จีนเปิดตัวแอป E-CNY

E-CNY

จีนเปิดตัวแอป E-CNY ระบบ iOS และ Android

นับตั้งแต่คริปโตเคอเรนซี่กลายเป็นที่นิยมและถูกพูดถึงไปทั่วโลกประเทศหลายๆประเทศก็ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้บางประเทศเห็นด้วยบางประเทศไม่เห็นด้วยไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้งานหรือการประกอบธุรกิจ หนึ่งในประเทศที่แสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจนมากที่สุดก็คือประเทศจีน

ประเทศจีนเป็นประเทศที่กระแสเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่ไม่ดี รัฐบาลออกมาสั่งห้ามทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่  เนื่องจากกลัวมีปัญหาในเรื่องของการเงินเสถียรภาพในการควบคุมเงินนั่นเอง หลังจากสั่งระงับไม่ให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่โดยทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการขุดเหมือง การประกอบกิจการประเภทศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยน ทางรัฐบาลของประเทศจีนก็พยายามที่จะผลักดันระบบการเงินดิจิตอลของตัวเองขึ้นมาซึ่งนั่นก็คือ CBDC 

CBDC หรือว่า Digital Yuan ในประเทศจีนเป็นที่ถูกพูดถึงมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วและก็เริ่มมีการใช้ทดลองใช้จริงแล้วในปัจจุบันนี้ โดยประเทศจีนได้มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับการใช้งาน CBDC ในชื่อแอปพลิเคชัน “E-CNY”  ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และระบบปฏิบัติการ iOS แอพพลิเคชั่นดังกล่าวได้ถูกจัดทำโดยสถาบันสกุลเงินดิจิทัลของ PBoC (ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน)  ซึ่งพื้นที่ที่มีการทดลองใช้งานแอพพลิเคชั่นดังกล่าวก็คือ  เซินเจิ้น, ฉางซา, เซี่ยงไฮ้, เซียงอัน, ไห่หนาน, ซีอาน, เฉิงตู,  ซูโจว, ต้าเหลียน, ชิงเต่า และ พื้นที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว

โดย E-CNY จะใช้เป็นกระเป๋าตังค์ส่วนตัวในการเก็บเงิน Digital Yuan ใช้ในการแลกเปลี่ยนเงินตรา  ซึ่งถ้าหากประสบความสำเร็จในการทดลองใช้งานก็คงมีการขยายพื้นที่ในการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนเลยทีเดียว 

จากประเทศจีนแล้วประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้มีการพูดถึง CBDC เมื่อช่วงปีที่ผ่านมาและจะมีการเริ่มต้นพัฒนาและอาจจะมีการใช้งานกันในปีนี้ ซึ่งการมาถึงของ CBDC  ในประเทศไทยก็มีเหตุผลมาจากการที่ในประเทศเริ่มมีความนิยมของคริปโตเคอเรนซี่มากขึ้นและธุรกิจหลายๆธุรกิจเริ่มหันมารับเงินคริปโตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการออกมาเตือนว่าไม่ควรนำไปใช้งานก็ตามที นอกจากนี้เรื่องความเคลื่อนไหวของ CBDC ในประเทศไทย กรมสรรพากรของประเทศไทยก็เริ่มจริงจังในเรื่องการออกกฎระเบียบในการเก็บภาษีเงินได้จากการแลกเปลี่ยนซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่อีกด้วย 

ก็ต้องมาติดตามดูว่าอนาคตของคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรและ CBDC ที่จะมาในรูปแบบ Baht Digital จะสามารถถูกนำมาใช้งานได้จริงหรือไม่ และจะมีการนำร่องในพื้นที่โดยก่อนในส่วนนี้ก็คงต้องมาติดตามดูกันต่อไป

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Bitcoin Addict Thailand

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ประเทศอินเดียวางรากฐาน CBDC เตรียมแบนคริปโต

CBDC

เงินดิจิตอลหรือคริปโตเคอเรนซี่กลายเป็นจุดสนใจของคนจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก

เงินดิจิตอลหรือคริปโตเคอเรนซี่กลายเป็นจุดสนใจของคนจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกในด้านของการลงทุน เก็งกำไร เล่นเกม และในด้านอื่น ๆ ซึ่งตลอดช่วงปีที่ผ่านมาก็สร้างผลกำไรตอบแทนได้ไม่น้อยเลยทีเดียวด้วยลักษณะเด่นของคริปโตเคอเรนซี่ที่ไร้ศูนย์กลาง อยู่นอกเหนืออำนาจของรัฐบาลทุก ๆ ประเทศทำให้การถือครองสกุลเงินดังกล่าวนั้นจะเป็นของคนที่ถือครองอย่างแท้จริงและไม่มีใครสามารถมายึดได้ด้วยเหตุนี้ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มหันมาสนใจในตัวเงินดิจิตอลมากขึ้น

ในขณะที่รายย่อยเริ่มเข้ามาสนใจบริษัทใหญ่ ๆ ก็เริ่มสนใจด้วยเช่นเดียวกันแต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ารัฐบาลของหลาย ๆ ประเทศกำลังหาทางควบคุมและดูแลในเรื่องนี้อยู่ ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเราได้เห็นประกาศจากทางประเทศจีนว่าประเทศจีนจะมีการแบนเงินดิจิตอลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการลงทุนการแลกเปลี่ยนซื้อขายรวมไปถึงการทำอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin ทำให้ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจดังกล่าวเดินทางออกจากประเทศจีนและหาพื้นที่ใหม่ในการประกอบธุรกิจต่อไป ตัวล่าสุดประเทศอินเดียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่จะมีการวางแผนที่จะระงับการใช้งานคริปโตเคอเรนซี่

โดยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาทางรัฐบาลของประเทศอินเดียได้ออกร่างกฎหมายแบนคริปโต โดยจะเหลือไว้แค่เพียงสกุลเงินบางตัวที่สามารถมีประโยชน์ทั้งในด้านเทคโนโลยีและในด้านการใช้งาน และมีแผนการที่จะเริ่มต้นวางรากฐาน CBDC ของประเทศเอง (CBDC คือสกุลเงินดิจิตอลที่อ้างอิงกับเงินสกุลหลักภายในประเทศ ตัวอย่างเช่นหยวนดิจิตอล) ซึ่งการมี CBDC จะช่วยให้รัฐบาลสามารถควบคุมการเงินได้นั่นเอง ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำการระงับการใช้งานคริปโตเคอเรนซี่นั้นก็เพราะว่ามันเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน CBDC นั่นเอง

หลังจากการประกาศครั้งนี้ออกมาก็ทำให้ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศอินเดียปั่นป่วนเลยทีเดียว คนจำนวนมากมายแห่ขายเหรียญที่ตัวเองถือไว้จนมีราคาลดลงอย่างรวดเร็ว โดยราคาของ Bitcoin ลดลงมากกว่า 14 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงสกุลเงินอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งทางประธานของตลาดซื้อขายคริปโตของประเทศอินเดียอย่าง WazirX ก็ได้ออกมาบอกว่าการเทขายครั้งนี้เกิดจากความตื่นตระหนกของนักลงทุน โดยในประเทศอินเดียในตอนนี้มีนักลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 20 ล้านรายด้วยกัน

สำหรับคริปโตเคอเรนซี่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับสกุลเงินดังกล่าวแต่อย่างไรก็ตามในประเทศที่เห็นด้วยหรือในพื้นที่ที่เห็นด้วยก็มีการผลักดันกันอย่างเต็มที่เลยทีเดียว ก็ต้องมาดูกันว่าในอนาคตคริปโตเคอเรนซี่จะถูกใช้งานในประเทศไหนบ้างและจะถูกใช้งานในรูปแบบใด แล้วจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างกับรัฐบาลในแต่ละประเทศ

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก MGROnline

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook