เริ่มต้นลงทุนคริปโตอย่างไรดีนะ

เริ่มต้นลงทุนคริปโตอย่างไรดีนะ

หลาย ๆ คนเมื่อเห็นทรัพย์สินบางชนิดให้ผลตอบแทนสูงก็จะมีการกระโดดเข้าไปเพื่อลงทุนในทรัพย์สินประเภทนั้นทั้งที่ไม่ได้ศึกษาก่อน หลาย ๆ คนดวงดีได้กำไรกลับคืนมา แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยเลยทีเดียวที่สูญเสียเงินไปไม่น้อยกับการลงทุนเพราะว่าไม่ได้ศึกษาวิธีการลงทุนให้ดีเสียก่อนที่จะเข้าไปลงทุนและเมื่อตัวเองขาดทุนกลับมาก็ยิ่งใช้เงินเยอะขึ้นเพื่อที่จะให้คืนทุนเร็วที่สุดแต่แล้วก็ขาดทุนเพิ่มดังนั้นในการเข้าไปลงทุนทรัพย์สินประเภทใดๆ ก็ตามก็ควรที่จะศึกษาวิธีการลงทุนให้ดีเสียก่อนโดยเฉพาะกับทรัพย์สินที่กำลังมาแรงในปัจจุบันนี้อย่างคริปโตเคอเรนซี่ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดหลายๆ คนก็ชื่นชอบที่จะลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวด้วยและจะทำยังไงดีเพื่อไม่ให้ขาดทุนเยอะ

ภาพ Pixabay

วิธีเริ่มต้นลงทุน

  1. ศึกษาว่าคริปโตเคอเรนซี่คืออะไร ก่อนพี่จะเข้ามาลงทุนในทรัพย์สินดิจิตอลอย่างคริปโตเคอเรนซี่นั้นสิ่งแรกที่ควรทำนั่นก็คือการศึกษาว่ามันคืออะไรมีความแตกต่างจากทรัพย์สินประเภทอื่นอย่างไรและเหรียญไหนควรลงทุนเรียนไหนไม่ควรลงทุนมีวิธีการลงทุนวิธีการไหนบ้างสิ่งสำคัญเลยก็คือ เหรียญที่ควรศึกษาในทรัพย์สินประเภทนี้มากที่สุดนั่นก็คือ Bitcoin
  2. Bitcoin คืออะไร เราอาจจะเรียกได้ว่า Bitcoin เป็นต้นกำเนิดของคริปโตเคอเรนซี่เลยก็ว่าได้ โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการสร้างขึ้นเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ระลึกศูนย์กลางและแตกต่างจากเหรียญคริปโตตัวอื่น และเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับมือใหม่ควรเริ่มต้นที่เหรียญ Bitcoin

ภาพ Pixabay

  • รูปแบบการลงทุนมีอะไรบ้าง คริปโตเคอเรนซี่เป็นสินทรัพย์การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีรูปแบบที่หลากหลาย เราสามารถทำกำไรได้จากการแลกเปลี่ยนซื้อขายได้นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการเงินที่ไร้ศูนย์กลาง ที่ผู้ลงทุนสามารถนำเงินไปฝากเพื่อรับดอกเบี้ยกลับมาได้ด้วยเช่นเดียวกันซึ่งรูปแบบดังกล่าวเรียกว่า “DEFI” หรือให้ปัจจุบันนี้ที่กำลังเป็นเทรนก็คือ GAMEFI มันก็คือนำเงินไปลงทุนในระบบเกมและผู้เล่นจะได้รับรางวัลเป็นผลตอบแทนภายในเกมซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนมาเป็นเงินได้อย่างไรก็ตามการลงทุนในรูปแบบของเกมนั้นจะต้องศึกษาเกมที่มีความน่าเชื่อถือมีผู้เล่นเยอะเนื่องจากมีผู้พัฒนาจำนวนไม่น้อยเลยที่พัฒนาเกมมาเพื่อใช้ในการหลอกลวงนักลงทุน และวิธีการที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือการเก็บออมถ้าหากว่าไม่มีความรู้ในเรื่องของการเทรดนักลงทุนสามารถใช้คริปโตเคอเรนซี่ในการออมได้โดยซื้อเก็บในรูปแบบของ DCA และให้ปลอดภัยที่สุดก็คือโอนเข้า Hardware wallet
  • บริหารความเสี่ยง นี่อาจจะเป็นสิ่งแรกเลยทีเดียวที่ต้องศึกษาก่อนที่จะเข้ามาลงทุนก่อนที่จะคิดถึงเรื่องผลกำไรสิ่งแรกก็คือต้องคิดถึงผลการขาดทุนเราต้องรู้ว่าเราขาดทุนได้มากเท่าไหร่ในการลงทุนแต่ละครั้งถ้าเราสามารถควบคุมการขาดทุนของเราได้เราก็สามารถทำกำไรได้ด้วยเช่นเดียวกันและเราจะไม่ตายไปจากตลาด

ภาพ Pixabay

  • ศึกษาหาความรู้เป็นประจำ แน่นอนว่าในช่วงแรกของการลงทุนก็อาจจะมีการขาดทุนบ้างแต่ถ้าเรามีประสบการณ์และหมั่นศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิธีการลงทุนเป็นประจำสุดท้ายแล้วผลกำไรก็จะกลับมาหาเราอย่างง่ายดายอย่างแน่นอน

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

แพลตฟอร์ม KillSwitch ทำให้ DeFi เป็นเรื่องง่าย

KillSwitch

DeFi (Decentralized Finance) เป็นระบบการเงินรูปแบบใหม่ที่ไร้ศูนย์กลาง

DeFi (Decentralized Finance) เป็นระบบการเงินรูปแบบใหม่ที่ไร้ศูนย์กลาง ที่อนุญาตให้นักลงทุนเข้าไปฝากเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับแพลตฟอร์มที่นำเงินไปลงทุนและรับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย รวมถึงนำเงินไปปล่อยกู้ในรูปแบบเงินดิจิตอลเพื่อรับดอกเบี้ยได้ด้วย ซึ่งดอกเบี้ยที่จะได้รับก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละเหรียญที่นำไปลงนั่นเอง ยิ่งเสี่ยงมากก็มีโอกาสที่จะขาดทุนสูงแต่ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลกำไรสูงเช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้มีแพลตฟอร์มเกิดขึ้นมากมายเลยทีเดียวบนโลกของอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถเข้าไปเลือกได้ตามใจชอบ

แต่สิ่งที่สำคัญเลยก็คือการเข้าถึงโลก DeFi เป็นเรื่องที่จะทำความเข้าใจยากมากสำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนที่ยังไม่เคยรู้จัก DeFi มาก่อน เพราะงั้นสำหรับมือใหม่การเข้ามาในโลกนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากเลยทีเดียว และแถมพอเข้าสู่โลกของ DeFi ได้แล้ว ก็ยังมีอีกหลายขั้นตอนมากมายก่อนที่จะสามารถนำเงินไปฝากหรือปล่อยกู้ได้ทำให้ความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงการทำขั้นตอนข้างต้น และที่สำคัญที่สุดในแต่ละขั้นตอนในการนำเงินเข้าไปฝากหรือปล่อยกู้เป็นขั้นตอนที่จะมีการเสียค่า Gas หรือค่าธรรมเนียมให้กับทางบล็อกเชนที่เรานำเงินไปฝากอีกด้วยทำให้ถ้าทำผิดขั้นตอนอาจจะเสียเงินไปฟรี ๆ ได้เลย แต่ไม่ต้องตกใจไปตอนนี้มีแพลตฟอร์มเกิดขึ้นใหม่ที่จะทำให้ DeFi เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นโดยแพลตฟอร์มมีชื่อว่า KillSwitch Finance

KillSwitch Finance เป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากและเหมาะสำหรับมือใหม่เนื่องจากแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยลดขั้นตอนในการนำเงินไปฝากเพื่อนับดอกเบี้ยให้กับนักลงทุนให้เหลือเพียงแค่การคลิกเพียงแค่คลิกเดียวเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอน ๆ ในการฝากและถอนคู่เหรียญให้กับนักลงทุนได้มากเลยทีเดียว และที่สำคัญเลยก็คือยังสามารถเปลี่ยนคู่เหรียญให้กับนักลงทุนอีกด้วยถ้าหากว่านักลงทุนต้องการที่จะนำเงินไปฝากที่คู่เหรียญอื่น แถมในเรื่องของการทบต้นทบดอกเพื่อรับเงินเพิ่มขึ้นแพลตฟอร์ม KillSwitch Finance ก็มีฟังก์ชันทบต้นทบดอกให้กับนักลงทุนทำให้สามารถลดขั้นตอนในส่วนนี้ลงไปได้อีก เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับนักลงทุน DeFi หน้าใหม่มากเลยทีเดียว และช่วยให้การลงทุนในโลกของ DeFi เป็นเรื่องที่สนุกมากขึ้น ที่สำคัญเลยในอนาคตแพลตฟอร์มยังจะมีโครงการมาเพิ่มอีกมากมายเลยทีเดียว ซึ่งใครสนใจสามารถอ่านรายละเอียดอื่น ๆ นั้นสามารถเข้าไปดูได้ที่ KillSwitch

อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเชื่อมต่อกับ KillSwitch Finance นักลงทุนจำเป็นที่จะต้องมีกระเป๋าเงินดิจิตอลเสียก่อนซึ่งปัจจุบันนี้ที่นิยมกันมากที่สุดก็คือ Metamask เมื่อมีกระเป๋า Metamask แล้วสิ่งที่จำเป็นก็คือการเชื่อมต่อไปที่บล็อกเชนของ KillSwitch Finance โดยสามารถใช้บล็อกเชนของ Binance Smart Chain หรือ Polygon Mainnet ซึ่งขั้นตอนการเชื่อมต่อบล็อกเชนนั้นสามารถหาดูได้จาก YouTube ได้เลย และที่สำคัญเลยก็คืออย่าทำรหัสกระเป๋าหายเพราะว่าอาจจะสูญเสียเงินทั้งหมดก็เป็นได้ดังนั้นรหัสกระเป๋าควรจดไว้ให้ถูกต้องและไม่ผิดพลาดเพื่อใช้ในการกู้กระเป๋าถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์มือถือ สุดท้ายก็คงต้องขอย้ำว่าถึงแม้ว่าจะได้รับผลตอบแทนแต่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นเดียวกันดังนั้นต้องมีความรอบคอบในการลงทุนให้ดีมากด้วย

ภาพ Screenshot จาก KillSwitch Finance

ข้อมูลจาก KillSwitch Official

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่

Bitcoin

Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่พาตลาดคริปโตราคาพุ่ง

Bitcoin ทรัพย์สินดิจิตอลที่มีอายุเพียงแค่สิบกว่าปีแต่สามารถสร้างกำไรให้กับนักลงทุนมหาศาลซึ่งในปี 2021 นี้ก็เป็นปีที่มีการพูดถึง Bitcoin มาตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้นับตั้งแต่ต้นปีที่ราคาไปแตะ 1 ล้านบาทก็สามารถดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้ามาลงทุนได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียวและราคาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนเมษายนที่ราคาสามารถดันไปสูงถึง 2,120,000 บาทโดยประมาณซึ่งพอราคาทำจุดสูงสุดดังกล่าวได้ ทั่วทั้งโลกก็ให้ความสนใจมากขึ้นปี

ทำให้เกิดข่าวมากมายเลยทีเดียวซึ่งเป็นทั้งข่าวในแง่บวกและแง่ลบทำให้ส่งผลต่อราคาเหรียญ Bitcoin อยู่บ่อยครั้งหลังจากที่เดือนเมษายนราคาทำจุดสูงสุดใหม่ได้ราคาก็เริ่มดิ่งลงมากกว่า 50% ลงมาเหลือราคา 1 ล้านบาทซึ่งในช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่มีข่าวดีประกอบกับข่าวร้ายด้วยเช่นเดียวกันซึ่งข่าวดีก็มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ราคาของเหรียญนั้นพุ่งขึ้นแต่ก็ดูเหมือนว่าตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนสิงหาคมราคาของ Bitcoin ก็ยังนิ่งสนิทถึงแม้ว่าจะมีการปรับตัวขึ้นไปบ้างในบางช่วงก็ตามที แต่หลังจากเดือนกันยายนเป็นต้นมาราคาของ Bitcoin ก็ดูเหมือนจะกลับมาสูบในตลาดกระทิงอีกครั้งและก็มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ราคาของ Bitcoin ก็ทำจุดสูงสุดใหม่อย่างเป็นทางการโดยมีราคาสูงถึง 2,200,000 บาทโดยประมาณเลยทีเดียว ประกอบกับข่าวว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดกองทุน ETF Bitcoin future คงเป็นเหตุผลว่าทำไมราคาของ Bitcoin ถึงพุ่งแรงได้ขนาดนี้

จากการขึ้นของเหรียญใหญ่อย่าง Bitcoin ทำให้วันนี้เหรียญเล็ก ๆ ที่อยู่ในตลาดมีราคาปรับตัวสูงขึ้นตามมาโดยทันที ซึ่งก็คงสร้างผลกำไรให้กับนักลงทุนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่สำหรับผู้ที่ตัดสินใจที่จะซื้อ Bitcoin ในช่วงนี้ ก็ต้องขอแนะนำว่าช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงที่ดีที่สุดที่จะเข้าไปซื้อเก็บเพราะว่าราคานั้นได้ขึ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีการย่อของราคาลงมาได้บ้าง สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะซื้อ Bitcoin ก็รอตอนที่ราคามันลดลงมาดีกว่า เพราะไม่งั้นอาจจะขาดทุนก็ได้

นอกจาก Bitcoin แล้ว Ethereum ก็เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่เข้าใกล้จุดสูงสุดเดิมเข้าไปทุกขณะโดยเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาราคาของ Ethereum สามารถไปได้ถึง 142,500 บาทโดยประมาณและก็ย่อตัวตาม Bitcoin มาในช่วงเวลาหลังจากนั้นจนล่าสุดในวันที่ 21 ตุลาคมราคาของเหรียญดังกล่าวก็อยู่ที่ 139,000 บาทโดยประมาณไม่มี

ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่พึ่งได้ยินข่าวเกี่ยวกับ Bitcoin ก็ขอให้เลือกลงทุนเหรียญที่เป็นเหรียญพี่เป็นอันดับต้น ๆ ของ marketcap โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ Coinmarketcap เพราะว่าเป็นเหรียญที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีกว่าเหรียญเล็ก ๆ และเมื่อมีความสามารถมากพอก็จึงค่อยนำเงินไปใช้กับเหรียญเล็ก ๆ เพราะว่าในบางทีเล็ก ๆ ก็สร้างกำไรมากกว่าเหรียญใหญ่ ๆ ในตลาด

ภาพจาก Pixabay

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Google จะลงทุนในทวีปแอฟริกา

Google

บริษัท Google เข้าไปลงทุนในทวีปแอฟริกาด้วยจำนวนเงินมาถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ถึงแม้ว่าตอนนี้โลกของเรานั้นจะเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีแล้วแต่ว่าในแต่ละพื้นที่ของโลกนั้นก็มีความสามารถของเทคโนโลยีแตกต่างกันออกไป ประเทศที่มีการพัฒนาแล้วก็จะมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปกว่าประเทศที่กำลังพัฒนาและสำหรับในประเทศที่พัฒนาช้าก็จะมีเทคโนโลยีที่ไม่ดีเท่าประเทศที่พัฒนาหรือกำลังพัฒนา ซึ่งการมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตทำให้ชีวิตนั้นมีความสะดวกสบายมาก ซึ่งก็หมายความว่าประเทศที่เทคโนโลยีพัฒนาและก้าวล้ำไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วนั้นประชาชนภายในประเทศนั้น ๆ ก็จะมีความสะดวกสบายมากกว่าประเทศที่ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยียากนั่นเอง โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาที่คนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้มีชีวิตที่ดีเหมือนกับทวีปอื่น ๆ และการเข้าถึงเทคโนโลยีของบางประเทศนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากทำให้ในทวีปแอฟริกานั้นมีการเติบโตทางด้านธุรกิจที่ช้ากว่าประเทศที่พัฒนาแล้วนั่นเองยิ่งในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิดทำให้การเติบโตนั้นชาร์จยิ่งขึ้นไปอีก 

บริษัท Google จึงจะเข้าไปลงทุนในทวีปแอฟริกาด้วยจำนวนเงินมาถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้มีการประกาศมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเงินลงทุนจำนวนดังกล่าวนั้นมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ตในทวีปแอฟริกานั่นเอง รวมไปถึงเป็นเงินทุนสนับสนุนเหล่า startup ภายในประเทศในทวีปแอฟริกาด้วย

โดยในงาน Google for Africa event ที่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกนั้นบริษัท Google ได้ก่อตั้งกองทุนการลงทุนแอฟริกาโดยเป็นการร่วมมือกับ Kiva เพื่อขอเงินกู้ 10 ล้านดอลลาร์ ในการช่วยเหลือ startup ในประเทศเคนยา ประเทศกานา ประเทศแอฟริกาใต้ และประเทศไนจีเรียให้ผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิตนี้ไปได้ นอกจากนี้กองทุนรวมดังกล่าวจะทำให้ startup สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปีข้างหน้านี้

การช่วยเหลือทวีปแอฟริกาของบริษัท Google นั้นคงช่วยให้ทวีปแอฟริกานั้นสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีรวมไปถึงการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและเหล่าธุรกิจ startup มากมายเลยทีเดียว และอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะเข้าไปลงทุนในทวีปแอฟริกาในอนาคตก็เป็นได้ และที่สำคัญเลยก็คือทำให้เกิดความเท่าเทียมกันมากขึ้นผู้คนที่ไม่เคยเข้าถึงเทคโนโลยีก็สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นแล้วมีโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองแล้วเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างดีมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook