9 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน ใตอนที่ 3

ธุรกิจ

9 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน ในปี 2022 ธุรกิจที่ไปรอดในยุคโควิด ตอนที่ 3

ผ่านไป 2 บทความแล้วสำหรับ “9 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน ในปี 2022 ธุรกิจที่ไปรอดในยุคโควิด” อีกเหลืออีก 4 เทรนด์ธุรกิจที่จะนำมาเสนอในบทความตอนที่ 3 ไปดูกันเลยว่ายังมีเทรนด์เกี่ยวกับธุรกิจอะไรบ้าง

กลุ่มธุรกิจที่ 6 Telemedicine หรือ โทรเวชกรรม ก็คือการแพทย์ทางไกล  ตั้งแต่มีโควิดเกิดขึ้น เราก็มีอุปสรรค บางทีเจ็บป่วยไม่สบาย ก็อยากจะไปหาหมอ แต่ก็กลัวไปเจอโควิด มันจึงทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเร็วขึ้น จริงๆมันมีมานานแล้วแต่มันมาโตเร็วขึ้นในช่วงโควิดที่ผ่านมา 2 ปี โทรเวชกรรมก็คือการสามารุปรึกษาผ่านทางวิดีโอคอลได้เลย ปรึกษาตั้งแต่โรคหวัด จนกระทั่งปรึกษาปัญหาทางด้นจิตใจ ทางด้านจิตเวชได้เลย Telemedicine จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าคนเริ่มชินกับ New Normal อยู่บ้านขรี้เกียจออกจากบ้าน เพราะสั่งของได้ สั่งอาหารได้ ช็อปปิ้งออนไลน์ได้ ตอนนี้ก็เริ่มขี้เกียจไปโรงพยาบาลแล้ว ถ้าปรึกษาผ่านโทรศัพท์ได้ผ่านZOOM ได้ ผ่านวิดีโอคอลได้ ทำไมต้องไปต่อคิวโรงพยาบาล และทุกอย่างก็จะดีขึ้นประหยัดขึ้น คนไม่ต้องเดินทาง หมอก็ทำงานได้สะดวกขึ้นหมอสามารถอยู่บ้านได้วย ซึ่งตอนนี้ก็มีบริษัทต่างชาติมาเปิดที่เมืองไทย และให้คุณหมอไทยให้คนปรึกษา และคนไข้ก็มีทั่วโลก

กลุ่มธุรกิจที่ 7 Genomics  คือการศึกษาเกี่ยวกับยีน หรือพันธุกรรม ซึ่งมันจะมาปฏิวัติ วงการการพทย์ Genomics สามารถป้องกันโรคร้ายได้ ยกตัวอย่างเช่น เด็กที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ไปตรวจแล้วพบว่ามีโอกาสที่จะเป็นมะเร็ง Genomics สามารถเอาเซลล์มะเร็งนั้นออกมาก่อนได้ หรือทำการผ่าตัดก่อนรักษาก่อนเลย และนอกจากจะหายป่วยได้แล้วมันยังจะถูกนำไปใช้ได้หลายๆวงการ เช่น วงการนักกีฬา วงการทหาร และยังช่วยได้ทั้งคนและสัตว์อีกด้วย

กลุ่มธุรกิจที่ 8 ESG  Environmental  Social and Governance คือเป็นธุรกิจที่มุ่งเน้น 3 อย่าง คืออสิ่งแวดล้อมไหม ช่วยเหลือสังคมไหม มีธรรมมาภิบาลที่ดีไหม ? ซึ่งเทรนร์ดนี้มีมาสักระยะแล้ว หลายๆกองทุนที่เงินเค้าใหญ่มาก บางครั้งก่อนจะลงทุนจะดูก่อนว่าป่าน 3 ข้อนี้ไหม? บางธุรกิจดีมากแต่มลพิษเยอะ เค้าก็จะไม่ลงทุน หรือว่ากำไรดีมากแต่ไม่ดีต่อสังคม เขาก็จะไม่ลงทุน หรือว่ามันดีมากเลยนะ แต่ในองค์กรเกดความไม่เท่าเทียมกัน ดุแลพนักงานได้ไม่ดี เขาก็ไม่ลงทุนอย่างนี้เป็นต้น

กลุ่มธุรกิจที่ 9 Cyber Security  เราเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้เยอะใช่ไหมเช่น มีคน Hack ข้อมูลของโรงพยาบาล ก็ต้องมีการต่อรองกับ Hacker ให้เงิน แบบนี้มีมานานแล้วและมีทั้งโลก แต่มันค่อยๆทวีความรุนแรงมากขึ้นและมากขึ้น มีการศึกษาว่ามั่วโลกมี Hacker ที่จะพยายามHack ระบบต่างๆสูงถึงทุกๆ 39 วินาที แปลว่าใน 1 วันจะมีการ Hack 2,200 กว่าครั้งซึ่ง Hack ได้หมดทุกอย่างในโลกนี้ คือทุกอย่างที่ใช้อินเตอร์เน็ต โดนHack โดนหมด เมื่อก่อนมีน้ำมันคือรวย แต่ทุกวันนี้ข้อมูลต่างหากที่ทำให้รวย ทำให้ Hacker พยายามจะ Hackข้อมูลไปขาย เอาไปเป็นตัวประกัน รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของพวกเราทุกคนด้วย ทั้งข้อมูลจากมือถือ เบอร์บัญชี เบอร์ธนาคาร หมายเลขบัตรประชาชน

ดังนั้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการปกป้อง หรือ Cyber Security  ก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ อนาคตถ้าจะมีการรบกันอาจจะไม่ใช้เริอดำน้ำ รถถัง เครื่องบินรบ ไม่ต้องใช้แล้ว ใช้แค่ Hacker แต่ละประเทศใครมี Hacker ฌฏ๋.ฏซ๋ษฏํฯ  Hack ระบบของประทศตรงกันข้ามได้ก็ชนะแล้ว

และนี่คือ 9 ธุรกิจที่น่าลงทุนในปี 2022  แล้วคุณคิดว่าธุรกิจกลุ่มไหนที่น่าลงทุนที่สุด ในความติดของคุณ

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

9 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน ในปี 2022 ตอนที่ 2

ธุรกิจ

9 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน ในปี 2022 ธุรกิจที่ไปรอดในยุคโควิด ตอนที่ 2

ในบทความตอนที่ 1 ได้ทิ้งท้ายเนื้อหาเกี่ยวกับ กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับ Met averse ไปบ้างแล้ว มาติดตามเนื้อกาที่น่าสนใจกับกลุ่มธุรกิจนี้กันต่อไปเลย

ถ้าพูดถึง Metaverse  ต้องมีคำสองคำที่ต้องรู้จักก็คือ VR & AR  VR คือ Virtual Reality  ก็คืออุปกรณ์ที่จะทำให้เจ้าไปในโลก Metaverse ได้ เช่นแว่นตา ส่วย AR ก็คือ Augmented Reality ซึ่งก็คือโลกเสมือน 

ถ้าเราจะลงทุนในธุรกิจ Metaverse ลงทุนอะไรได้บ้าง ก็อาจจะลงทุนในบริษัทที่สร้าง Metaverseขึ้นมา ซึ่งสามารถสร้างMetaverse ได้มากกว่า 1 บริษัท เพราะ Metaverse ไม่มีใครเป็นเจ้าของ และ Metaverse มีฟลาย platform หรืคุณอาจจะลงทุนกับบริษัทที่ผลิตแว่น หรือจะลงทุนในค่ายโทรศัพท์มือถือก็ได้ เพราะว่าสุดท้ายก็ต้องใช้ อินเตอร์เน็ตอยู่ดี และ Metaverse จะสร้างธุรรกิจอีกมากมาย ต่อไปเราไม่ต้องมานั่งดูยุทูปแล้ว เพราะเราไปเจกันใน Metaverse ได้

3.กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้แงกับภาวะโลกร้อน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ และเป็นเรื่องเร่งด่วนี่พวเราต้องช่วยกัน

และธุรกิจที่จะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนกจะได้รับผระโยชน์ไปด้วยทั้งสองทางทั้งลดภาวะโลกร้อนและได้ทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ธรกิจที่ว่าคืออะไรบ้าง อย่างแรกคือ ลังงานบริสุทธิ์ เช่นโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก เป็นพลังงานที่มาจากลม พระอาทิตย์ แงแดด มาจากน้ำ หรือแม้กระมั่งมาจากนิวเคลีย อีกอันหนึ่งที่กำลังมาแรงคือ เนื้อเทียม หรือที่เค้าเรียกว่า plant based meat ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนเริ่มมีความมากข้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็เลยเลือกมานเนื้อทางเลือก หรือเนื้อเทียวกันมากขึ้น

นอกจากเราจะลงทุนในธุรกิจช่วยลดภถาวะโลกร้อนได้แล้ว พวหเราเองก็ต้องช่วยลดด้วย เช่น เปลี่ยนถุงพลาสติกเป็นถุงผ้า อะไรใช้ซ้ำได้ก็ใช้ซ้ำ ปิดไฟเมื่อไม่จำเป็น 

4.กลุ่มธุรกิจ  CLOUD แทบจะพูดไดเว่า 99.99 % ทุกคน CLOUD  ทั้งนั้น ทั้งทางตรงและทางอ้อ้ม ทางอ้อมก็เช่น ถ้าคุณดูยูทูป ประชุมทาง ZOOM สิ่งเหล่านี้ใช้ CLOUD ส่วนทางตรงใช้อะไรบ้าง ก็เช่นมือถือ นานๆไป พื้นที่เก็บข้อมูลเต็ม เค้าก็จะขายพื้นที่เก็บข้อมู๔ลคุณเพิ่ม ถ้าเปรียบเหมือนโลกจริง ก็คือ โกดีงเก็บขิง นั่นเอง แต่ทุกวันนี้มะนเป็นโกดังในอินเตอร์เน็ต โกดังในอากาษศ ซึ่งมีจำนวนบริษัทมากมายที่ทำเรื่องนี้ ซึ่งผุ้นำที่ดีที่สุดตอนนี้คือ AMAZON ซึ่งเริ่มต้นก่อนเพื่อนและยังเป็นเจ้าตลาดอยู่ ตามาติดๆก็น่าจะเป็น ไมโครซอฟ

5.กลุมธุกิจ Cryptocurrence  ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมา  Cryptocurrence  มาแรงจริงๆ เลยทำให้หลายบริษัทใหญ่ต่องการทำอะไรสักอย่างที่ร่วมมือกับ Cryptocurrence   เช่นบริษัทอสังหาหลายๆที่ก็เริ่มขายคอนโดขายบามและรับจ่ายด้วย Cryptocurrence หรืออสังหาริมทรัพย์บ้างเจ้าก็เริ่มออกเหรียญเอง เช่น Token โดยใช้อังสหาของเค้าเป็นตัวรัองรับเป็นต้น  ล่าสุด ห้างสรรพสินค้าอย่างเช่นเดอะมอลล์ที่จับมือกับ บิสคัพ ต่อไปคุณไปช็อปปิ้งที่เดอกมอลล์ ก็สามารจ่ายเงินเป็นเหรียญต่างๆได้ แทนเงินสด นอกจากนั้นยังมีบางค่ายรถยนต์ ที่ขายรถยนต์และรับค่ารถเป็น Cryptocurrence และเชื่อว่าอีกภายใน2-3 ปี จะมีบริษัทต้องคิดแล้วว่า  เข้ามาร่วมมือกับ Cryptocurrence ได้อย่างไร จำนวนมากขึ้น

ผ่านมาแล้ว 5 ข้อ ยังเหลืออีก 4 กลุ่มธุรกิจ อย่าพลาดที่จะติดตาม “ 9 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน ในปี 2022 ธุรกิจที่ไปรอดในยุคโควิด” ตอนที่ 3 กันต่อ

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

9 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน ในปี 2022 ตอนที่ 1

ธุรกิจ

9 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน ในปี 2022 ธุรกิจที่ไปรอดในยุคโควิด ตอนที่ 1

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะลงทุนและได้ผลตอบแทนมากว่าคนอื่น มาดูกันว่าธุรกิจที่น่าลงทุนในปี 2022  แบะจะไปรอดในยุคโตวิด

กลุ่มที่ 1 เทคโนโลยี 5 G  เพราะเทคโนโลยี 5 G จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราเป็นอย่างมากมายมหาศาส เราต้องเข้าใจก่อนว่า สปีดของอินเตอร์เน็ตที่เร็วขึ้น สามารถทำอะไรได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การมียูทูปในผัจจับัน ถ้าเป็นช่วงที่สัญานอินอเตอร์เน็ตแบบแรงยังไม่ได้เข้ามาในยุคแรกๆ เราจะไม่สามารถดูยูทูปได้เลย อย่างเมื่อสมัยก่อนดูหนังก็ต้องเช่า DVD แต่เดี๋ยวนี้มี Netflix เกิดขึ้นมา  5 G ก็เหมือนกัน อย่างทุกวันนี้เรามี 4G ก็ถือว่าเร็วมากแล้ว แต่ 5 G มันจะไม่ไดเร็วขึ้นเป็น 10 เท่านะ แต่มันจะเร็วขึ้นเป็นร้อยเท่าเลย เราฉะนั้นมันจะเปิดประตูสู่โลกใหม่มากมาย มันจะทำอำรได้อีกมากมาย เรียกได้ว่าสุดจินตนาการ ยกตัวอย่างเช่น การประชุมกันผ่าน ZOOM มันจะชัดขึ้น คมขึ้น ดู YOUTUBE มันก็จะเร็วขึ้น ดหลดหนังก็จะเร็วขึ้น เล่มเกมก็จะสนุกขึ้น ทุกอย่างมันจะดีขึ้นหมดเลย เพราะความเร็วสูงมาก อันนี้เคือเรื่องพื้นฐานง่ายๆ แต่จริงๆมันสามารถ ทันสมัยกว่านั้นได้ รถยนต์ก็ไม่ต้องใช้คนขับ แต่ถ้าไม่มี5G ปัญหาคือสัญญาณดีเลย์ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเมื่อไม่มีคนขับ เพราะสัญาณ delay  รถยนต์ขับได้ช้าอาจเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ถ้ามี 5G รถยนต์ไร้คนขับเกิดได้ ต่อไปรถบรรทุกส่งของจากเหนืไปใต้ ไม่มีคนขับเกิดได้ นั่งแท็กซี่ หนังรถGab  รถคุณจอดอยู่ที่บ้าน สามารถไปที่ทำงานไปได้ โดยไม่ต้องมีคนขับ ขับรถระหว่างทาง หลับได้ ดังนั้นเอนาคต 5 G มาแน่ๆ หรือว่าแม้กระทั่งการเกษตรก็ตาม ปกติต้องใช้คน รัดนม ให้อาหาร ต่อไป 5 G จะเปลี่ยนไปหมดเลย เปิดปิดประตูให้สัตว์ออกได้ ให้อาหารเป็นเวลาได้ โดยไม่ต้องใช้คน หรือแม้กระทั่งใส่ปุ๋ยรดร้ำ เป็นเวลาได้ด้วย รวมไปถึงโดนด้วยนะถ้ามี 5 G โดนจะทำอะไรได้มากขึ้น รวมไปถึงเป็นอาวุธสงครามที่น่ากลัวได้ด้วย

การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ 5 G  ลงทุนอะไรได้บ้าง แน่นอนไม่ใช่แค่ค่ายโทรศัพท์มือถือ มีได้มากกว่านั้นคือ บริษัทที่รับติดตั้งเสา เพราะ 5 G ต้องใช้เสา และเสาต้องถี่ หรือทำบริษัท รุยนต์ไร้คนขัย หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอกณณ์ไฟฟ้า  internet of thing  คือถ้าพูดถึง 5 G แล้วเครือข่าวที่เกี่ยวข้องกว้างมาก

2.กลุ่มธุรกิจ Metaverse ซึ่งคำนี้ ราชบัณฑิตยสภา ได้บัญญัติความหมายไว้ว่า จักรวาลนฤมิต เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ มันเริ่มาจาก facebook  เค้าออกมาบอกแล้ว่าเค้าเปลี่ยนชื่อมาเป้ฯ Meta แต่ทุกย่างยังเหมือนเดิมแต่เขาอยากจะสื่อสารว่าเขาทำอไรได้มากกว่านั้น แต่จริงๆแล้วไม่ใช่แค่ facebook ที่ลงทุนใน Metaverse ไมโครซอฟก็ลงทุนในMetavers และมีหลายบริษัทที่กำลังเข้ามาฃงทุนใน Metavers ถ้าจะหาคำแปลง่ายๆของMetavers มันก็คือโลกออนไลน์ที่เข้าไปอยู่ในนั้นได้ เป็นโลกเสมือนจริง แต่คุณจะเข้าไปเป็น อวตาล คุณจะสามารถแต่งตัวยังไงก็ได้ แล้วก็ไปเจอกันในโลกMetavers ได้ และเราก็สามารถทำกิจกรรมในนั้นได้ 

กำลังสนุกเลยใช่ไหม ? ติดตามอ่าน “9 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน ในปี 2022 ธุรกิจที่ไปรอดในยุคโควิด”  ตอนที่ 2

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ลงทุนสไตล์มนุษย์เงินเดือน

ลงทุน

4 step ลงทุนสไตล์มนุษย์เงินเดือน

การลงทุนในกองทุนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่มีเงินน้อย แต่อยากเริ่มเก็บออมเพื่ออนาคตตั้งแต่วัยเรียน ก่อนที่จะเริ่มลงทุนในสินทรัพย์ที่เรายอมรับความเสี่ยงได้อย่างกองทุนรวม เราต้องมีเงินเก็บฉุกเฉินประมาณ 3-6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือนที่เรามี แล้วเราไปลองลงทุนในกองทุนกันเลย

     1.  ก่อนที่เราจะเริ่มลงทุนในกองทุนรวม ต้องรู้ว่าเรารับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากขนาดไหน ถึงแม้ว่าการลงทุนในกองทุนรวมจะมีข้อดีตรงที่มีคนดูแลกองทุนของเราให้ก็จริง แต่ว่าแต่ละกองทุนมีความเสี่ยงจากปัจจัยที่แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นเราควรทำแบบทดสอบความเสี่ยงของเรา และศึกษาหาความรู้ในเรื่องกองทุนอย่างเช่น การอ่านงบการเงิน อ่านหนังสือชี้แจงการลงทุนเป็นว่ากองทุนที่เราจะลงทุนมีนโยบายในการลงทุนอะไรบ้าง

    2. เปิดบัญชีกองทุน ให้เลือกเปิดกองทุนกับธนาคารที่ชอบ หรือตัวแทนจากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น สตาร์อัพ fintech เพราะตัวแทนมีให้เลือกกองทุนเยอะ ทำเรื่องเอกสารในการเริ่มต้นซื้อขายสะดวก จากนั้นตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ช่วยให้เรารู้ว่าตนเองต้องลงทุนในกองทุนเท่าไหร่ และต้องจัดพอร์ตอย่างไร ถึงจะได้ผลตอบแทนตามที่เราหวัง เพื่อจะได้ไปถึงเป้าหมายทางด้านการเงิน

     3.เลือกกองทุนให้ดูรูปแบบของกองทุน เลือกในแบบที่ใช่ มีทั้งกองทุนเปิด กองทุนปิด กองทุนที่มีปันผล กับกองทุนที่ไม่มีปันผล ให้เราอ่าน Fund Fact Sheet ให้ถี่ถ้วน ให้เข้าใจก่อนคิดจะลงทุน สำหรับกองทุนต่างประเทศ เราก็ควรที่จะหารายละเอียดของ Master Fund มาดูด้วย หาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนซื้อ เช่น เรื่องผลตอบแทน ความเสี่ยง วิธีจัดการกองทุน โดยอาจจะเลือกเอาจากเว็บบอร์ดต่างๆ อย่างเช่น Siamchart ดูค่าธรรมเนียมด้วย ค่าธรรมเนียมเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อผลตอบแทน ให้เลือกดูกองทุนที่มีค่าใช้จ่าย Total Expense ratio ต่ำๆ โดยทางที่ดี ควรเลือกกองทุน Actives หรือกองทุนเชิงรุก คือ กองทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ชนะตลาด เหมาะกับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง เพราะกองทุนแบบนี้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ในการลงทุนของผู้จัดการกองทุน ไม่ควรเกิน 2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกองทุน Passives หรือกองทุนเชิงรับ เป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาว ไม่ควรเกิน 1 เปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อเอง อย่าลืมดูว่ามีการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินหรือไม่ หากเราลงทุนในกองทุนต่างประเทศสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก  

     4.เมื่อเลือกลงทุนนกองทุนที่ชอบได้แล้ว ให้เลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับเราในการลงทุน เช่น เลือกออมอัตโนมัติจากการตัดเงินในบัญชีหลังเงินเดือนเข้าทันที ลงทุนด้วยจำนวนเท่าๆกัน ในทุกๆเดือน ลงทุนโดยใช้เทคนิคการดูกราฟเพื่อวิเคราะห์แล้วเลือกลงทุนในช่วงที่น่าลงทุนจริงๆ และควรติดตามผลการลงทุนทุก 3 เดือน  และทำการรีบาลาซ์หรือปรับสมดุลของพอร์ต ให้เราสามารถรับความเสี่ยงได้ และได้ผลตอบแทนตามที่หวังอยู่ตลอดเวลา

การลงทุนในกองทุนรวม เป็นการลงทุนที่เริ่มออมจากจำนวนเงินน้อย ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นลงทุน การลงทุนในกองทุนรวมต้องใช้ความอดทนและวินัยในการลงทุนระยะยาว อาจไม่ได้มองเห็นผลตอบแทนในชั่วข้ามคืนเหมือนการเทรดนะคะ

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บทเรียนสอนใจเกี่ยวกับการลงทุนในยุคCovid-19

Covid-19

Covid-19 ทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราในแบบฉบับ New normal

นักลงทุนทั้งรายย่อย รายใหญ่คงได้เผชิญกับวิกฤต Covid-19 ที่ส่งผลกระทบทุกภาคส่วนไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ  มีหลายธุรกิจและสตาร์ทอัพที่ทนไม่ไหวกับวิกฤตการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในครั้งนี้มายาวนาน จนทำให้หลายธุรกิจต้องปิดตัวลง แต่ก็มีบางธุรกิจที่เป็นธุรกิจดาวรุ่งในยุคนี้เลยก็ได้ วิกฤต Covid-19 ทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราในแบบฉบับ New normal รวมถึงนักลงทุนอย่างเราที่ต้องปรับพอร์ตบ่อย และคอยติดตามข่าวการลงทุนเนื่องจากความไม่แน่นอนของวิกฤตในครั้งนี้

1 เราควรเริ่มจากวางเป้าหมายตามหลัก Smart goal ทั้งเฉพาะเจาะจง วัดผลได้ สามารถทำได้จริง สมเหตุสมผล สามารถเป็นไปได้ แต่ยังคงท้าทายความสามารถตนเอง มีขอบเขตเวลากำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องทำสำเร็จเมื่อไหร่ การตั้งเป้าหมายแบบนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการตั้งเป้าหมายชีวิตได้ และเราควรเขียนเป้าหมายเอาไว้ลงในกระดาษหรือบันทึกไว้ในมือถือเพื่อให้เรามองเห็นมันทุกๆวัน และต้องเชื่อว่าเราทำได้ก่อน การมีเป้าหมายเปรียบเสมือนว่าเราได้เขียนแผนที่ไว้แล้ว ทำให้เราโฟกัสกับเป้าหมายได้ดีขึ้น และเราจะได้วางแผนแนวทางการลงทุนต่างๆ ให้ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ และต้องลงมือทำตามแผนอย่างสม่ำเสมอ 

2 การวางแผนลงทุนในพอร์ตเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องกระจายการลงทุนไปหลายๆ สินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน การกระจายการลงทุน เราต้องคำนึงถึงว่าเรารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน เราจะได้จัดสัดส่วนการลงทุนได้ถูกต้อง อย่างคนที่พึ่งเริ่มทำงานสามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่าคนที่อยู่ในวัยเกษียณ เพราะ ยังเต็มเปื่อมไปด้วยแรงกายแรงใจ มีเวลาในการทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัวอีกหลายปี ทำให้ลงทุนในหุ้น 50-70 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตได้แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน

3 ยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีอะไรแน่นอน  เราต้องคอยติดตามข่าวการเงินการลงทุนอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้พลาดในการลงทุน และต้องปรับพอร์ตเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ และได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ที่สำคัญกว่าการลงทุน คือ เราควรมีเงินฉุกเฉินก้อนแรกเก็บไว้และควรมีประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงให้กับตัวเราเอง ไม่ลงทุนเกินตัว รู้จักแบ่งไม้ซื้อเพื่อจำกัดการขาดทุนและสร้างโอกาสทำกำไร แถมเรายังสบายใจมากขึ้นที่มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นด้วย

4 ถึงเวลาถึงจุด stop loss เราต้องตัดใจขาย ต้องขายหุ้นทิ้ง เพื่อไม่ให้เราขาดทุนไปมากกว่านี้ เพราะราคาหุ้นอาจไหลไปเรื่อยๆ แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจส่วนบุคคล และความรู้ ประสบการ์ในการวิเคราะห์หุ้นของคุณ ว่าจะตัดสินใจซื้อหรือถือไว้แม้จะขาดทุนเพราะเหตุผลอะไร ต้องตัดสินใจขายเพราะเหตุผลอะไร 

นี่ป็นเพียงบทเรียนการลงทุนในยุควิกฤต Covid-19 ที่จะทำให้คุณนำไปเป็นแง่คิดในการลงทุน และประยุกต์ใช้กับการลงทุนแบบ New normal ในสไตล์ของคุณ และอย่าลืมติดตามผลตอบแทนการลงทุนของพอร์ตเราบ่อยขึ้น 

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

วิธีเริ่มต้นลงทุนในหุ้น

ลงทุน

วิธีเริ่มต้นลงทุนในหุ้น แบบละเอียดยิบ

การลงทุนในหุ้น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงรองลงมาจากบิทคอยส์ ก่อนที่เราจะเริ่มลงทุน เราก็ต้องมีความรู้ด้านการลงทุนในหุ้นให้ศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน ถ้าพื้นฐานของเราดีแล้ว เราจะกล้าลองผิดลองถูกกับมัน ซึ่งขั้นตอนการเปิดบัญชีหุ้นก็ไม่ยากเลย มีดังนี้ค่ะ 

1.หลังจากเราเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือแล้ว เริ่มต้นด้วยการเปิดพอร์ตหุ้น ผู้ที่เปิดพอร์ตหุ้นได้ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป เอกสารที่ใช้เปิดพอร์ตหุ้น คือ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร สำเนาทะเบียนบ้าน และ statement ธนาคาร ย้อนหลังอย่างน้อย 3 เดือน พร้อมเซ็นต์สำเนาถูกต้อง และลงชื่อตนเอง ทุกฉบับค่ะ ตรงนี้เราจะเสียค่าคอมปกติจะเสียประมาณ 15 บาท นี่ยังไม่รวมค่าภาษีนะคะ ถ้าค่าคอมถูกๆหน่อย จะเสียประมาณ 5 บาทค่ะ แต่ขอเสียก็คือ มีฟังก์ชันไม่ครบ และอาจไม่มีคนคอยดูแลเหมือนคนที่จ่ายค่าคอมปกติ

2.นอกจากจะมีเงินเก็บฉุกเฉินไว้เป็นเงินสำรอง ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินแล้ว เราจะได้ไม่นำเงินลงทุนมาใช้ในยามฉุกเฉิน รู้จักตัวเองเสียก่อนว่าชอบลงทุนสไตล์ไหน เช่น

 Day trade เป็นคนที่เน้นทำกำไรระยะสั้น เน้นหากระแสเงินสด เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเฝ้าหน้าจอ และตั้งจุด stoploss หรือจุดตัดขาดทุนสั้นๆ เราต้องรับความเสี่ยงตรงนี้ได้ ควรมีความรู้ในการดูกราฟหรือสายTechnicalมากที่สุด    

Swing trade เน้นถือหุ้นประมาณ 5 วัน หรือเป็นสัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องมีเวลาเฝ้าหน้าจอ ชอบใช้stoplossอัตโนมัติ ควรมีความรู้เรื่องการดูกราฟ และความรู้ในการดูหุ้นเติบโต ดูงบการเงินของบริษัทเป็น  

Run trend เน้นถือหุ้นยาวเป็น10ปี เป็นสายVI เพื่อได้กำไรจากเงินปันผล การทบต้นทบดอกของหุ้น ต้องอาศัยความรู้ในการดูงบการเงิน การวิเคราะห์หุ้น วิสัยทัศน์การมองอนาคตของบริษัท 

3.เลือกหุ้นที่เราชอบจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นแหล่งข้อมูลที่ดี สำหรับการวิเคราะห์หุ้นรายตัว เพราะมีทั้งข้อมูลหุ้นรายบริษัท รายงานประจำปี งบการเงิน มีราคาให้ดูย้อนหลัง สัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัท ผู้บริหารเป็นใคร มีคลิปวีดีโอประกาศผลประกอบการรายงานผลประกอบการแต่ละไตรมาส หรือรายปีของบริษัท มีการแจกวอแรนซ์ให้ผู้ถือหุ้น มีข้อมูลการซื้อขายรายวันและย้อนหลัง ข้อมูลหุ้นที่กำลังจะเปิดขาย IPO  เว็บไซด์ settrade เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่ครองใจ ผู้ที่รักในการลงทุนในหุ้น เนื้อหาภายในเว็บไซต์คล้ายกับ SET หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่มีข้อมูลที่หลากหลายมากกว่า เช่น มีข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน บทความความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว siamchart เป็นเว็บไซต์ดูกราฟกองทุนรวม กราฟหุ้น มีการสรุปข้อมูลอัตราส่วนทางการเงิน ของหุ้นแต่ละตัว  สามารถค้นหาหุ้นได้โดยง่าย เช่น เราจะค้นหาหุ้นที่มี P/E ต่ำสุด 

ดังนั้น การลงทุน เป็นเรื่องปกติที่เราจะขาดทุน แต่เราก็ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของเรา มาปรับปรุงว่าเราขาดความรู้ในเรื่องใด จะได้ไม่ขาดทุนอีก ค่อยๆเรียนรู้จากการลงสนามจริงไปเรื่อยๆ มีเป้าหมายในการลงทุนที่ชัดเจน จะทำให้เรารู้ว่าเราสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน ต้องลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนเท่าไหร่ ถึงจะไปถึงเป้าหมายนั้น

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook