Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่พาตลาดคริปโตราคาพุ่ง

Bitcoin ทรัพย์สินดิจิตอลที่มีอายุเพียงแค่สิบกว่าปีแต่สามารถสร้างกำไรให้กับนักลงทุนมหาศาลซึ่งในปี 2021 นี้ก็เป็นปีที่มีการพูดถึง Bitcoin มาตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้นับตั้งแต่ต้นปีที่ราคาไปแตะ 1 ล้านบาทก็สามารถดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้ามาลงทุนได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียวและราคาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนเมษายนที่ราคาสามารถดันไปสูงถึง 2,120,000 บาทโดยประมาณซึ่งพอราคาทำจุดสูงสุดดังกล่าวได้ ทั่วทั้งโลกก็ให้ความสนใจมากขึ้นปี

ทำให้เกิดข่าวมากมายเลยทีเดียวซึ่งเป็นทั้งข่าวในแง่บวกและแง่ลบทำให้ส่งผลต่อราคาเหรียญ Bitcoin อยู่บ่อยครั้งหลังจากที่เดือนเมษายนราคาทำจุดสูงสุดใหม่ได้ราคาก็เริ่มดิ่งลงมากกว่า 50% ลงมาเหลือราคา 1 ล้านบาทซึ่งในช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่มีข่าวดีประกอบกับข่าวร้ายด้วยเช่นเดียวกันซึ่งข่าวดีก็มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ราคาของเหรียญนั้นพุ่งขึ้นแต่ก็ดูเหมือนว่าตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนสิงหาคมราคาของ Bitcoin ก็ยังนิ่งสนิทถึงแม้ว่าจะมีการปรับตัวขึ้นไปบ้างในบางช่วงก็ตามที แต่หลังจากเดือนกันยายนเป็นต้นมาราคาของ Bitcoin ก็ดูเหมือนจะกลับมาสูบในตลาดกระทิงอีกครั้งและก็มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ราคาของ Bitcoin ก็ทำจุดสูงสุดใหม่อย่างเป็นทางการโดยมีราคาสูงถึง 2,200,000 บาทโดยประมาณเลยทีเดียว ประกอบกับข่าวว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดกองทุน ETF Bitcoin future คงเป็นเหตุผลว่าทำไมราคาของ Bitcoin ถึงพุ่งแรงได้ขนาดนี้

จากการขึ้นของเหรียญใหญ่อย่าง Bitcoin ทำให้วันนี้เหรียญเล็ก ๆ ที่อยู่ในตลาดมีราคาปรับตัวสูงขึ้นตามมาโดยทันที ซึ่งก็คงสร้างผลกำไรให้กับนักลงทุนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่สำหรับผู้ที่ตัดสินใจที่จะซื้อ Bitcoin ในช่วงนี้ ก็ต้องขอแนะนำว่าช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงที่ดีที่สุดที่จะเข้าไปซื้อเก็บเพราะว่าราคานั้นได้ขึ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีการย่อของราคาลงมาได้บ้าง สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะซื้อ Bitcoin ก็รอตอนที่ราคามันลดลงมาดีกว่า เพราะไม่งั้นอาจจะขาดทุนก็ได้

นอกจาก Bitcoin แล้ว Ethereum ก็เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่เข้าใกล้จุดสูงสุดเดิมเข้าไปทุกขณะโดยเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาราคาของ Ethereum สามารถไปได้ถึง 142,500 บาทโดยประมาณและก็ย่อตัวตาม Bitcoin มาในช่วงเวลาหลังจากนั้นจนล่าสุดในวันที่ 21 ตุลาคมราคาของเหรียญดังกล่าวก็อยู่ที่ 139,000 บาทโดยประมาณไม่มี

ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่พึ่งได้ยินข่าวเกี่ยวกับ Bitcoin ก็ขอให้เลือกลงทุนเหรียญที่เป็นเหรียญพี่เป็นอันดับต้น ๆ ของ marketcap โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ Coinmarketcap เพราะว่าเป็นเหรียญที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีกว่าเหรียญเล็ก ๆ และเมื่อมีความสามารถมากพอก็จึงค่อยนำเงินไปใช้กับเหรียญเล็ก ๆ เพราะว่าในบางทีเล็ก ๆ ก็สร้างกำไรมากกว่าเหรียญใหญ่ ๆ ในตลาด

ภาพจาก Pixabay

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เริ่มรับชำระเงินด้วย Bitcoin และ Ether

ในตอนนี้หลาย ๆ ประเทศนั้นกำลังเริ่มต้นทดลองการเริ่มรับชำระสินค้าและบริการต่าง ๆ ด้วยคริปโตเคอเรนซี่แล้ว ซึ่งก็ส่งผลดีอย่างมากเลยทีเดียวกับวงการคริปโตเคอเรนซี่ หลังจากหลาย ๆ ประเทศ หลาย ๆ บริษัทเริ่มหันมาก้าวเข้าสู่วงการนี้ ประเทศอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่วงการเงินดิจิตอลนั้นก็เริ่มที่จะทำตามเป็นทำนองเดียวกันหนึ่งในนั้นก็คือประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นอนุญาตให้ผู้ค้าขายจำนวนไม่น้อยกว่า 850,000 คนสามารถรับชำระเงินจากลูกค้าเป็น Bitcoin และ Ether ได้แล้วในตอนนี้ โดยเป็นการร่วมงานกันระหว่าง Worldline ที่เป็นบริษัทชำระเงินและบริการการทำธุรกรรมประเทศฝรั่งเศส กับ Bitcoin Suisse บริษัทบริการการเงินคริปโตของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงได้มีการร่วมงานกันมาตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2019 โดยได้ตั้งชื่อการให้บริการการชำระเงินด้วยคริปโตนี้ว่า “WL Crypto Payments”

โดยผู้ค้าขายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์สามารถที่จะใช้บริการดังกล่าวได้โดยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน WL Crypto Payments หรือติดตั้ง Worldline payment plugin บนร้านค้าออนไลน์ของพวกเขา ซึ่งผู้ที่ต้องการที่จะชำระเงินด้วยเงินดิจิตอลนั้นจำเป็นที่จะต้องมีแอปพลิเคชัน cryptocurrency wallet โดยราคาของเหรียญ Bitcoin และ Ether นั้นจะขึ้นเป็นรูปแบบเรียลไทม์โดยใช้คู่เงิน Swiss Francs ซึ่งระบบทั้งหมดนั้นมีความปลอดภัยมากและทันทีที่มีการชำระเงินด้วย bitcoin หรือว่า Ether ระบบจะมีการแปลงเหรียญเป็น Swiss Francs หลังจากการทำธุรกรรมได้รับการยืนยัน

ซึ่งการชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ นั้นในตอนนี้ทาง Worldline ประสบความสำเร็จในช่วงการทดสอบ pilot programme และได้มีให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการสำหรับผู้ค้าขายที่ใช้บริการของ Worldline

ย้อนกลับไปปี 2019 ทางบริษัทนั้นตั้งใจให้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการเงินคริปโตเคอเรนซี่ที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นมีบริษัทจำนวนไม่น้อยกว่า 800 บริษัทที่เสนอให้บริการรวมไปถึงที่จะมีการพัฒนาสำหรับเงินคริปโตเคอเรนซี่และบล็อกเชน

นี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่จะทำให้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นมีความก้าวหน้าในเรื่องการเงินยุคใหม่ได้เร็วกว่าประเทศอื่น ๆ เลยก็เป็นได้ และในอนาคตเราคงจะได้เห็นอีกหลาย ๆ ประเทศเริ่มหันมายอมรับเงินดิจิตอลมากขึ้น ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะมีการสร้างสกุลเงินดิจิตอลของตนเองขึ้นมาใช้งานก็ตามไม่ว่าจะเป็นดิจิตอลหยวนของประเทศจีนหรือว่าในประเทศไทยตอนนี้ก็กำลังมีแผนการที่จะพัฒนาดิจิตอลบาทด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Gadgets.ndtv

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook