วิธีขายแบบไม่ขาย สำหรับคนเกลียดการขายยิ่งขายดี

การขาย

วิธีขายสำหรับคนเกลียดการขาย

ถ้าคุณไม่ชอบงานขายเลย บทความนี้เหมาะกับคุณมากๆ เพราะจะเป็นบทความที่นำเอาเทคนิค วิธีการขายแบบไม่ขาย มาแบ่งปัน ใครที่เกลียดการขายยิ่งอ่านยิ่งดี เพราะถ้าคุณเอา 4 วิธีนี้ไปทำ คุณจะขายดีมากขึ้น  ลองเปิดใจแล้วอ่านบทความนี้ดู ถ้าคุณเปิดใจแล้วเอา 4 วิธีนี้ไปใช้ รับรองว่าคุณจะขายดีมากขึ้น ไปติดตามอ่านดูกัน ว่าขายแบบไม่ขาย ลัมันจะขายดีขึ้นยังไง

1.คุณต้องเปิดใจลูกค้า ยิ่งคุณเกลียดการขาย คุณยิ่งเปิดใจได้ดี คุณบอกลูกค้าไปเลยว่าคุณไม่ได้มาขาย แต่คุณมาช่วยเค้า บอกเค้าเลยว่าวันนี้ไม่ต้องมาซื้อสินค้าจากคุณ คุณเป็นพวกเดียวกับเค้า ทุกคำแนะนำที่คุณจะบอกเป็นผลประโยชน์ของเค้า 100 % และคุณคือตัวจริงในวงการที่จะมาบอกผลประโยชน์ต่อไปนี้กับคุณ ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะคุณจะเปิดใจลูกค้าได้ด้วย ถ้าคุษเปิดใจลูกค้าได้ ลูกค้าจะไม่ต้องป้อมกับคุณ ลูกค้าจะรู้สึกว่าคนนี้มาเพื่อช่วยเค้า มาเป็นพวกเดียวกับเค้า และคุณคือตัวจริงในวงการ

2.กระบวนการที่ 2 ก็ยังไม่ต้องขาย แต่คุณต้องพูดคุย Be hide the seen พูดคุยถึงเบื้องหลังของลูกค้า ว่าลูกค้าต้องการอะไร ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้ามาติดต่อเรียนภาษาอังกฤษ ถามว่าอยากมาเรียนภาษาอังกฤษเพราะอะไร “ เพราะเบื่องาน อยากเปลี่ยนงาน “  “ เพราะอยากมีแฟนฝรั่ง” “ เพราะเตรียมตัวไปเรียนต่อ” หรือลูกค้าติดต่อมาซื้อที่ดิน ทำไมถึงอยากซื้อที่ดิน? “ ซื้อปลูกบ้านทำเรือนหอ” “ซื้อไปลงทุนทำตึกแถวให้เคนเช่า” “ ซื้อไว้ขายเอากำไรเวลาราคาขึ้น” “ ซื้อไปสร้างห้างสรรพสินค้า”  เหล่านี้คือการหาสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความต้องการของลูกค้า กังนั้นจงถาม แต่อย่าไปขายแบบพ่อค้าแม่ค้า ยัดเยียดลูกค้าทันทีว่าเอาไหม ซื้อไหม? แต่สิ่งที่คุณต้องทำคือทำแบบหมอ หมอไม่ขายมาถึงถามว่า เป็นอะไรมา ปวดท้องเหรอปวดตรงไหน บนล่างซ้าย ขวา ปวดตรงไหนบ้าง นี่คือสิ่งที่หมอทำ คุณต้องขายแบบหมอ ไม่ได้มาขายมาช่วย แล้วก็ภามถึงเบื้องหลัง ถ้าถามแล้วลูกค้าไม่ตอบ ลูกค้ารำคาญ แปลว่าคุณทำผิดตั้งแต่ข้อ 1 คุณปิดใจลูกค้าไม่ได้ ลูกค้ายังเหม็นกลิ่นการขายอยู่ เลยกลัวว่าคุณจะมาขาย ดังนั้นลูกค้าจะไม่ตอบ จงจำไว้ว่าคุณไม่ได้มาขาย แต่คุณมาเพื่อช่วยลูกค้า บางครั้งลูกค้ามาถามถึงสินค้าบางตัว มันก็อาจจะไม่ใช่สินค้าที่เหมาะกับลูกค้าก็ได้ มันทีสินค้าตัวอื่นที่ถูกค้องและเหมาะสมกับลูกค้ามากกว่า เหมิอนลูกค้ามาหาหมอบอกจะมาเอายาพารา แต่อาการของคนไข้อาจจะไม่เหมาะกับยาพาราเหมาะกับยาอื่นถูกต้องกับยาอื่นมากกว่า ดังนั้นสิ่งที่ลูกค้าได้ข้อมูลมาอาจจะผิด หน้าที่เราคือบอกข้อมูลที่ถูกต้องให้กับลูกค้า ด้วยการถามหาเบื้องหลังของลูกค้า อย่าไปด่วนสรุปว่าลูกค้าต้องการอะไร คุยกันก่อนเพื่อหาว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า และถ้าจะขายจงขายในสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้า และถ้าจำเป็นที่ต้องนำเสนอให้นำเสนอในสิ่งที่เหมาะสมกับเค้าเท่านั้น

3.เมื่อผ่านขั้นตอนที่ 2 แล้วจงนำเสนอสิ่งที่เหมาะสมกับลูกค้า ทำตัวเหมือนกับหมอจ่ายยา หลังจากที่เค้าบอกเบื้องหลังมาอย่างนี้ ๆๆๆ ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่จะช่วยแนะนำให้เป็นสิ่งที่แก้ไขได้ ตรงกับความต้องการ

4.ปิดการขายเป็นสิ่งสุดท้าย ซึ่งลูกค้าจะพร้อมซื้อทันที เมื่อคุณผ่านกระบวนการมาทุกขั้นตอนที่แนะนำ เพราะลูกค้าบอกหมดแล้วว่าเค้าต้องการอะไร และสิ่งที่คุณทำตอบโจทย์ ความต้องการของลูกค้า 

แต่สิ่งที่คุณจะต้องระวังคือ คุณต้องระวังเรื่องการถม อย่าถมข้อมูล กับอย่าถมข้อมูล ถมรีวิวสินค้ามากเกินไป คนส่วนใหญ่ที่เกลียดการชาย เพราะเกลียดการคุยกับลูกค้า ลูกค้าถามมาประโยคเดียว ก็อปเอาโปรโมชั่นแปะพรึ่บ ถามประโยคเดียว ก็อบเอารีวิวจำนวนมากมาแปะพรึ่บ หรือส่ง PDF ให้ไปอ่านเอาเองเลย อย่าทำแบบนี้

และทั้งหมดนี้คือการขายแบบไม่ขาย เพียงจำเสมอว่าคุณไม่ได้มาขาย แต่มาช่วยบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จงขายแบบหมอคือ พูดคุยถึง Be hide the seen ของลูกค้าอย่างเข้าใจ อย่าได้ด่วนสรุปเพื่อต้องการจะขาย

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook