คำอันตรายพูดแล้วลูกค้าเดินหนี 6 นาที

คำพูด

5 คำอันตรายพูดแล้วลูกค้าเดินหนี 6 นาที

โค้ช แบงก์ ศุภกิจ  ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า สำหรับนักขาย คำพูดต่อไปนี้เป็น 5 คำพูดอันตรายที่ห้ามหลุดออกจากปากของคุณ หรือพนักงานขายของคุณอย่างเด็ดขาดถ้าคุณอยากจะขายได้และขายดี หรือแม้ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจเอง คุณก็ห้ามพูดคำพูดทั้ง 5 คำพูดนี่เช่นกัน  ไปดูกันว่าคำพูด  5 คำพูดอันตรายนั้นคืออะไรบ้าง

1.ผมพูดจริงๆนะครับ  เพราะนั่นมันแปลว่าอะไรครับ แปลว่าก่อนที่จะพูดประโยคนี้คุณพูดไม่จริงกับลูกค้าเลย ดังนั้นจะให้ลูกค้าเชื่อใจคุณได้อย่างไร อย่าได้ใช้พูดนี้อย่างเด็ดขาด

2. ผมแค่โทรมาสอบถามว่า   คำพูดนี้ร้ายแรงพอๆกับคำพูดว่า “พอจะมีเวลาสัก 2-3 นาทีไหม ?  มันเหมือนคุณไม่มีคุณค่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณติดต่อลูกค้าแล้วคุณพูดว่า  ผมแค่โทรมาสอบถามว่า? ผมขอเวลาสัก 2-3 นาทีได้ไหม ? มันจะทำให้ ตำแหน่งหรือระดับของคุณมันต่ำกว่าลูกค้าทันที ทำให้คุณเหมือนเข้าไปเพื่อขอ เพื่อตื้อ เพื่อง้อ เหมือนขอทาน แสดงความสินค้าของคุณมันไม่มีคุณค้าพอที่ลูกค้าจะสละให้เลยใช่ไหม? คำพูดแบบนี้มันทำให้คุณและสินค้าของคุณไม่มีคุณค่าครับ แล้วทำไมลูกค่าต้องซื้อของที่ไม่มีคุณค่าด้วย จริงไหม?

3 คำพูดที่ 3 ที่ต้องไม่พูดคือคำว่า “ ซื้อ”  คุณกำลังขัดแย้งขึ้นมาทันทีใช่ไหมว่า? อ้าว! ก็ขายของ แล้วจะไม่ให้พูดคำว่า”ซื้อ”ได้ยังไงกัน?  ที่ไม่ให้พูดเพราะว่าว่าซื้อนี่จะไปสร้างความรู้สึกให้ลูกค้ารู้สึกว่า ซื้อแล้วต้องเสียเงินนะ ซื้อแล้วต้องถูกผูกมัด ซื้อสิ่งนี้แล้วไม่สามารถซื้อสิ่งอื่นได้ แล้วถ้าไปเจอสิ่งอื่นที่มันดีกว่าล่ะ มีรุ่นดีดีกว่ารุ่นนี้ หรือแล้วถ้าพรุ่งนี้ที่อื่นมันลดเราคาล่ะ สมองของลูกค้าจะคิดไปมากมาย อย่าใช้คำว่าซื้อ พลิกคำพูดนิดหนึ่ง โดยใช้คำว่าจะรับสินค้าไหมคะ? พร้อมจะเป็นเจ้าของสินค้าชิ้นนี้ไหมครับ? หรือ จะรับกลับบ้านเลยไหมครับ? หรือคุณพี่อยากเป็นเจ้าของรถคันนี้ไหมครับ? เพราะระหว่างคำว่า “เป็นเจ้าของ” กับคำว่า “ซื้อ” ความหมายเดียวกันแต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน

4.คำว่า เซ็นสัญญา เพราะคำนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความผูกมัดทันที อาจจะใช้ประโยคเลี่ยงเช่นว่า “เดี๋ยวมีเอกสารนิดหน่อยให้คุณพี่ช่วยเซ็นครับ” มันดูง่ายขึ้นไปเยอะ ทั้งที่จริงๆมันก็คือสัญญา เพียงแต่เราหาวิธีเรียกให้มันดู soft ลงไปมากกว่าคำว่า “ สัญญา”

5.การพูดถึงแง่ลบของคู่แข่ง คุณไม่มีสิทธิ์พูดถึงแง่ลบของคู่แข่ง ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามคุณพูดถึงแง่ลบของคู่แข่ง มันเหมือนคุณพยายามจะเหยียดคนอื่นเพื่อที่จะขาย ซึ่งมันจะส่งสัญญาณในแง่ลบให้กับลูกค้าว่า เอ! หรือของคุณขายไม่ดี ดังนั้นคือ ห้ามดูถูกคู่แข่ง และถ้าใครพูดถึงคู่แข่งขึ้นมาให้พูดเลยว่า ดีเลยครับเจ้านั่นก็ดีครับ เพราะนำเข้าจากต่างประเทศ เป็นซอฟแวร์ตัวใหม่ บริการดีมาก คุณลองไปใช้ดูก็ได้ครับ เคล็ดลับที่สำคัญก็คือ ถ้าลูกค้าสนใจสินค้าคุณ มาติดต่อคุณ ทั้งๆที่รู้ว่าของคู่แข่งก็ดี แสดงว่าเค้าต้องมีบางอย่างที่ยังไม่พอใจสินค้าของคู่แข่งเค้าจึงมาหาคุณ ถ้าถูกใจเค้า เค้าซื้อคู่แข่งไปแล้ว ไม่ต้องมาซื้อกับคุณให้เสียเวลา ดังนั้นไม่ต้องโจมตีคู่แข่ง แต่พูดชมคู่แข่งบอกข้อดีของคู่แข่ง พร้อมทั้งบอกข้อดีของเรา และเพิ่มเติมข้อดีที่แตกต่างจากคู่แข่งด้วย อยู่ที่ลูกค้าจะเลือกของใคร แล้วมันจะทำให้ยอดขายคุณดีขึ้นด้วย เพราะคุณจริงใจกับลูกค้า เค้าจะรู้สึกว่า คุณไม่ได้มาขายนะ แต่อยากมาช่วยเค้าจริงๆ 

และนี่คือ 5 คำพูดอันตรายที่คุณห้ามพูดกับลูกค้า ถ้าจำทั้ง 5 คำ นี้ได้ แน่นอนว่ายอดขายของคุณจะเพิ่มขึ้น และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า มีโอกาสที่ลูกค้าจะบอกต่อิหรือกลับมาซื้อกับคุณใหม่ในอนาคต

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

การดึงดูดลูกค้า

content marketing

การดึงดูดลูกค้าโดยใช้ content marketing 

ในยุคปัจจุบัน การแข่งขันทางการตลาดที่มีจำนวนมากขึ้น ทุกคนสามารถค้นหาสิ่งต่างๆได้เพียงแค่ปลายนิ้วมือ และการเข้าถึงเนื้อหามีส่วนในการตัดสินใจเลือกสินค้า การทำการตลาดแบบดั้งเดิมไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการแข่งขันกับคู่แข่งทางการตลาด ในฐานะนักการตลาดที่มองการณ์ไกล และต้องทันต่อสาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอ การเข้าถึงเนื้อหาที่มีประโยชน์ด้วยวิธีการต่างๆเช่น เช่น บล็อก  การโพสต์ในโซเชียลมีเดีย  line,facbook,วิดีโอ และอื่นๆ ที่คล้ายกัน ให้กับลูกค้าปัจจุบันและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าก็จะทำให้มีลูกค้ามากขึ้นได้

content marketing เป็นแนวทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างและแจกจ่ายเนื้อหาที่มีคุณค่า เพื่อดึงดูดและรักษาผู้ชมไว้ เช่น การทำตลาดโดยใช้ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณถ้าลูกค้าของคุณค้นหาเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกันก็สามารถดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามายังแบรนด์ของคุณได้

ทำไมถึงมีความน่าสนใจ

  • ธุรกิจที่มีบล็อกหรือ มีช่องทางในโซเชียลมีเดียจะได้รับโอกาสในการขายสินค้าได้มากกว่า
  • ธุรกิจที่ใช้การตลาดเนื้อหามีอัตราการเติบโตสูงกว่าธุรกิจที่ไม่ได้ใช้ content marketing
  • ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและจำนวนโอกาสในการขายสินค้า
  • ประเภทของ content marketing

    การดูตัวอย่างของมัน ของการตลาดเนื้อหา หากคุณสามารถสร้างสรรค์บางสิ่งในรูปแบบสื่อบางรูปแบบได้ แล้วนำไปแสดงต่อผู้ชมของคุณหรือลูกค้าของคุณได้

    ทำงานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

    คุณจะต้องนำเสนอเนื้อหาที่เหมาะสมในแต่ละขั้นตอนของวงจรการขาย ตั้งแต่การรับรู้ไปจนถึงการพิจารณาจนถึงการซื้อ เนื้อหาของคุณควรเน้นที่ข้อกังวลอันดับต้นๆ ของผู้ชมหรือลูกค้าของคุณ 

    ในขั้นตอนแรกการรับรู้ควรให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าของคุณ คำแนะนำวิธีการใช้ คุณต้องการให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นกับมัน มีส่วนร่วมกับตัวแบรนด์หรือสินค้าหรือไม่ 

    ในขั้นตอนสอง มันต้องมีเป้าหมาย ธุรกิจอาจใช้เนื้อหาเพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ของตน คุณต้องกำหนดเป้าหมายที่คุณพยายามทำให้สำเร็จด้วย เนื้อหาที่คุณกำลังสร้าง ต้องใช้การลองผิดลองถูก แต่การตลาดเนื้อหาผลักดันให้ธุรกิจของคุณดำเนินการไปข้างหน้าได้

    ประการที่สาม มันช่วยได้มากถ้าเนื้อหาที่คุณสร้างนั้นสร้างความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ จากผลการสำรวจพบว่าเนื้อหาที่สามารถสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมจะได้ความสนใจมากกว่า มันจะดีกว่าไหมหากเราได้รับการชมสินค้าพร้อมรับความบันเทิงไปพร้อมๆ กัน

    เป็นประโยชน์กับธุรกิจของคุณอย่างไร

    ให้ความเชี่ยวชาญเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าหรือแบรนด์มีคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ของคุณด้วยการสร้างเนื้อหาเพื่อดึงดูด มีส่วนร่วม และขาย ด้วยการวางแผนและการทำการตลาดด้วยเนื้อหาอย่างเป็นระบบ 

    เห็นไหมคะว่าการทำการตลาดรูปแบบนี้ให้ความสำคัญทางด้านเนื้อหาที่มีคุณค่า  คุณก็สามารถเข้าถึงผู้คนที่เหมาะสมและความภักดีต่อแบรนด์ของคุณได้

    ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
    เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook