บริษัท Apple เปิดตัวได้อย่างสวยหรูในปี 2022

Apple

บริษัท Apple เปิดตัวได้อย่างสวยหรูในปี 2022 มูลค่าบริษัททะลุ 3 ล้านล้านล้านดอลลาร์

เมื่อพูดถึงบริษัทที่ประกอบธุรกิจรายใหญ่ของโลก หนึ่งบริษัทที่จะต้องนึกถึงเลยก็คือบริษัท Apple บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ผลิตเทคโนโลยีมาให้พวกเราได้ใช้งานกันพี่ช่วงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาและได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ ยอดขายผลิตภัณฑ์ในแต่ละปีก็เรียกได้ว่าถล่มทลาย และก็ยังไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เลยแม้แต่ปีเดียว

จำนวนยอดการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปีทำให้บริษัท Apple เติบโตขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถดูได้จากหุ้นของ Apple ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นในแต่ละปีนับตั้งแต่ปี 2019 ก็มีราคาสูงขึ้นมาอย่างมากเลยทีเดียวเพียงเวลาแค่ 3 ปีบริษัท Apple บริษัท Apple มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 400 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวโดยเพิ่มจากราคาประมาณ 40 ดอลลาร์ในวันที่ 2 มกราคม 2019 มาเป็น 182 ดอลลาร์ในวันที่ 4 มกราคม 2022 (อิงจากกราฟราคาเว็บไซต์เทรดดิ้งวิว) การเติบโตอย่างเร็วขนาดนี้ทำให้บริษัทแอปเปิ้ลกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าของบริษัทเกิน 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะเวลาเพียง 1 ปีกว่าเท่านั้นเอง 

และบริษัท Apple จึงกลายเป็นบริษัทแรกที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่ามากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือว่าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมากและเป็นบริษัทที่เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่างที่อยู่บนโลกของเรา

ถึงแม้ว่าบริษัท Apple จะเป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิดเหมือนกับบริษัทอื่น ๆ ทั่วโลก แต่ก็ยังสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาให้ผู้บริโภคได้ใช้งานกันได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ เลยทีเดียวที่สำคัญผลิตภัณฑ์ที่ถูกเปิดตัวมานั้นก็เป็นที่นิยมเสียด้วย โดยเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมาบริษัท Apple สามารถจำหน่าย Airpods จำนวนกว่า 27 ล้านเครื่อง ซึ่งทำให้บริษัทเติบโตปีต่อปีกว่า 20% เลยทีเดียว และในช่วงไตรมาสที่ 4 บริษัท Apple สามารถเติบโตปีต่อปีได้สูงถึง 29% จากการขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โทรศัพท์ iPhone ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ชูโรงของ Apple

ปี 2022 นี้ก็ต้องมาติดตามดูว่าบริษัท Apple จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อะไรบ้างออกมาให้พวกเราได้เห็นกัน จะเป็น iPhone รุ่นใหม่ iPad รุ่นใหม่ หรือว่า Apple Watch รุ่นใหม่ หรือว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือซอฟต์แวร์อื่น ๆ ก็คงต้องมาติดตามกันในช่วงกลางปีและช่วงปลายปีที่จะมีการจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Apple แล้วที่สำคัญราคาของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นั้นจะมีราคาเท่าไหร่กันบ้างเพราะในแต่ละปีผลิตภัณฑ์ที่ออกโดย Apple และมีราคาสูงขึ้นทุกปีเลยทีเดียว แต่ก็มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก CNBC , iPhonemod

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บริษัท Tesla มีมูลค่าตลาดทะลุ 1 พันล้านเหรียญ

Tesla

บริษัท Tesla ได้มีมูลค่าของตลาดทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อย

แม้โลกของเรามีบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายที่สามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมากต่อปีโดยบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นก็มักจะมีมูลค่าของตลาดอยู่ในหลักล้านและก็มีบางบริษัทที่สามารถประสบความสำเร็จได้มากกว่านั้นคือสามารถมีมูลค่าตลาดเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Amazon และ Microsoft ซึ่งล่าสุดบริษัท Tesla ก็ได้เข้าไปอยู่ร่วมกับกลุ่มดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บริษัท Tesla ได้มีมูลค่าของตลาดทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม หลังจากที่ได้มีการรับข้อเสนอของบริษัท Hertz บริษัทรถเช่าของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัท Hertz ได้มีการขอซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจากน่าบริษัท Teslaจำนวน 100,000 คันให้ภายในปี 2022 ซึ่งหลังจากรับข้อเสนอนั้นก็ทำให้หุ้นของบริษัท Tesla มีราคาพุ่งขึ้นจากราคา 900 ดอลลาร์เป็นราคา 1045 ดอลลาร์ 

ซึ่งหลังจากที่บริษัท Tesla สามารถมีมูลค่าของตลาดทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ทาง CEO ของบริษัทอย่างอีลอนมัสก์ก็ออกมาทวิตแสดงความยินดีบน Twitter ส่วนตัวของเขาด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการรับข้อเสนอในครั้งนี้จะทำให้บริษัท Tesla ได้รับเงินเป็นจำนวน 4.2 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยข้อเสนอดังกล่าวได้มีมานานเกือบ 1 ปีแล้วหลังจากที่บริษัท Hertz กำลังหาทางป้องกันการล้มละลายหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ที่ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวซบเซาแล้วส่งผลกระทบต่อธุรกิจรถเช่า โดยรถยนต์ที่บริษัท Hertz จากบริษัท Tesla จะเริ่มขนส่งในอีก 14 เดือนข้างหน้าแล้วจะมีให้บริการในประเทศสหรัฐอเมริกาและบางส่วนในทวีปยุโรปในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2022

การที่บริษัท Tesla สามารถขายรถยนต์ได้เป็นจำนวนมากและมีผู้สั่งซื้อเป็นจำนวนมากเช่นนี้คงทำให้บริษัทเติบโตมากขึ้นซึ่งดูจากมูลค่าตลาดณปัจจุบันก็สามารถบ่งบอกได้แล้วว่าบริษัทนั้นเติบโตขึ้นไม่ได้มากแค่ไหนและในอนาคตถ้ามีการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาและได้รับผลตอบรับที่ดีก็จะทำให้บริษัทเติบโตมากขึ้นไปอีกและการที่บริษัทสามารถมีมูลค่ามากได้ถึงขนาดนี้ก็ส่งผลให้บริษัท Tesla สามารถมีอำนาจในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้นอย่างแน่นอนเลยทีเดียว และจะได้เปรียบในเรื่องของการแข่งขันทางด้านการตลาดอย่างแน่นอนแม้ว่าในตอนนี้บริษัทของจีนก็กำลังขึ้นมาเป็นคู่แข่งกับบริษัท Tesla แล้วก็ตาม

และในอนาคตบริษัทผลิตรถยนต์อีกหลาย ๆ บริษัทก็คงจะเริ่มหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่มีมากขึ้นในปัจจุบันนี้และจะเพิ่มความหลากหลายให้กับตลาดอีกแน่นอนเพราะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าบางยี่ห้อก็อาจจะมีราคาสูงไปจนผู้บริโภคไม่สามารถเอื้อมถึงการมีบริษัทและบริษัทออกมาผลิตก็จะช่วยเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น

ภาพจาก Pexels

ข้อมูลจาก CNBC

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บริษัท Square ของ Jack Dorsey มูลค่าเพิ่มขึ้น 2 เท่า

ack Dorsey

บริษัท Square ของ Jack Dorsey ประกอบธุรกิจทางด้าน Fintech

วันที่ 18 ตุลาคม 2564 ราคาของ Bitcoin กลับมาใกล้กลับราคาสูงสุดอีกครั้งหลังจากที่เคยทำจุดสูงสุดที่ราคา 2 ล้านกว่าบาทเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งการที่ราคาของ Bitcoin ผู้กำกับมาใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิมอีกครั้ง ซึ่งการที่ราคาของ Bitcoin สามารถขึ้นมาทำจุดสูงสุดได้ครั้งนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 5 เดือนเพียงเท่านั้นเรียกว่าเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูงมากเลยทีเดียว ทำให้บริษัทที่มีการซื้อ Bitcoin เป็นทุนสำรองมีมูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกันซึ่งหนึ่งในบริษัทที่มีการซื้อ Bitcoin เก็บไว้เป็นประจำก็คือบริษัท Square ของJack Dorsey

Jack Dorsey เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin มาโดยตลอดโดยตัวของเขานั้นมีการพูดถึง Bitcoin บน Twitter อยู่เป็นประจำและมีการซื้อ Bitcoin และใช้มันในบริษัทของเขาด้วยตัวอย่างเช่น Twitter ที่มีฟีเจอร์ Tipjar ฟีเจอร์ที่เอาไว้ใช้ส่งเงินสนับสนุนให้กับผู้ใช้งาน Twitter หรือเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช้งาน Twitter โดยสามารถส่งเงินสนับสนุนเป็นเหรียญ Bitcoin ได้ นอกจากนี้บริษัท Square ที่เป็นบริษัทของ Jack Dorsey ที่ประกอบธุรกิจทางด้าน Fintech ก็ซื้อ Bitcoin ไว้เป็นประจำ โดยบริษัทได้ลงทุนใน Bitcoin ไปเป็นจำนวน 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในตอนนี้ที่ราคาของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นจนเกือบถึงจุดสูงสุดเดิมทำให้มูลค่าของบริษัทนั้นที่ได้จากการซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้นเป็น 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งสูงกว่า 2 เท่าเสียอีกด้วยซ้ำ

โดยจากการรายงานจากหนังสือพิมพ์ Bitcoin Magazine บริษัท Square มีการถือเหรียญ Bitcoin เป็นจำนวน 8,027 โดยประมาณ โดยจากจำนวนเงิน 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้มีการซื้อ Bitcoin ที่ราคาประมาณ 27,407 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วบริษัท Square ได้มีการเข้าซื้อ Bitcoin ด้วยจำนวนเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลอดทั้งปี 2020 บริษัทได้มีการประกาศออกมาว่าได้มีการเข้าซื้อ Bitcoinไป ประมาณ 3,318 เหรียญ

นอกจากบริษัท Square แล้ว บริษัท Tesla ก็เป็นอีก 1 บริษัทที่ได้รับผลกำไรจากการขึ้นของ Bitcoin ในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกันหลังจากที่บริษัทได้มีการซื้อ Bitcoin ในช่วงของราคา 1.5 ล้านบาท และได้มีการประกาศขายออกไปบางส่วนแต่ก็ยังได้กำไรกลับมา และยังมีบริษัทอีกหลาย ๆ บริษัทที่ได้รับอานิสงส์จากการขึ้นของราคาในครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามการลงทุนในเงินดิจิตอลนั้นถือว่ามีความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนรายย่อยอย่างเราดังนั้นควรศึกษาเหรียญต่าง ๆ ก่อนที่จะเลือกเข้าไปลงทุน เพราะว่าบางเหรียญก็ไม่ได้มีราคาที่ขึ้นลงอย่างรวดเร็วและบางเหรียญก็ใช้เวลานานมากกว่าจะราคาขึ้น และที่สำคัญเป็นตลาดที่มีความผันผวนอย่างมากดังนั้นต้องศึกษาและมีความรู้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Gadgets.ndtv

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook