คริปโตเคอเรนซี่ถูกโจรกรรมไปกว่า 14 พันล้านดอลลาร์

คริปโตเคอเรนซี่

คริปโตเคอเรนซี่ถูกโจรกรรมไปกว่า 14 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่ผ่านมา

ต้องยอมรับว่าเมื่อปีที่ผ่านมาคริปโตเคอเรนซี่กลายเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากและสามารถดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามามากมายเลยทีเดียวหลายๆ คนสามารถสร้างประโยชน์จากมันได้ไม่ว่าจะเป็นการทำเป็นเกม การซื้อขายเพื่อทำกำไร และอื่น ๆ ซึ่งนวัตกรรมที่มีหลากหลายนี้ทำให้สามารถดึงดูดผู้คนใหม่ๆ เข้ามาได้มากมายซึ่งผู้คนเหล่านี้ก็อาจจะไม่มีความรู้ในเรื่องของคริปโตเคอเรนซี่มากนักทำให้ตลาดคริปโตเคอเรนซี่ที่ดูเหมือนว่าจะมีประโยชน์และสร้างรายได้ให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อย ก็มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีบางส่วนที่ใช้ตลาดนี้เป็นเครื่องมือหาเงิน

เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมาตลาดคริปโตเคอเรนซี่มีการโจรกรรมเกิดขึ้นมากมายซึ่งจากการรายงานจาก Chainalysis คนพบว่ามีจำนวนเงินกว่า 14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ถูกโอนไปยังกระเป๋าเงินผิดกฎหมาย ซึ่งถึงแม้จะเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลแต่มันก็น้อยกว่า 1% ของการทำธุรกรรมทั้งหมด เมื่อช่วงปีที่ผ่านมานี้คริปโตเคอเรนซี่มีปริมาณการทำที่เพิ่มขึ้นโดยคิดเป็น 15.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าปี 2020 ถึง 500 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว มีเพียงแค่ 0.15% เพียงเท่านั้นที่เป็นธุรกรรมที่ถูกโอนไปกระเป๋าเงินที่ผิดกฎหมาย 

การโจรกรรมในตลาดคริปโตเคอเรนซี่สามารถทำได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการสร้างเหรียญ Scam การ Rug Pool และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเมื่อปีที่ผ่านมาผู้คนถูกหลอกลวงจากเหรียญ Scam มากกว่า 80% เลยทีเดียวคิดเป็นจำนวนเงิน 7.8 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ถูกโจรกรรมโดยการ Rug Pool ไปกว่า 2.8 พันล้านเหรียญ 

เมื่อคริปโตเคอเรนซี่ได้รับความนิยมมากขึ้นทำให้มันกลายเป็นกระแสหลักเนื้อเรื่องของการลงทุนในปัจจุบันนี้และคงจะเป็นกระแสในอนาคตอย่างแน่นอนเลยทีเดียวแต่ยิ่งได้รับความนิยมมากเท่าไหร่การโจรกรรมก็เพิ่มสูงขึ้นมากเท่านั้น โดยเมื่อปีที่ผ่านมา The IRS Criminal Investigations ได้มีการยึดเงินคริปโตเคอเรนซี่ไปกว่า 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ The Department of Justice ก็ได้มีการยึดไปกว่า 53 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าตลาดคริปโตเคอเรนซี่จะมีผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจแต่ด้วยความที่เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มากทำให้ผู้ที่เข้ามาลงทุนที่เป็นนักลงทุนหน้าใหม่อาจจะยังไม่มีความรู้ที่ครอบคลุมและบางครั้งก็อาจจะทำอะไรที่มีความเสี่ยงไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งก็อาจจะทำให้สูญเสียเงินได้ ดังนั้นหากต้องการที่จะเริ่มลงทุนในตลาดนี้ก็มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้เพียบพร้อมเสียก่อน เพื่อไม่ให้ถูกหลอก และสามารถรับความเสี่ยงได้เพราะนอกจากจะมีการโจรกรรมอยู่ในตลาดนี้แล้ว โดยธรรมชาติของตลาดนี่เองก็มีความผันผวนสูงดังนั้นคนที่รับความเสี่ยงสูงไม่ได้ก็อาจจะไม่ควรที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Bitmart ถูกโจมตีสูญเสียเงินจำนวน 150 ล้านดอลลาร์

Bitmart

Bitmart ตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายคริปโต

เป็นอีกหนึ่งครั้งในช่วงปลายปีที่แฮกเกอร์เข้ามาโจมตี ตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายคริปโต ซึ่งครั้งนี้เป็นการโจมตี Centerized Exchage ที่มีชื่อว่า Bitmart โดยสูญเสียเงินเป็นจำนวน 150 ล้านดอลลาร์

Centerized Exchage คือตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายคริปโต ที่เปิดให้ทุกคนเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้ผ่านตัวกลางที่มีผู้ควบคุมและดูแล ตัวอย่างเช่น Binance, Bitkub หรือ Zipmex ซึ่งมีการเชื่อมต่อกระเป๋าบนโลกออนไลน์และเปิดตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมงเพื่อเปิดให้นักลงทุนได้เข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอลต่าง ๆ และด้วยความที่เปิดออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาโจมตีได้นั่นเอง

โดยการโจมตีครั้งนี้ได้ถูกยืนยันโดย Sheldon Xia ประธานบริษัทของ Bitmart โดยได้รับข้อมูลมาจาก Peckshield บริษัทความปลอดภัยบล็อกเชนและวิเคราะห์ข้อมูล โดยทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปนั้นได้ถูกขโมยจาก Hot Wallet (กระเป๋าเก็บทรัพย์สินออนไลน์) จาก Ethereum Chain และ Binance Smart Chain จากการวิเคราะห์ของ Peckshield แฮกเกอร์ได้เข้ามาขโมย private key ซึ่งเป็นกุญแจหรือรหัสลับที่ใช้ในการเปิดกระเป๋าเงินเก็บทรัพย์สินออนไลน์ของทาง Bitmart ออกไป โชคยังดีแฮกเกอร์นั้นไม่ได้ขโมยเงินทั้งหมดออกไปเนื่องจากเงินบางส่วนได้ถูกจัดเก็บไว้อีกที่หนึ่ง

อย่างไรก็ตามนักลงทุนจำนวนมากมายที่ได้ลงทุนในตลาดซื้อขายของ Bitmart ก็ต่างพากันกังวลเรื่องผลกระทบที่จะได้รับทำให้มีการสอบถามไปยังช่อง Telegram ของ Bitmart แต่ก็ได้รับข้อมูลที่เป็นเท็จกลับมา ซึ่งอาจจะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ Bitmart ลดลงไม่มากก็น้อย

ทาง Huobi Global ก็ได้มีการออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วยว่าแพลตฟอร์มตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายคริปโตควรมีระบบการป้องกันที่ดีกว่านี้เพื่อป้องกันการโจรกรรมต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งก็อาจจะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยและความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียทรัพย์สินที่ลงทุนไป

โชคยังดีที่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะว่าในปีนี้ประเทศไทยมีคนจำนวนมากมายเริ่มหันมาลงทุนในทรัพย์สินดิจิตอล เนื่องจากสามารถสร้างกำไรให้กับนักลงทุนได้ แต่ก็มีข่าวออกมาให้เห็นประปรายว่ามีจำนวนคนบางส่วนที่ถูกแฮกเกอร์เข้ามาแฮกกระเป๋าเพื่อขโมยเงินออกไป แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะเงียบไป

เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เราควรเลือกใช้งานแพลตฟอร์มตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนหลาย ๆ แพลตฟอร์ม เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วควรจะมีการจัดสรรพอร์ตการลงทุนให้ดีด้วยเช่นเดียวกัน ในตลาดที่มีความผันผวนสูงและเชื่อมต่ออยู่บนโลกออนไลน์ตลอดเวลาอาจจะมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัวก็เป็นได้

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก CNN, อีไฟแนนซ์ไทย

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

คดีพลิก! Poly Network จ้างแฮกเกอร์รับตำแหน่งที่ปรึกษา

Poly Network

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีข่าวเกี่ยวกับการโจรกรรมเงินจำนวนกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปจากโครงการ DeFi ที่มีชื่อว่า Poly Network โดยการโจรกรรมครั้งนี้ได้ทำโดยการแฮกเข้ามาสู่ระบบผ่านช่องโหว่ของแพลตฟอร์ม และทำให้การโจรกรรมครั้งนี้ถือว่าเป็นการโจรกรรมที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของ DeFi เลยก็ว่าได้ และทำให้ Poly Network นั้นมีท่าทีที่จะฟ้องร้องการโจรกรรมครั้งนี้เลยทีเดียว

สำหรับ Poly Network เป็นโครงการ DeFi ที่ให้บริการในการแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอล ซึ่งมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก และมีความปลอดภัยในระดับหนึ่งซึ่งใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการทำโครงการ และอย่างที่เรารู้กันว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ทำให้การโจรกรรมครั้งนี้สามารถระบุที่อยู่ของเงินที่ถูกขโมยไปได้รวมไปถึงจำนวนเงินและสกุลเงินด้วย ซึ่งภายหลังทางแฮกเกอร์ที่ได้มีการแฮกเข้ามาในระบบและขโมยเงินไปจำนวนกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็ได้เริ่มมีการทยอยคืนเงินบางส่วนให้กับทาง Poly Network จนถึงปัจจุบันนี้ เงินทั้งหมดก็ได้ถูกส่งคืนมาเป็นที่เรียบร้อย โดยเหลือเงินที่ยังต้องส่งอีกประมาณ 33 ล้านดอลลาร์เพียงเท่านั้น

แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวการโจรกรรมครั้งนี้จะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเสียแล้วเพราะ Poly Network จะได้มีการยื่นข้อเสนอให้กับแฮกเกอร์ที่ได้เข้ามาขโมยเงินให้เข้ามาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความปลอดภัย และก็ได้มีการเสนอเงินรางวัลให้กับแฮกเกอร์ไปมากถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียวแทนคำขอบคุณที่สามารถหาช่องโหว่ในระบบเจอ ซึ่งทางแฮกเกอร์นั้นก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอที่จะรับงานเป็นที่ปรึกษาให้กับทางโครงการดังกล่าวไป แต่ไม่ว่าอย่างไรดูเหมือนว่าทาง Poly Network ก็ยังยืนยันที่จะส่งเงินรางวัลนี้ให้ไป และพวกเขาก็ยังมั่นใจอีกด้วยว่าทางแฮกเกอร์นั้นจะส่งเงินคืนมาให้กับระบบ

การที่ทาง Poly Network ถูกเจาะเข้ามาในระบบได้ในครั้งนี้คงทำให้ทีมผู้พัฒนานั้นเริ่มมีการที่จะอุดรูรั่วดังกล่าว เพื่อให้ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่น่าสนใจจะกลับกลายเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการจ้างงานแฮกเกอร์ที่เข้ามาโจมตีระบบซะงั้น ซึ่ง Poly Network ก็ได้มีการโพสต์เรื่องราวนี้ในทวิตเตอร์ด้วยเช่นเดียวกัน

ถึงแม้ว่าการโจรกรรมในครั้งนี้จะเป็นการโจรกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในโลกของการเงินดิจิตอลเลยทีเดียวแต่ก็ดูเหมือนว่าโชคยังดีที่ทางแฮกเกอร์นั้นได้คืนเงินกับเข้ามาในระบบ ในอนาคตอาจจะมีเรื่องราวในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีกก็เป็นได้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโชคดีขนาดนี้หรือไม่ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นการเงินในสมัยใหม่ที่เหมาะกับการลงทุนเพราะว่าให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มาก ดังนั้นควรศึกษาและพิจารณาให้ดีก่อนที่จะเข้ามาลงทุน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก cnbc

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com