อีลอนมัสก์บอก “เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายคริปโต”

อีลอนมัสก์

อีลอนมัสก์บอกเงินดิจิตอลหรือคริปโตเคอเรนซีนั้นไม่สามารถจะถูกทำลายได้ในตอนนี้

เรียกได้ว่าเป็นปีที่มีการพูดถึงเงินดิจิตอลกันอย่างสม่ำเสมอเลยทีเดียวและเป็นปีที่ทำให้หลายคนได้รู้จักและเริ่มหันมาศึกษาและลงทุนในเงินดิจิตอลมากขึ้น ซึ่งปรากฏการณ์การที่เงินดิจิตอลได้รับความนิยมมากขึ้นนั้นทำให้บริษัทหลาย ๆ บริษัทเริ่มหันมาให้ความสนใจรวมไปถึงประเทศหลาย ๆ ประเทศด้วยเช่นเดียวกัน

จากความนิยมและการเป็นที่รู้จักมากขึ้นนี้ทำให้ผู้คนออกมาพูดถึงกันมากขึ้นและก็มีหลากหลายมุมมองด้วยเช่นเดียวกันบางคนก็สนับสนุนส่วนบางคนก็เห็นต่าง ซึ่งฝ่ายที่สนับสนุนนั้นเห็นได้ว่าในอนาคตเงินดิจิตอลนั้นจะเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตมากขึ้นและอาจจะเข้ามายกระดับการเงินให้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ว่าสำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่าเงินดิจิตอลนั้นเป็นเพียงแค่ทรัพย์สินที่ไม่มีมูลค่าหรือว่าเม็ดเงินมารองรับและอาจจะเข้ามาแทรกแซงในเรื่องของการเงินได้

โดยฝังที่ไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงก็คือประเทศจีนที่ได้ออกมาระงับการทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินดิจิตอลและไม่ให้มีการทำเหมืองขุดเหรียญต่าง ๆ อีกด้วยรวมไปถึงยังพยายามผลักดันดิจิตอลหยวนซึ่งเป็นเงินดิจิตอลภายในประเทศให้เป็นที่นิยมมากขึ้น และถึงแม้ว่าประเทศจีนจะออกมากดดันเงินดิจิตอลมากเพียงใดแต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงแค่ผลกระทบต่อราคาของเงินดิจิตอลในระยะสั้นเพียงเท่านั้น

ทางฝั่งผู้สนับสนุนอย่างเช่นอีลอน มัสก์ก็ได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกันโดยเขาบอกว่า “เงินดิจิตอลหรือคริปโตเคอเรนซีนั้นไม่สามารถจะถูกทำลายได้ในตอนนี้ โดยสามารถทำได้เพียงแค่ทำให้มันช้าลงเพียงเท่านั้น” และเขายังแนะนำให้รัฐบาลทั่วโลกนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ามาพยายามควบคุมคริปโตเคอเรนซี่ โดยเขาก็ได้บอกถึงสาเหตุว่าทำไมรัฐบาลหลาย ๆ รัฐบาลทั่วโลกจึงพยายามที่จะลดอำนาจของเงินดิจิตอล ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า ด้วยพื้นฐานของเงินดิจิตอลนั้นสามารถที่จะเข้ามาลดอำนาจของรัฐบาลได้นั่นเอง

ถึงแม้ว่าหลาย ๆ ประเทศจะพยายามระงับการใช้งานเงินดิจิตอลก็ตามทีแต่ว่าเงินดิจิตอลก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีก ซึ่งสิ่งที่น่ากังวลอย่างเดียวสำหรับเงินดิจิตอลก็คือการขุดเหรียญต่าง ๆ นั่นเองเพราะว่าการขุดเหรียญนั้นทำลายสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นสิ่งที่ทั่วโลกนั้นกำลังจับตามองและกำลังหาทางแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่าปัญหาดังกล่าวจะถูกแก้ไขได้มากน้อยเพียงใด และภายใต้ความกดดันจากหลายๆ ประเทศจะทำให้เงินดิจิตอลนำเติบโตช้ามากเพียงใด และถึงแม้จะถูกกดดันมากมายแต่ก็ต้องยอมรับด้วยเช่นกันว่าการมาของเงินดิจิตอลทำให้มีช่องทางในการสร้างรายได้ที่หลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเกม, NFT, DeFi และอื่น ๆ

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Gadgets.ndtv

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Tesla ย้ายสำนักงานใหม่ไปเท็กซัส

Tesla

อีลอน มัสก์ CEO ของบริษัท Tesla ได้มีการประกาศจะย้ายสำนักงานใหม่

ในงานประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีที่จัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี อีลอน มัสก์ CEO ของบริษัทได้มีการประกาศในงานประชุมดังกล่าวว่าทางบริษัทจะย้ายสำนักงานใหม่จากแคลิฟอร์เนียไปที่เท็กซัส ซึ่งเป็นที่ที่บริษัท Tesla นั้นได้สร้างโรงงานใหม่ขึ้นมา

นับตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดโควิดเริ่มต้นบริษัท Tesla ก็ได้รับผลกระทบและไม่สามารถที่จะผลิตรถยนต์ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ที่โรงงาน Fremont เนื่องจากกฎระเบียบในเรื่องของการล็อกดาวของทางรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งทางบริษัท Tesla ก็เคยมีปัญหากับทางรัฐบาลมาแล้วเนื่องจากพวกเขาไม่ยอมปิดโรงงานตามคำสั่งล็อกดาวน์นั่นเอง ซึ่งการย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่รัฐเท็กซัสนั้นทำให้ Tesla สามารถดำเนินการผลิตและขยายอัตราการผลิตได้ และที่สำคัญการย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท SpaceX หนึ่งในบริษัทของอีลอน มัสก์ ก็อาจจะทำให้เขาสามารถควบคุมดูแลทั้ง 2 บริษัทได้ง่ายมากขึ้น

นอกจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิดแล้ว อีลอน มัสก์ยังให้เหตุผลของการย้ายสำนักงานใหญ่ครั้งนี้อีกด้วยว่ารัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ในปัจจุบันนี้เป็นเมืองที่ยากลำบากต่อการหาที่พักให้กับพนักงานภายในบริษัทอย่างมากเลยทีเดียว และการย้ายไปที่เท็กซัสทำให้บริษัทเติบโตได้ง่ายกว่า แถมโรงงานยังห่างจากสนามบินเพียงแค่ 5 นาทีและห่างจากดาวทาวน์เพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น

โดยในปัจจุบันนี้ Tesla กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและกำลังอยู่ในเส้นทางการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1 ล้านคันในปีนี้เรียกได้ว่าเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วมากเลยทีเดียวและรถยนต์ในอนาคตรถยนต์ Tesla นั้นก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาอีกด้วย ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการทดสอบระบบความปลอดภัยสำหรับการขับขี่รถยนต์อัตโนมัติโดยมีการให้คะแนนการขับขี่ก่อนที่จะเข้าใช้งานระบบดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีปัญหาการเกิดอุบัติเหตุมากมายทำให้ทาง Tesla ต้องกลับมาพัฒนาเรื่องความปลอดภัยของรถยนต์อีกครั้ง

นอกจากบริษัท Tesla แล้วยังมีอีกหลายบริษัทที่ย้ายจากแคลิฟอร์เนียไปที่เท็กซัส โดยข้อดีของรัฐเท็กซัสก็คือค่าครองชีพที่ต่ำกว่ารัฐแคลิฟอร์เนียทำให้สามารถดึงดูดพนักงานได้มากกว่า และยังเป็นที่อยู่ของมหาวิทยาลัยเท็กซัส แถมบริษัทเทคโนโลยีหลายๆ บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียก็มาตั้งศูนย์ที่รัฐเท็กซัสเช่นเดียวกัน อีกทั้งปัญหาทางด้านรัฐบาลของรัฐแคลิฟอร์เนียก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทหลาย ๆ บริษัทย้ายมาที่เท็กซัสนั่นเอง สำหรับรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นศูนย์รวมของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลาย ๆ รายไม่ว่าจะเป็น Apple, Google หรือว่า Facebook

ภาพจาก Pexels

ข้อมูลจาก นิวยอร์กไทม์, BBC

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บริษัท Tesla ขอความร่วมมือให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัย

Tesla

อีลอนมัสก์ผู้ที่เป็น CEO ของบริษัท Tesla ได้มีมาตรการเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด

ถึงแม้ว่าหลาย ๆ พื้นที่ในประเทศสหรัฐจะสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิดได้แล้วแต่ก็ยังคงต้องต่อสู้ต่อไปโดยเฉพาะสายพันธุ์เดียวต้าที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก และยังมีประชากรในสหรัฐอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีนถึงแม้ว่าในประเทศจะมีสิ่งจูงใจเพื่อให้คนในประเทศนั้นเข้ามาฉีดวัคซีนก็ตามที ซึ่งถ้าหากว่ายังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอีกหนึ่งวิธีการที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดได้ดีมากที่สุดก็คือการสวมหน้ากากอนามัย

บริษัท Tesla ที่ตั้งอยู่ในรัฐเนวาดาประเทศสหรัฐอเมริกาขอความร่วมมือให้พนักงานที่ยังไม่ได้รับวัคซีนสวมหน้ากากอนามัยในขณะที่ทำงานในบริษัทอยู่และเช่นเดียวกันทางบริษัทก็มีมาตรการสำหรับคนที่ฉีดวัคซีนแล้วด้วย

เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมารัฐบาลของรัฐเนวาดาก็ได้มี Road Map ออกมาเกี่ยวกับการใส่หน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดโดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า โดยทุกคนจำเป็นที่จะต้องใส่หน้ากากตลอดเวลาในที่สาธารณะ สำหรับยอดผู้ป่วยในช่วงเดือนที่ผ่านมาของรัฐเนวาด้านั้นได้มีการรายงานจาก Johns Hopkins Coronavirus Resource Center ว่าในรัฐเนวาดามียอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึง 26,000 คนและมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวน 298 ราย โดยมีการคาดการณ์ว่าประชากรภายในรัฐจำนวน 47 เปอร์เซ็นต์ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับบริษัท Tesla และอีลอนมัสก์ผู้ที่เป็น CEO ของบริษัทก็ได้มีมาตรการเพื่อป้องกันการระบาดของโรคตั้งแต่ช่วงที่การแพร่ระบาดเริ่มต้นขึ้นโดยมีคำสั่งให้อยู่บ้านสำหรับผู้ที่ทำงานใน Alameda County รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงาน Fremont ซึ่งหลังจากการแพร่ระบาดทางบริษัทก็ตัดสินใจที่จะปิดตัวโรงงานชั่วคราวตั้งแต่ในช่วงเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรการที่รัฐแคลิฟอร์เนียออกมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด แต่ว่าทางอีลอนมัสก์นั้นได้มีการร้องขอให้เปิดโรงงานนี้อีกครั้งถึงขั้นมีการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียเลยทีเดียว ซึ่งก็ได้มีการขู่ด้วยว่าเขาจะย้ายไปตั้งสำนักงานใหญ่ที่รัฐเท็กซัส หรือว่ารัฐเนวาด้า แต่ก็เช่นเดียวกันทางบริษัท Tesla ก็ได้มีการละเมิดกฎของฝ่ายปกครองเมือง Fremont โดยการปิดโรงงานช้ากว่ากำหนด 1 สัปดาห์หลังจากมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโลกออกมา

ที่สำคัญเลยก็คือพนักงานบางส่วนที่หยุดทำงานไปยังไม่ได้เงินค่าชดเชยอีกด้วยแถมพนักงานบางส่วนนั้นยังได้รับอีเมลข่มขู่ให้กลับมาทำงานไม่งั้นจะโดนงดจ่ายเงินเดือน และอาจจะไม่ได้รับสิทธิ์สวัสดิการต่างๆ ของบริษัทที่สำคัญเลยอาจจะถูกยกเลิกสัญญาจ้าง

ภาพจาก Pexels

ข้อมูลจาก mgrOnline , The Verge , Marketeeronline

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

อีลอน มัสก์ มีแววไม่สนับสนุน Bitcoin

Bitcoin

นับตั้งแต่ต้นปี 2021 เป็นต้นมา Bitcoin กลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากทั่วทั้งโลก มันถูกพูดถึงในทิศทางที่ดีมาก ๆ ในเรื่องของการเงินจากผู้คนจำนวนมาก จน Bitcoin กลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้นทำให้ราคาของเหรียญนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเลย 2 ล้านบาทต่อ 1 เดือนเลยทีเดียว และหนึ่งในผู้ที่สนับสนุน Bitcoin มาตลอดก็คืออีลอนมัสก์เจ้าของบริษัท Tesla และ SpaceX

อีลอนมัสก์เป็นชายคนหนึ่งที่ทุกครั้งที่เขาได้มีการพูดถึงเงินดิจิตอลไม่ว่าจะเป็นเหรียญใด ๆ ก็ตามซึ่งโดยปกติแล้วเขามักจะพูดถึง Bitcoin และ Dogecoin เป็นประจำ และทุกครั้งที่ได้มีการพูดถึงเงินดิจิตอลราคาของเหรียญที่ได้ถูกพูดถึงนั้นก็จะมีการขยับเขยื้อนเสมอ ซึ่งจากการพูดถึงตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวของเจ้าตัวเองในช่วงต้นปี 2021 ถือว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดีและทำให้เหรียญนั้นมีราคาพุ่งสูงขึ้น รวมถึงบริษัทของเขาก็ได้มีการซื้อ Bitcoin เป็นเงินทุนสำรองให้กับบริษัทด้วยซึ่งก็สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนรวมถึงผู้คนจำนวนมากได้เลย

แต่ว่าในตอนนี้หน้ามือเป็นหลังมือเสียแล้วอีลอนมัสก์ที่เคยสนับสนุน Bitcoin มาโดยตลอด ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาเองก็จะไม่เห็นด้วย Bitcoin เสียแล้ว เริ่มจากการที่บริษัท Tesla ของอีลอนมัสก์ประกาศเลิกชำระเงินซื้อรถด้วย Bitcoin เนื่องจากการขุดเหรียญ Bitcoin นั้นไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แถมเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมายังแสดงความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับ Bitcoin ด้วย

ซึ่งก็ทำให้ราคาของเหรียญ Bitcoin นั้นลดลงอย่างรุนแรงเลยทีเดียว เมื่อเหรียญ Bitcoin มีราคาที่ลดลงก็ทำให้เหรียญอื่น ๆ มีราคาที่ลดลงตามมา ซึ่งก็ทำให้ภาพรวมของตลาดวันนี้เป็นสีแดงทั้งตลาดเลยก็ว่าได้

สำหรับ Dogecoin ที่เป็นเหรียญลูกรักของเจ้าตัวอีลอนมัสก์ก็ได้ถูกพูดถึงบนทวิตเตอร์เช่นเดียวกัน โดยทางอีลอน มัสก์นั้นได้มีร่วมงานกับผู้พัฒนาเหรียญเพื่อที่จะระบบการทำธุรกรรมของเหรียญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังได้มีการเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการรับชำระเงินซื้อรถยนต์ด้วยเหรียญ Dogecoin อีกด้วย ในตอนนี้ก็คงต้องมาติดตามดูว่าอนาคตของ Bitcoin จะอีลอน มัสก์ถูกพูดถึงไปในทิศทางไหน เขาจะเปลี่ยนเหรียญในการรับชำระเงินได้จริงหรือไม่ หรือจะมีการสร้างเหรียญที่เป็นของตัวเองโดนมัดเองขึ้นมากันแน่

#อีลอนมัสก์ #Bitcoin #Dogecoin #Cryptocurrency #เงินดิจิตอล #marketing #มาร์เก็ตติ่ง #mee-money.com

ข้อมูลจาก Elon Musk’s Twitter, SiamBlockchain

ภาพจาก Canva