวงการนี้อีกอย่างแน่นอน

ในส่วนของราคาของตลาดในตอนนี้ก็ถือว่ากำลังอยู่ในทิศทางที่ดีเลยทีเดียวเหรียญหลายๆ เหรียญนั้นมีราคาพุ่งสูงขึ้นและโครงสร้างผลกำไรให้กับนักลงทุนได้ไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนนั้นก็ยังมีความเสี่ยง ควรศึกษาวิธีการลงทุนให้ดีเสียก่อนที่จะเริ่มลงทุน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก mgrOnline

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com