App Store ทำรายได้มากกว่า 260 พันล้านเหรียญ

App Store

ผู้พัฒนา App Store ทำรายได้มากกว่า 260 พันล้านเหรียญ

บริษัท Apple เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมาให้พวกเราได้ใช้งานกันอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPod, iPad, iMac, Macbook, Apple Watch และอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งสินค้าแต่ละตัวนั้นก็มีการออกใหม่มาแทบจะทุกปีเลยก็ว่าได้ และยังคงเป็นที่นิยมของผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ในแต่ละปี Apple สามารถที่จะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้จากการขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้

นอกจากขายอุปกรณ์เทคโนโลยีแล้วบริษัท Apple ยังเป็นตัวกลางในการจำหน่ายแอปพลิเคชันอีกด้วย  โดย Apple มีร้านค้าแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า App Store ซึ่งเปิดบริการครั้งแรกในปี 2008 โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนา App สามารถมาพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ และนำมาลงขายใน App Store ได้โดย Apple จะหัก 30% จากรายได้ต่อการขาย 1  ธุรกรรม  ซึ่งก็มีผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นมากมายที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ และนำมาลงใน App Store  นับตั้งแต่ App Store เปิดตัวมาจนถึงปัจจุบันนี้ผู้พัฒนา App สามารถสร้างรายได้จากการขายแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้มากถึง  260 พันล้านเหรียญเลยทีเดียวและในปีที่ผ่านมาก็สร้างรายได้ไปกว่า 60 พันล้านเหรียญ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเงินที่ได้มานั้นผู้พัฒนาก็ไม่ได้เงินอย่างเต็มที่เพราะนโยบายของ Apple ที่จะต้องหัก 30% นั่นเองแถมบริษัท Apple ก็ยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้พัฒนารับเงินจากการขายบริการต่าง ๆ จากผู้ใช้งานโดยตรงอีกด้วยทุกอย่างจะต้องผ่าน Apple ซึ่งในส่วนนี้ก็ทำให้เกิดเป็นเรื่องเป็นราวระหว่าง Epic Games กับ Apple โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับเกม Fortnite  

นอกจากการซื้อขายแอปพลิเคชันบน App Store แล้ว ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาบริษัท Apple ได้มีการเปิดเผยว่ามีผู้ใช้งานจำนวนกว่า 745 ล้านที่มีการจ่ายค่าบริการต่าง ๆ ของ Apple ว่าจะเป็น Apple Music, Apple TV+, iCloud, Apple Arcade, Apple News+, และ Apple Fitness+  ซึ่งจำนวน 745 ล้านที่เป็นจำนวนของผู้ที่เข้ามาใช้จ่ายค่าบริการเป็นจำนวนที่สูงขึ้นมากกว่าปี 2020 ถึง 160 ล้านเลยทีเดียว ซึ่งในส่วนนี้ก็สร้างรายได้ให้กับ Apple เป็นจำนวนมาก  โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วบริษัท Apple ก็สร้างรายได้เข้ากับบริษัทไปกว่า 83.4 พันเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 29 เปอร์เซ็นต์เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปี 2020

 จากการขายสินค้าและบริการต่าง ๆ มากมายบริษัท Apple และการมีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาอยู่เสมอทำให้บริษัท Apple เป็นบริษัทที่เติบโตขึ้นอย่างมากและเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัท Apple ก็มีมูลค่าของบริษัทเกินกว่า 3 ล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คงตอบโตขึ้นอีกมากในอนาคตและในปีนี้ก็คงต้องมาติดตามดูว่าจะมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆให้พวกเราได้ติดตามชมกันบ้าง 

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บริษัท Apple เปิดตัวได้อย่างสวยหรูในปี 2022

Apple

บริษัท Apple เปิดตัวได้อย่างสวยหรูในปี 2022 มูลค่าบริษัททะลุ 3 ล้านล้านล้านดอลลาร์

เมื่อพูดถึงบริษัทที่ประกอบธุรกิจรายใหญ่ของโลก หนึ่งบริษัทที่จะต้องนึกถึงเลยก็คือบริษัท Apple บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ผลิตเทคโนโลยีมาให้พวกเราได้ใช้งานกันพี่ช่วงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาและได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ ยอดขายผลิตภัณฑ์ในแต่ละปีก็เรียกได้ว่าถล่มทลาย และก็ยังไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เลยแม้แต่ปีเดียว

จำนวนยอดการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปีทำให้บริษัท Apple เติบโตขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถดูได้จากหุ้นของ Apple ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นในแต่ละปีนับตั้งแต่ปี 2019 ก็มีราคาสูงขึ้นมาอย่างมากเลยทีเดียวเพียงเวลาแค่ 3 ปีบริษัท Apple บริษัท Apple มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 400 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวโดยเพิ่มจากราคาประมาณ 40 ดอลลาร์ในวันที่ 2 มกราคม 2019 มาเป็น 182 ดอลลาร์ในวันที่ 4 มกราคม 2022 (อิงจากกราฟราคาเว็บไซต์เทรดดิ้งวิว) การเติบโตอย่างเร็วขนาดนี้ทำให้บริษัทแอปเปิ้ลกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าของบริษัทเกิน 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะเวลาเพียง 1 ปีกว่าเท่านั้นเอง 

และบริษัท Apple จึงกลายเป็นบริษัทแรกที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่ามากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือว่าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมากและเป็นบริษัทที่เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่างที่อยู่บนโลกของเรา

ถึงแม้ว่าบริษัท Apple จะเป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิดเหมือนกับบริษัทอื่น ๆ ทั่วโลก แต่ก็ยังสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาให้ผู้บริโภคได้ใช้งานกันได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ เลยทีเดียวที่สำคัญผลิตภัณฑ์ที่ถูกเปิดตัวมานั้นก็เป็นที่นิยมเสียด้วย โดยเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมาบริษัท Apple สามารถจำหน่าย Airpods จำนวนกว่า 27 ล้านเครื่อง ซึ่งทำให้บริษัทเติบโตปีต่อปีกว่า 20% เลยทีเดียว และในช่วงไตรมาสที่ 4 บริษัท Apple สามารถเติบโตปีต่อปีได้สูงถึง 29% จากการขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โทรศัพท์ iPhone ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ชูโรงของ Apple

ปี 2022 นี้ก็ต้องมาติดตามดูว่าบริษัท Apple จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อะไรบ้างออกมาให้พวกเราได้เห็นกัน จะเป็น iPhone รุ่นใหม่ iPad รุ่นใหม่ หรือว่า Apple Watch รุ่นใหม่ หรือว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือซอฟต์แวร์อื่น ๆ ก็คงต้องมาติดตามกันในช่วงกลางปีและช่วงปลายปีที่จะมีการจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Apple แล้วที่สำคัญราคาของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นั้นจะมีราคาเท่าไหร่กันบ้างเพราะในแต่ละปีผลิตภัณฑ์ที่ออกโดย Apple และมีราคาสูงขึ้นทุกปีเลยทีเดียว แต่ก็มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก CNBC , iPhonemod

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Tim Cook ถือคริปโตแต่บริษัท Apple ไม่

Tim Cook

Tim Cook CEO ของบริษัท Apple

ถึงแม้ว่าคริปโตเคอเรนซี่จะกลายเป็นจุดสนใจการลงทุน มีบริษัทมากมายเข้ามาซื้อคริปโตเก็บไว้ภายในบริษัทไม่ว่าจะเป็น Tesla หรือว่า Square แต่ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่วงการนี้และยังไม่มีความคิดที่จะซื้อคริปโตเก็บไว้หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ยังไม่มีความคิดดังกล่าวเลยก็คือบริษัท Apple ยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยี

ถึงแม้ว่าในตอนนี้หลายๆ บริษัทเริ่มมีการทดลองการซื้อขายสินค้าและบริการด้วยสกุลเงินดิจิตอลแล้วแต่สำหรับ Apple นั้นดูเหมือนว่ายังไม่มีแผนในตอนนี้และในอนาคตด้วยเช่นเดียวกันและทางบริษัทของ Apple ก็ยังไม่มีแผนที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่อีกด้วย ถึงแม้ว่า CEO ของบริษัทอย่าง Tim Cook จะสนใจในสกุลเงินดิจิตอลก็ตามทีและโดยส่วนตัวของเขาเองก็มีการซื้อเก็บไว้ด้วยเช่นเดียวกันแต่ก็ไม่ได้มีการบอกว่าเขาได้มีการซื้อเหรียญได้เก็บไว้บ้างในพอร์ตของเขา เพิ่งกินโค้กก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อนิวยอร์กไทมส์ว่า “มันมีเหตุผลที่จะถือเหรียญคริปโตในส่วนหนึ่งของพอร์ต ซึ่งฉันสนใจมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว” และเขายังบอกกับนิวยอร์กไทมส์อีกด้วยว่า “คนที่เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท Apple พวกเขาคงไม่ได้เข้ามาซื้อเพราะต้องการที่จะเห็นคริปโตเคอเรนซี่ แล้วถ้าพวกเขาต้องการทำเช่นนั้นพวกเขาก็แค่ซื้อที่ Exchange ซื้อขายโดยตรง”

อย่างไรก็ตามเขาก็ได้พูดถึงอนาคตของคริปโตเคอเรนซี่ด้วยเช่นเดียวกัน โดย Tim Cook บอกไว้ว่า “มีอีกสิ่งหนึ่งที่เชื่อมโยงกับคริปโต แต่เขายังไม่ออกมาประกาศในเร็ว ๆ วันนี้อย่างแน่นอน

ในแง่มุมของบริษัทในอนาคต Tim Cook ก็ยังไม่ได้พูดเกี่ยวกับอนาคตมากมาย เพราะว่าปัจจุบันบริษัทก็มีงานล้นมืออยู่แล้วและพยายามที่จะทำให้เรื่องของอนาคตเป็นความลับ และการเปิดเผยความลับเหล่านั้นก็ไม่ใช่แนวทางของบริษัท

สำหรับในปีนี้บริษัท Apple ก็กำลังเข้าสู่ช่วงที่จะจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ได้เปิดตัวมาในช่วงกลางปีจนถึงช่วงปลายปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น iPhone 13, iPad, MacBook, iMac รวมไปถึง Apple Watch และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่และประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่ารุ่นก่อนทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของ Apple นั้นมีราคาที่สูงอย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่อยู่ภายในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของ Apple นั้นก็ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจริง ๆ เพราะฉะนั้นราคาก็เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลกับประสิทธิภาพการทำงาน อีกทั้งยังการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ก็ยิ่งทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก

ในปีหน้าก็คงต้องมาติดตามดูว่าทางบริษัท Apple จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่ทำให้เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจเช่นเดียวกับปีนี้

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก CNN

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ซื้อ Bitcoin ผ่าน Coinbase ด้วย Apple pay

Bitcoin

ปี 2021 ถือว่าเป็นปีทองของเงินดิจิตอลเพราะว่าเป็นปีที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับเงินดิจิตอลมากขึ้นในทรัพย์สินที่ใช้ในการเก็บออมรวมไปถึงใช้ในการทำกำไร ซึ่งการมาของเงินดิจิตอลในปีนี้นั้นทำให้ทั่วทั้งโลกได้ตระหนักถึงการเข้ามาเปลี่ยนแปลงบทบาททางด้านการเงินได้เป็นอย่างดี ด้วยประเด็นนี้ทำให้หลายๆ บริษัทและหลาย ๆ ประเทศนั้นมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถเข้าถึงเงินดิจิตอลได้มากที่สุด

ซึ่งเราก็คงได้เห็นข่าวคราวกันมาโดยตลอดบางประเทศยอมรับ Bitcoin เป็นเงินที่สามารถชำระเงินที่ถูกกฎหมาย บางประเทศก็เริ่มมีการพิจารณากฎหมายการใช้งานเงินดิจิตอลแล้วด้วย บางบริษัทก็ใช้เงินดิจิตอลน้ำในการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ซึ่งการขยับเขยื้อนของ Bitcoin และเงินสกุลดิจิตอลต่าง ๆ ในประเทศเล็ก ๆ ในบริษัทเล็ก ๆ ทำให้ยักษ์ใหญ่ของโลกจะต้องทำการปรับตัวด้วยเช่นเดียวกัน

บริษัท Apple เป็นอีก 1 บริษัทที่ดูเหมือนว่าจะขยับเข้ามาร่วมวงการนี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยทาง Coinbase ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนยักษ์ใหญ่ของประเทศอเมริกาได้ออกมาบอกว่าในตอนนี้ลูกค้าที่ใช้งาน Coinbase อยู่นั้นสามารถที่จะซื้อเงินดิจิตอลผ่าน Apple pay ได้แล้ว ซึ่งการเพิ่มช่องทางในการชำระเงินใหม่มาทำให้ผู้คนนั้นสามารถเข้าถึงคริปโตเคอเรนซี่หรือว่าเงินดิจิตอลได้มากขึ้น ที่สำคัญเลย Apple Pay ยังเป็นการทำธุรกรรมของ Apple ที่มีการยอมรับว่ามีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงมาก

ซึ่งทาง Coinbase สามารถให้ผู้ใช้บริการ Apple Play สามารถโอนหรือว่าซื้อขายคริปโตได้ด้วยจำนวนเงินสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้บริการดังกล่าวผ่านอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และเว็บเบราว์เซอร์ Safari ในภายหลังทาง Coinbase จะเพิ่มภูมิภาคที่ให้บริการอีกด้วย

นอกจาก Apple pay ของบริษัท Apple แล้วดูเหมือนว่า Coinbase จะไม่หยุดเดินหน้าขยายการทำธุรกรรมเพียงเท่านี้ในอนาคต Google pay ของบริษัท Google ก็จะได้รับการพิจารณาเฮ้ยสามารถโอนแล้วซื้อขายคริปโตได้ด้วยเช่นเดียวกัน

การก้าวเข้ามาของยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีคงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าในตอนนี้เงินดิจิตอลนั้นได้รับการยอมรับอย่างจริง ๆ จัง ๆ ทั่วโลกเลยทีเดียว และในอนาคตคงมียักษ์ใหญ่อีกหลาย ๆ เจ้าเข้ามาร่วมวงการนี้อีกอย่างแน่นอน

ในส่วนของราคาของตลาดในตอนนี้ก็ถือว่ากำลังอยู่ในทิศทางที่ดีเลยทีเดียวเหรียญหลายๆ เหรียญนั้นมีราคาพุ่งสูงขึ้นและโครงสร้างผลกำไรให้กับนักลงทุนได้ไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนนั้นก็ยังมีความเสี่ยง ควรศึกษาวิธีการลงทุนให้ดีเสียก่อนที่จะเริ่มลงทุน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก mgrOnline

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com