โดนตัดราคาต้องแก้ปัญหาแบบนี้

ราคาสินค้า

ปัญหาเรื่องโดนตัดราคาสินค้า

ใครที่มีปัญหาเรื่องโดนตัดราคาสินค้า ในบทความนี้จะบอกวิธีการที่ทำให้คุณจะไม่โดนตัดราคาอีกเลย แต่ก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า

ถ้าสินค้าคุณเป็นประเภทเหมือนกับคนอื่นเค้าราคาจะน้อยที่สุด แต่ถ้าสินค้าคุ๊มีอะไรที่มีฟังก์ชั่นมากกว่าเค้า คุณจะได้ราคาเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย แต่ถ้าคุณมีฟังก์ชั่นมากกว่าเค้าแต่คุณมีบริการแถมมาด้วย ราคาก็จะเพิ่มขึ้นมาหน่อย และคนส่วนใหญ่ก็จะถูกตัดราคาอยู่ใน 3 คุณสมบัติ 3 อย่างนี้ แต่ตุดหนึ่งที่คุณไม่เคยมองและไปถึงเลยคือการแข่งกันด้วยประสบการณ์ และจุดนี้เป็นจุดที่คนไม่สามารถตัดราคาคุณได้ เพราะ คุณสมบัติ 3 อย่างรกเป็นเรื่องของเหตุผล แต่ ประสบการณ์เป็นเรื่องของอารมณ์ 

ยกตัวอย่าง คุณลองสังเกตดู ต่อให้คุณทำกางเกงที่ใส่แล้วสบายแค่ไหน ราคาเพิ่มขึ้นไม่เท่าไหร่และจะมีการตัดราคา แต่เมื่อไหร่คุณทำกางเกงนักฟุตบอลที่คนชอบ ราคาอื่นเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะคุณขายประสบการณ์ ขายอารมณ์ โดยคุณต้องสร้าง แบรนด์นิ่ง เพราะมันคือ อารมณ์และความน่าเชื่อถือ แม้สินค้าที่มีไม่ใช่แบรนด์ดัง ไม่ใช่หลุยส์วิดตอง ไม่ใช่แบรนด์ดังๆ คุณก็ต้องสร้าง แบรนส่วนตัว หรือแบนด์บุคคลขึ้นมา บางคนเค้าชอบแบรนด์คุณเพราะเค้ามีความเชื่อถือ และความเชื่อถือก็คือประสบการณ์ ถ้าคุณอออกมาสร้างตัวตนเค้าจะซื้อกับคุณ เพราะเขาเชื่อถือในปรัสบการณ์ของคุณ คนซื้อของจาก “บังซัน” เพราะเขาเชื่อถือบังซัน  เพราะสินค้าส่วนใหญ่มันเหมือนๆกัน แต่ถ้าคุณเอาประสบการณ์มาขาย มันจะสามารถอัพเกรด อัพราคาได้อย่างมหาศาล เพราะคนส่วนใหญ่จะจ่ายแพงมากกว่าเพื่อซื้อสิ่งที่เรียกว่า ประสบการณ์ บางครั้งที่เราไปกินอาหารแล้วร้านอาหารไปแข่งกันด้วยให้ข้าวเพิ่ม ให้ไข่เพิ่มมันได้ไม่เท่าไหร่ หรือแข่งกันด้วยบริการส่งถึงที่ก็ได้ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าคุณแข่งกันด้วยประสบการณ์ไปกินร้านที่ปกติถ้านักแสดงฮอลีวู้ดมาต้องมากินที่นี่ หรือเป็นซูชิที่ได้รับมิชลินสตาร์ คนต้องมาต่อคิวกิน ราคาเป็น 10,000 คนก็จ่าย เพราะมันขายตัวประสบการณ์ชื่อเสียง 

ดังนั้นถ้าวันนี้คุณโดนตัดราคาคุณต้องคิดใหม่ตั้งแต่แรกเลยว่า คุณยังวิ่งอยู่ในคุณสมบัติ 3 ข้อนี้อยู่หรือเปล่า ถ้าคุณยังวิ่งวนอยู่ตรงนี้ปัญหาตัดราคาแก้ไม่มีวันจบ เขาตัดคุณคุณตัดเขาวนอยู่อย่างนี้ไม่มีวันจบ ดังนั้นคุณต้องกระโดดออกมา โดยวิธีการที่ง่ายที่สุดคือ สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ทำตัวเป็นแม่เหล็กดูดลูกค้า ให้ลูกค้าซื้อเพราะว่าเขาเชื่อมั่นคุณ ซื้อเพราะว่าเขาชอบ คุณ ซื้อเพราะว่าเขารักคุณ ทำแบบนี้ให้ได้ แล้วเขาพร้อมจะซื้อประสบการณ์ของคุณจ่ายให้คุณได้แพงขึ้นมากขึ้น และคุณจะไม่มีวันถูกตัดราคา เพราะมันเป็นประสบการณ์ของคุณที่ไม่มีใครเหมือน

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

การทำการตลาด

การตลาด

การทำการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ

การตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ การที่เรานำเสนอผ่านช่องทางอย่างโซเชียลมีเดียเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับลูกค้าใช้การบอกผ่านด้วยวิธีการเขียน Content (คอนเทนต์) สินค้าส่วนใหญ่เริ่มมีการปรับตัวมาขายในช่องทาง Onlineมากกว่าการขายแบบ offline

การทำ Content คืออะไร การเล่าสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าของเรา ให้ลูกค้าของเราได้รับข้อมูลนั้นไปตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ซึ่ง การตลาดไม่ใช่การที่เราขายสินค้าให้ได้มากๆ เเต่เป็นการเข้าใจลูกค้าว่าลูกค้าต้องการอะไร ทำให้ลูกค้ามีความสุข 

จุดเริ่มต้นของการตลาดเริ่มต้น คือ ลูกค้า ว่ากลุ่มลูกค้าคือใคร กลุ่มลูกค้าชัดเจน

เเบรนด์เราเเตกต่างจากเเบรนด์อื่นอย่างไร ซึ่งเป็นจุดแข็งของกิจการเรา การตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ดีที่สุด

ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix)

ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา การจัดจำหน่าย การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 

1.ผลิตภัณฑ์ (product)  การบรรจุภัณฑ์ (pakaging) และตรายี่ห้อ 

ผลิตภัณฑ์ อาจหมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ มีตัวตน  การจัดตั้งแบรนด์หรือตรายี่ห้อเพื่อใช้เรียกผลิตภัณฑ์ การบรรจุภัณฑ์ที่ดี สวย เป็นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และมีประโยซน์เพราะใช้ปกป้องตัวผลิตภัณฑ์ 

2. ราคา (price)

การตั้งราคาเป็นส่วนประสม เป็นกระบวนการสร้างแผนตลาด เพราะต้องพิจารณาราคาที่มีความเหมาะ

สมคือมีระดับสูงมากพอที่จะครอบคลุมต้นทุนและทำกำไร ขณะเดียวกันก็ต้องอยู่ในระดับต่ำเพียงพอที่จะสร้างยอดขายและตอบสนองต่อความต้องการด้านต่างๆ ราคาเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงตำแหน่งผลิตภัณฑ์ เช่น ราคาที่สูงแสดงถึงคุณภาพหรือคุณประโยชน์ที่พิเศษบางประการของสินค้า

3. การจัดจำหน่าย (place) และการกระจายสินค้า 

ในการวางแผนด้านช่องทางการจำหน่ายเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าของเราสามารถเข้าถึงตลาดเป้าหมายได้ หลังจากที่มีการสร้างความต้องการของสินค้าในตลาดแล้วการกระจายสินค้า เป็นกระบวนการส่งผ่านสินค้าและบริการ จากผู้ผลิตไปยังผู้ซื้อหรือผู้ใช้

4.การส่งเสริมการขาย (sale promotion) และการโฆษณา

เป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการซื้อสินค้ามากขึ้นซึ่งการส่งเสริมการขาย เสนอสิ่งจูงใจเพื่อลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา อาจจะเห็นโปรโมชั่น

ส่วนผสมทางการตลาดของลูกค้า

4C คือ กลยุทธ์การตลาดที่คิดจากมุมมองของลูกค้า เพื่อค้นหาว่าลูกค้าต้องการอะไร คิดอย่างไร  นำเสนอcontent เพื่อตอบสนองลูกค้าเเต่ละคน

1. Customer – สิ่งที่ลูกค้าต้องการ หรือกำลังมองหา

ลูกค้ามีปัญหา หรือ Pain Point อะไรบ้าง ที่ต้องการได้รับการแก้ปัญหา หลังจากนั้นนำมาพัฒนาหรือแก้ใข เพือรองรับความต้องการของลูกค้า

2.Cost – ความคุ้มค่าของลูกค้า

การทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจในสิ่งที่ได้รับจากการซื้อสินค้าและบริการ

3. Convenience – ความสะดวกสบายในการซื้อ หรือใช้บริการ

การมีช่องทางในการซื้อหลายช่องทางในการจำหน่ายที่ผู้บริโภคสามารถซื้อหาสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

4. Communication – การสื่อสาร และการเลือกช่องทางการสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

ทำให้เราเข้าใจกลุ่มลูกค้าของเรามากขึ้น รวมถึงทำให้มองเห็นจุดบกพร่องของธุรกิจ

การทำการตลาดไม่เพียงมองในมุมผู้ประกอบการเพียงเท่านั้นยังต้องมองในมุมของลูกค้าอีกด้วย การทำการตลาดเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการรับรู้ของลูกค้า ให้ลูกค้าซื้อสินค้าของมากขึ้นนั้นเอง

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook