ภาษี และดอกเบี้ย เรื่องที่ทุกคนต้องรู้

ภาษี และดอกเบี้ย เรื่องที่ทุกคนต้องรู้

 ดิฉันเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องภาษีมาแล้ว ตั้งแต่เกิดจนตาย เชื่อว่าหลายคนไม่รู้ว่าภาษีนั้นอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน แต่ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร หรือไม่มีการนำเรื่องภาษีมาศึกษาและให้ความรู้ในสถาบันการศึกษา

ภาษีส่วนใหญ่ที่เราทุกคนเสียหลักๆก็จะมี  

Cr.pic:https://www.posttoday.com/

  • ภาษีบุคคลธรรมดา คนไทยทุกคนที่มีรายได้ตั้งแต่ 30000 บาทขึ้นไปจะต้องยื่นแสดงรายได้และจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับกรมสรรพากร
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเกิดขึ้นในทุกการบริโภคของเรา  มาจากที่เราซื้อสินค้าและบริการนั้น โดยที่ผู้ประกอบการนั้นจะเรียกเก็บจากผู้บริโภคซื้อสินค้าและบริการที่บวกลงไปในราคาของผลิตภัณฑ์ และจะนำภาษีนั้นส่งให้กับกรมสรรพากร ยกตัวอย่างง่ายๆคือ การเดินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ซื้อของสักชิ้นจะมีใบเสร็จแบบย่อ  ซึ่งในใบเสร็จนั้นจะมีการระบุ เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ไทยเสียคือ VAT 7% ภาษีที่ได้จะนำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในด้านต่างๆ

ดอกเบี้ย

 คือ เงินตอบแทนที่ได้เพิ่มขึ้นจากการออมหรือลงทุน เช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือการปล่อยเงินกู้

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ มักอยู่ในลักษณะร้อยละต่อเดือน หรือต่อปี เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผู้ให้กู้ เช่น ธนาคาร หรือบริษัทเรียบเก็บจากผู้กู้เพื่อเป็นผลตอบแทนจากการให้กู้

Cr.pic:https://www.posttoday.com/

  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ทางผู้ให้กู้กำหนดไว้ตายตัวและจะไม่มีการปรับอีกตลอดอายุการทำสัญญาหรือช่วงเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 5 ต่อปีมีระยะเวลาในการผ่อนชำระคืน 7 ปี
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัวที่เปลี่ยนแปลงไปตามต้นทุนของสถาบันการเงิน ซึ่งสถาบันการเงินประกาศออกมาเป็นคราว ๆ ไป เช่น อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ

 ที่เราเห็นกันบ่อยๆ ก็คือ MLR, MOR, MRRและMHR ซึ่งแยกได้ดังนี้

  • MLR (Minimum Loan Rate)

คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ซึ่งวัดได้จาก อาชีพ ฐานเงินเดือน รายรับ ประวัติการเคลื่อนไหวบัญชี และต้องมีประวัติการเงินที่ดี

  • MOR (Minimum Overdraft Rate)

 คืออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ซึ่งผู้กู้มาขอกู้เพื่อขยายกิจการ ผู้ให้กู้จะวัดจากประวัติการชำระหนี้ดี มีความสามารถในการชำระหนี้สูง

  • MRR (Minimum Retail Rate)

Cr.pic: https://money.kapook.com/

คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี ธนาคารจะปล่อยกู้ให้กับคนทั่วไปที่มีประวัติการชำระเงินดี แต่มีความเสี่ยงในการชำระเงินอยู่บ้าง เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่ออยู่อาศัย

  ยุคที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19  ระบาดไปทั่วโลก รัฐบาลได้มีการนำเอาภาษีมาใช้ในการจัดสรรงบต่างๆเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากจากการระบาดของโควิด 19 และจากผลสำรวจหนี้สินครัวเรื่อน ปรากฎว่าหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ธนาคารพานิชย์ต่างๆได้นำสินเชื่อต่างๆมาปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไป ทุกคนควรให้ความสำคัญกับเรื่องดอกเบี้ยและภาษี และไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บทเรียนสอนใจเกี่ยวกับการลงทุนในยุคCovid-19

บทเรียนสอนใจเกี่ยวกับการลงทุนในยุคCovid-19

       นักลงทุนทั้งรายย่อย รายใหญ่คงได้เผชิญกับวิกฤต Covid-19 ที่ส่งผลกระทบทุกภาคส่วนไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ  มีหลายธุรกิจและสตาร์ทอัพที่ทนไม่ไหวกับวิกฤตการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในครั้งนี้มายาวนาน จนทำให้หลายธุรกิจต้องปิดตัวลง แต่ก็มีบางธุรกิจที่เป็นธุรกิจดาวรุ่งในยุคนี้เลยก็ได้ วิกฤต Covid-19 ทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราในแบบฉบับ New normal รวมถึงนักลงทุนอย่างเราที่ต้องปรับพอร์ตบ่อย และคอยติดตามข่าวการลงทุนเนื่องจากความไม่แน่นอนของวิกฤตในครั้งนี้

Cr.pic; https://www.set.or.th/

1 เราควรเริ่มจากวางเป้าหมายตามหลัก Smart goal ทั้งเฉพาะเจาะจง วัดผลได้ สามารถทำได้จริง สมเหตุสมผล สามารถเป็นไปได้ แต่ยังคงท้าทายความสามารถตนเอง มีขอบเขตเวลากำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องทำสำเร็จเมื่อไหร่ การตั้งเป้าหมายแบบนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการตั้งเป้าหมายชีวิตได้ และเราควรเขียนเป้าหมายเอาไว้ลงในกระดาษหรือบันทึกไว้ในมือถือเพื่อให้เรามองเห็นมันทุกๆวัน และต้องเชื่อว่าเราทำได้ก่อน การมีเป้าหมายเปรียบเสมือนว่าเราได้เขียนแผนที่ไว้แล้ว ทำให้เราโฟกัสกับเป้าหมายได้ดีขึ้น และเราจะได้วางแผนแนวทางการลงทุนต่างๆ ให้ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ และต้องลงมือทำตามแผนอย่างสม่ำเสมอ

Cr.pic; https://kasikornbank.com/

2 การวางแผนลงทุนในพอร์ตเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องกระจายการลงทุนไปหลายๆ สินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน การกระจายการลงทุน เราต้องคำนึงถึงว่าเรารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน เราจะได้จัดสัดส่วนการลงทุนได้ถูกต้อง อย่างคนที่พึ่งเริ่มทำงานสามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่าคนที่อยู่ในวัยเกษียณ เพราะ ยังเต็มเปื่อมไปด้วยแรงกายแรงใจ มีเวลาในการทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัวอีกหลายปี ทำให้ลงทุนในหุ้น 50-70 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตได้แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน

Cr.pic; https://www.set.or.th/

 3 ยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีอะไรแน่นอน  เราต้องคอยติดตามข่าวการเงินการลงทุนอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้พลาดในการลงทุน และต้องปรับพอร์ตเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ และได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ที่สำคัญกว่าการลงทุน คือ เราควรมีเงินฉุกเฉินก้อนแรกเก็บไว้และควรมีประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงให้กับตัวเราเอง ไม่ลงทุนเกินตัว รู้จักแบ่งไม้ซื้อเพื่อจำกัดการขาดทุนและสร้างโอกาสทำกำไร แถมเรายังสบายใจมากขึ้นที่มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นด้วย

Cr.pic; https://www.krungsri.com/

4 ถึงเวลาถึงจุด stop loss เราต้องตัดใจขาย ต้องขายหุ้นทิ้ง เพื่อไม่ให้เราขาดทุนไปมากกว่านี้ เพราะราคาหุ้นอาจไหลไปเรื่อยๆ แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจส่วนบุคคล และความรู้ ประสบการ์ในการวิเคราะห์หุ้นของคุณ ว่าจะตัดสินใจซื้อหรือถือไว้แม้จะขาดทุนเพราะเหตุผลอะไร ต้องตัดสินใจขายเพราะเหตุผลอะไร

  นี่ป็นเพียงบทเรียนการลงทุนในยุควิกฤต Covid-19 ที่จะทำให้คุณนำไปเป็นแง่คิดในการลงทุน และประยุกต์ใช้กับการลงทุนแบบ New normal ในสไตล์ของคุณ และอย่าลืมติดตามผลตอบแทนการลงทุนของพอร์ตเราบ่อยขึ้น

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

7 วิธีสร้าง Passive income ฉบับง่ายๆทำได้ด้วยตัวเอง  

7 วิธีสร้าง Passive income ฉบับง่ายๆทำได้ด้วยตัวเอง  

ปัจจุบันเราต้องยอมรับว่าการที่เรามีรายรับในหลายๆทางย่อมดีกว่าการที่มีรายรับทางเดียวกันใช่ไหมล่ะ เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ในวันนี้เราจึงมี 7 วิธีสร้างรายได้แบบ Passive Income เก๋ๆมาแชร์เป็นแนวทาง ซึ่งบางเทคนิคก็ถือว่าเป็นทางที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงเยอะเลยแต่ก็สามารถสร้างรายรับให้กับคุณได้ ที่สำคัญใครจะรู้ว่าอนาคตคุณอาจหารายได้หลักมาจากทางเหล่านี้ก็ได้

1.Cryptocurrency

เรียกได้ว่าชั่วโมงนี้ไม่มีเหรียญไหนที่มาแรงเท่ากับ “Solona” อีกแล้ว จากข้อมูลต้นปีเหรียญนี้มีมูลค่า 1.4 ดอลล่าร์ และล่าสุดต้นเดือนกันยายนนี้พุ่งสูงถึง 140 กว่าดอลลาร์เลยทีเดียว เรียกว่าฉุดไม่อยู่จริงๆ ลองคิดดูว่าถ้าคุณซื้อ SOL เดือนสิงหาคมที่แล้วในราคา 30 กว่าดอลลาร์แล้วคุณขายไปในวันนี้ คุณจะได้กำไร 110 กว่าดอลลาร์เลยทีเดียว OMG! ไม่มีอะไรคุ้มกว่านี้แล้ว และอีกหนึ่งเหรียญที่น่าสนใจคือ “Bitcoin” ยิ่งอีลอน มัสก์เข้าวงการนี้มาราคาก็ถีบตัวขึ้นมาก ราคาขึ้น-ลงเร็วไม่ใช่แค่ 5 % หรือ 7 %แต่ขึ้นลงหลักสิบ 10% 20% 30 %ต่อวันและเราก็บอกไม่ได้ว่าคุณจะมีกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่  ถ้าใครยังไม่เคยลองแล้วสนใจสำหรับมือใหม่ต้องค่อยๆเรียนรู้เทคนิค ดูแนวโน้มให้ดี  เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง!

2.TikTok

ถือว่าสนอง Need คนรุ่นใหม่ได้ดี เพราะไม่ต้องใช้เวลาสร้าง Contents  นานก็มีจำนวนคนรับชมเยอะ ขอแค่คุณมีไอเดียเจ๋งๆก็ทำรายได้มหาศาล  อย่างช่อง @meturr (ยอดฟอล 1.6 ล้าน) ที่ทำ Contents คู่พ่อลูกออกมาแล้วเกิดกระแสโด่งดังทำให้รายการทีวีเชิญไปออกและมีสินค้าเข้ามาให้รีวิวมากมาย  จากคนธรรมดาก็กลายเป็นคนดังเพียงข้ามคืนได้ รายได้มาจากการรับรายการ รับรีวิวสินค้า ไลฟ์สตรีม สปอนเซอร์โฆษณา ส่วนเรทรายได้ของแต่ละช่องก็จะไม่เท่ากันเพราะขึ้นอยู่กับยอดฟอลและกระแส สำหรับใครที่อยากลองเล่นสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น TikTok จาก Apple Store หรือ Play Store ได้เลย

3.ขายภาพถ่ายออนไลน์

สำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ คุณรู้หรือเปล่าว่านอกจากคุณจะได้ทำในสิ่งที่เป็นความสุขแล้วยังสามารถทำรายได้ให้กับตัวเองได้ด้วย เพราะสมัยนี้มีเว็บต่างๆที่เปิดให้คุณนำภาพผลงานไปฝากขายได้เช่น

-Shutterstock ( https://www.shutterstock.com )

iStockphoto ( https://www.istockphoto.com/th )

Dreamstime ( https://www.dreamstime.com )

มีผู้ใช้งาน Shutterstock คนหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ที่เขาขายภาพได้ 45.75 US (1,372.5 บาท) โอ้พระเจ้า! และภาพนั้นคือภาพผนังสเเตนเลสในลิฟท์ ที่เขาบังเอิญถ่ายจากการขึ้นลิฟท์ไปเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลหรืออย่างภาพกระจกห้องน้ำที่มีไอน้ำเกาะอยู่ซึ่งเขาก็ใช้มือถือถ่ายได้โดยบังเอิญเช่นกันแต่นำส่งขายได้ถึง 60 US (1,800 บาท) เลยทีเดียวทำให้เราเห็นว่าความบังเอิญก็ทำรายได้มหาศาลให้เราได้!

4.เขียนบทความ

สำหรับใครที่เลิฟการเขียน คุณสามารถทำให้สิ่งที่คุณรักกลายเป็นตัวเงินได้ เพราะสมัยนี้มีเว็บไซต์ต่างๆที่มารองรับมากมาย เช่น

-TrueID In-trend (https://home.trueid.net/)

-Blockdit (https://www.blockdit.com/)

-ThaiSEOBoard (http://www.thaiseoboard.com/)

-Fastwork (https://fastwork.co/)

– Readme.me (https://th.readme.me/)

                อย่างใครที่เป็นมือใหม่หัดเขียนเราขอแนะนำ TrueID เลย ค่าตอบแทน 100 บาทต่อบทความ และเราจะได้รับเงินก็ต่อเมื่อบทความมียอดวิว 500 วิวขึ้นไป เรียกได้ว่าใครมีไอเดียเก๋ๆหรือประสบการณ์อะไรก็มาแชร์กันได้ ขยันมากก็ได้มาก!

5.YouTube Channel

                ใครที่มีทักษะการสื่อสารที่ดี มีเอกลักษณ์ มาลองทำ youtube กัน รายได้นั้นมาจากการขายโฆษณา ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็ทำได้ อย่างเด็กเล็กๆก็ยังมาสอนแต่งหน้า รีวิวของเล่น สร้างรายได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งถ้าช่องคุณมีไอเดียที่แตกต่าง แปลกใหม่อาจได้งานต่อยอดไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือจ้างไปทำรายการทีวีเลยก็ได้ อย่างช่องยูทูป pangpon js ที่เป็นคนธรรมดามาเริ่มต้นทำยูทูป Contents เกี่ยวกับความเป็นอยู่ ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัย เริ่มทำประมาณ 6 เดือนได้เงินก้อนแรก 130 กว่าดอล ตีเป็นเงินไทยประมาณ 4,000 บาทเลย คนธรรมดาอย่างเราก็ทำได้!

6.หนังสือเสียง Audiobook

                การสร้างรายได้ช่องทางนี้เรียกได้ว่าลงทุนแค่เสียง  เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาหรือผู้บกพร่องทางการอ่านได้รับรู้เนื้อหาจากหนังสือ คุณสามารถเสนอเสียงของตัวเองให้แก่สำนักพิมพ์ทำเป็นหนังสือเสียงเพื่อวางจำหน่ายได้ โดยผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ookbee , beeber , meb เป็นต้น และรายได้ก็จะแตกต่างกันออกไป อย่างตามการประกาศรับคนอ่านหนังสือเสียงตามเว็บไซต์ต่างๆส่วนใหญ่จะได้เงินต่อการอ่าน 1 เล่มประมาณ 1,500-2,000 บาท ว้าวเลยใช่ไหมล่ะ!

 7.ขายคอร์สเรียนออนไลน์

                ไม่ต้องจบครุศาสตร์ก็เป็นครูได้! ขอแค่คุณมีความถนัดไม่ว่าจะเป็น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส คณิตศาสตร์ หรือนอกเหนือจากนี้เช่น การแต่งหน้า การตัดผม การจัดดอกไม้ การทำขนมต่างๆ ลงทุนลงแรงเพียงครั้งเดียวแต่ได้ Passive income แบบระยะยาว เรียกได้ว่าคุ้มค่ามาก ! อย่างกัปตันไอซ์ Admission Reality 5 by dek-d สมัยแอดมิดชั่นเรียกได้ว่าดังมาก! ตอนนี้เธอเปิดโรงเรียนสอนภาษาออนไลน์ อย่างคอร์สปู grammar ราคา 1000 บาทเท่านั้น! รายได้จากการขายคอร์ส ออนไลน์ของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปแต่รับรองว่าได้เงินดีและยังแชร์ความรู้อีกด้วย

                ใครที่สนใจหรือมีความถนัดทางด้านไหนก็สามารถไปศึกษาเป็นแนวทางเพื่ออนาคตข้างหน้า หรือไปสร้างรายได้กันได้เลย และไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไหร่ก็สามารถทำได้ทั้งนั้น อายุไม่ใช่ปัญหาเลย รับรองว่าการมีรายรับสองทางอย่างไรแล้วก็ดีกว่าทางเดียวเสมอ

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

5 สิ่งที่ต้องทำในวัย 30+ ในการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ

5 สิ่งที่ต้องทำในวัย 30+ ในการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ

1.กระจายความเสี่ยงไปหลาย ๆ สินทรัพย์

เราไม่ควรทุ่มเงินที่เรามีไปลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่งเราควรกระจายไปหลาย ๆ ประเภทสินทรัพย์ กองทุนตราสารหนี้ ,กองทุนรวม,กองทุนร่วมหุ้น,หุ้น ขึ้นอยู่กับความชอบความถนัดและความรู้ด้านการลงทุนของแต่ละคนที่ต้องกระจายลงทุนไปหลาย ๆ ประเภท เนื่องจากในกรณีที่เกิดเหตุการณ์สินทรัพย์ใดผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คุณคิดไว้ เมื่อสถานการณ์การเมืองเศรษฐกิจ สถานการณ์โควิด-19 อาจไม่เอื้ออำนวย ทำให้พอตการลงทุนของคุณติดลบได้หรือแม้กระทั่งหายไปทั้งหมด ก็ยังทำให้เงินลงทุนของเราที่ยังอยู่ในสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ยังคงอยู่

Cr.pic: https://mgronline.com/

2.ออมก่อนจ่าย

ออมก่อนจ่าย สบายทั้งชาติ (ออม 1 ส่วนใช้ 3 ส่วน)

25% : เงินเก็บออม

75% : เงินใช้จ่ายจำเป็น + เงินใช้ยามฉุกเฉิน + เงินลงทุน

ตัวอย่าง:

– เงินเดือน 25,000บาท

– เก็บออมก่อน 2,500 บาท

– ใช้จ่ายประจำวัน 6,000 บาท

– ใช้จ่ายฉุกเฉิน 500 บาท

– ลงทุน 2,000 บาท

ซึ่งแล้วแต่การออมของแต่ละคนด้วย โดย ทำไมง่ายๆ เพียงแบ่งเงินเป็นส่วนๆ จะทำให้เราจัดสรรเงินเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งสำคัญในการออมเงิน จัดการเงินอีกอย่าง คือ คือการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย  การที่เรารู้ว่าในแต่ละวันนั้นเรา มีรายรับและค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ จะทำให้มีการจัดสรรการเงินส่วนบุคคลที่ดี ยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต์นี้โค่นผีโคตรมากขึ้น ถ้าเราใช้ก่อนออมก็ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงินได้ แล้วจะทำให้ แผนการที่จะเกษียณเร็วขึ้นช้าลงอีกด้วย

Cr.pic: https://happinesso.me/

3. มีแผนเกษียณเพื่อมีเงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ

เงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ = ภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือน x 12 เดือน x อายุขัยหลังเกษียณ x 2 เท่า

หากเก็บได้จำนวนหนึ่งลองศึกษาการลงทุนที่ปลอดภัย และให้ผลตอบแทนด้วยสัดส่วนที่เหมาะสมดู และอย่าลืมแบ่งเก็บจากการลงทุนบางส่วนไว้ฝากประจำ เพื่อสำรองเงินสดไว้ยามฉุกเฉินด้วยนะ

Cr.pic: https://www.scb.co.th/

4.มีประกันติดตัวไว้

ดิฉันขอยกตัวอย่าง เช่น

1.ประกันอุบัติเหตุ  ค่ารักษา 1 แสน เสียชีวิต 1 ล้าน 

2.ประกันโรคร้ายแรง เพราะมีโอกาสเป็นหรือไม่เป็นก็ได้

ทำได้หลายแบบค่ะขึ้นอยู่กับว่ามีเป้าหมายและปัญหาสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

Cr.pic: https://www.krungsri.com/

5.การอ่านหนังสือพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

ในช่วงวัย 30+การพัฒนาตนเองสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างความรู้ผ่านคอร์ส
ออนไลน์, ยูทูป ในการเพิ่มพูนความสามารถด้านอื่น ๆที่ตัวเองสนใจนอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ยังช่วยให้คุณปรับตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต

Cr.pic: www.crossingthefinishline.org/

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ความรู้ก่อนโอน สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ สำหรับการโอนรถโอนมอเตอร์ไซค์

ความรู้ก่อนโอน สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ สำหรับการโอนรถโอนมอเตอร์ไซค์

การโอนรถ และเรื่องราวเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของทางด้านยานพาหนะ มีอยู่หลายวิธีเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีโรคระบาด covid 19 การโอน และการทำเอกสารเกี่ยวกับราชการ พร้อมกรรมสิทธิ์เจ้าของรถยนต์อาจจะเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนนั้นยังทำความเข้าใจได้ยาก ซึ่งในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร จนหลายคนเริ่มจะสงสัยว่าจะต้องเตรียมอะไรกันบ้าง จะมาเรียบเรียงข้อมูลใหม่ทั้งหมดเพื่อความสะดวกของทุกคน ถ้าคุณคิดอยากจะโอนรถหรือโอนลอยในปัจจุบัน 

1.  เลือกวิธีการโอนที่เหมาะสมกับคุณในปัจจุบัน 

ปัจจุบันมีการโอนกรรมสิทธิ์เกี่ยวกับรถยนต์อยู่ 2 รูปแบบ ซึ่งคุณนั้นสามารถทำได้โดยทันทีไม่ว่าจะเป็น 

  • การโอนแบบตรง ๆ สำหรับผู้ที่ซื้อขายรถหรือผู้ที่ติดต่อทางด้านสัญญา ใช้วิธีการเดินทางไปพูดคุยที่ขนส่งโดยตรง สามารถทำให้การลงทะเบียน และการยื่นเอกสารง่ายมากยิ่งขึ้น 
  • การโอนลอย การโอนในลักษณะนี้เป็นการโอนที่ได้รับความนิยมมากสำหรับคนที่เปิดขายรถยนต์มือสอง หลายคนใช้วิธีนี้ เพราะว่าไม่สะดวก แต่วิธีการจะต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมมากพอสมควร โดยเฉพาะใบมอบอำนาจ เพียงแค่คุณมีสิ่งนี้ก็สามารถโอนถ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ของคุณได้โดยทันที ทางด้านขนส่งนั้นก็จะพิจารณาให้กับคุณได้โดยตรง 

2.  เอกสารที่ควรจัดเตรียม ไว้ใช้สำหรับการโอนรถโดยเฉพาะ 

  • คู่มือจดทะเบียนรถยนต์ ตัวจริง 
  • สำเนาบัตรประชาชน ถ้าหากมีการเปลี่ยนชื่อ ก็ขอแนะนำให้คุณเตรียมเอกสารในการเปลี่ยนชื่อรับรองแนบไปด้วย 
  • สัญญาซื้อขายหรือใบเสร็จใบกำกับภาษี 
  • ใบคำร้องยื่นโอน และผู้รับโอนลงชื่อให้เรียบร้อย 

เอกสารเหล่านี้ ขอแนะนำให้คุณนั้นจัดเตรียมให้พร้อม แต่ถ้าหากคุณใช้วิธีการมอบอำนาจหรือโอนลอยก็ต้องให้คุณเตรียมใบมอบอำนาจมาเพิ่มเติม และมีเสียค่าใช้บริการเพิ่มเติมนิดหน่อย ซึ่งบอกเลยว่าไม่มากอย่างแน่นอน 

3. ขั้นตอนการโอนที่ถูกต้อง และวิธีการดำเนินการของทางภาครัฐ 

ทางกรมขนส่งทางบกจะทำการสอบรถยนต์ของคุณว่ามีสภาพสมบูรณ์ดีหรือไม่ ก่อนที่จะโอนหลังจากนั้นก็ตรวจสอบข้อมูล และสถิติต่าง ๆ รวมไปถึงคุณต้องชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งสิ่งเหล่านี้คุณจะได้รับคืนพร้อมกันกับใบคู่มือ และการเปลี่ยนการเป็นเจ้าของ นอกจากนี้สิ่งที่คุณควรจะเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี คือคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ และใบเสร็จรวมไปถึงใบกำกับภาษี และข้อมูลแผ่นป้าย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะส่งมอบให้คุณโดยตรงหลังจากเสร็จขั้นตอนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว 

เห็นไหมว่าการโอนรถ และการจัดเตรียมเอกสารไม่ใช่เรื่องยากเหมือนในสมัยก่อนอีกต่อไป จริงอยู่ในปัจจุบันอาจจะโอนรถ และขึ้นทะเบียนทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามเราควรจะเผื่อเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ประมาณ 1 – 2 วัน เพื่อความสะดวก เพราะว่าในบางครั้งอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ เกี่ยวกับทางด้านการทำงานภายใน ซึ่งถ้าเกิดปัญหาเหล่านั้นคุณจะได้ไม่ต้องเดินทางบ่อยเดินทางไกล ซึ่งการเผื่อเวลาสำหรับการโอนรถในลักษณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว 


ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

รถยนต์ Daymak ขุด Crypto ได้

รถยนต์ Daymak ขุด Crypto ได้!

เทคโนโลยีในโลกของเราเริ่มก้าวล้ำจนเราไม่สามารถจินตนาการได้แล้ว หลังจากในปีนี้โลกของการเงินได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงโดยการที่กระแสของเงินดิจิตอลหรือว่า Cryptocurrency เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อโลกของการเงินมากขึ้น และก็ได้ถูกพูดถึงมาตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาด้วยราคาที่สูงขึ้นทำให้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น และก็ทำให้คนหันมาทำกำไรกับตลาดเงินดิจิตอลมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกันซึ่งนอกจากการซื้อขายแล้วก็สามารถทำการขุดเพื่อที่จะเงินดิจิตอลสกุลต่าง ๆ มา

ภาพจาก Canva

สำหรับการขุดนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้การ์ดจอที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในการเร่งหรือการเพิ่มปริมาณการขุด ซึ่งในตอนนี้ก็กำลังเป็นเทรนที่หลายคนนั้นกำลังทำกัน โดยคนที่มีเงินจำนวนมากก็จะใช้การ์ดจอจำนวนมากในการขุด ซึ่งการที่คนจำนวนมากหันมาใช้วิธีการขุดเงินดิจิตอลมากขึ้นนั้นทำให้อุปกรณ์อย่างการ์ดจอขาดตลาดและมีราคาที่สูงขึ้น นอกจากจะมีการ์ดจอจะมีราคาสูงขึ้นการขุดเงินที่เท่านั้นยังถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งมันก็ทำให้วงการเงินดิจิตอลนั้นถูกมองในแง่ร้ายมากขึ้น แต่ในอนาคตเรามีทางเลือกมากขึ้นในการขุดเงินดิจิตอล โดยในอนาคตจะมีรถยนต์ที่สามารถกดเงินดิจิตอลได้แล้ว

ภาพจาก Daymak

รถยนต์ไฟฟ้า “Spiritus” เป็นรถยนต์ที่จะถูกผลิตออกมาในปี 2023 โดยบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสัญชาติแคนาดาที่มีชื่อว่า “Daymak” ซึ่งความพิเศษของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ก็คือสามารถขุด Bitcoin รวมถึงเงินดิจิตอลสกุลอื่น ๆ ได้ ในขณะที่รถกำลังใช้ไฟฟ้าและจอดอยู่ ที่สำคัญทางบริษัทยังยืนยันอีกว่ารถยนต์คันนี้จะใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาความสิ้นเปลืองพลังงานของการขุดเงินดิจิตอลเลยทีเดียว ที่สำคัญเลยก็คือ Spiritus สามารถสั่งจองได้แล้ว และสามารถชำระเงินด้วย Cryptocurrency ได้ โดยเหรียญที่รับชำระมีดังนี้ Dogecoin, Bitcoin, Ethereum และ Cardano

ภาพจาก Daymak

รถยนต์ไฟฟ้า Spiritus จะมีทั้งหมด 2 รุ่นได้แก่รุ่น Deluxe และรุ่น Ultimate ซึ่งจะมีราคาที่แตกต่างกัน เริ่มจากรุ่น Deluxe จะมีราคาโดยประมาณอยู่ที่ 622,644 บาท  (19,995 USD) และรุ่น Ultimate มีราคาโดยประมาณอยู่ที่ 4,639,860 บาท (149,000 USD) ซึ่งประสิทธิภาพและศักยภาพของรถยนต์ก็จะมีความแตกต่างกันตามรุ่นและราคาที่ได้ประกาศออกมา

ข้อมูลจาก Siamblockchain

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

‘Loan2Car’สินเชื่อรถติดแบล็คลิสก็จัดการได้!!

'Loan2Car'สินเชื่อรถติดแบล็คลิสก็จัดการได้!!

Loan2Carเป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์มือสองแบบครบวงจร โดยทางบริษัทจะมีเจ้าหน้าที่ ธนาคารบริการถึงที่ ซึ่งลูกค้าสามารถโทรนัดวัน เวลา และสถานที่ได้ทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์-อาทิตย์และที่สำคัญสำหรับลูกค้าท่านใดที่เคยมีประวัติเสียมาก่อนสามารถโทรมาปรึกษาได้เลย ทางบริษัทมีพนักงานพร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง โดยบริษัทLoan2Carเป็นสินเชื่อรถยนต์แบบลดต้นลดดอก หากลูกค้าชำระเงินต้นเยอะดอกเบี้ยจะลดลงและอนุมัติทันทีสำหรับลูกค้าที่มีอาชีพที่สามารถตรวจสอบได้ อนุมัติรถเก่าสูงสุด15ปี ผ่อนนานสูงสุด72งวด วงเงินสูงสุด100%ของราคาประเมิน หากปิดบัญชีก่อนกำหนด ลดอัตราดอกเบี้ยให้ถึง50% โดยทางบริษัทมีบริการจัดไฟแนนซ์ รีไฟแนนซ์ ย้ายไฟแนนซ์ เปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อ รถติดไฟแนนซ์ บริการเปลี่ยนบัญชีไฟแนนซ์ ในส่วนของดอกเบี้ยนั้นต่ำสุด0.28%ต่อเดือนหรืออัตราดอกเบี้ยสูงสุด3.43%ต่อปีและเริ่มผ่อนชำระค่างวดหลังจาก 60วันในการกู้ 

Loan2Carเป็นบริษัทที่ได้จัดตั้งขึ้นในลักษณะของการเป็นตัวแทนของธนาคารในการหาลูกค้าหรือเพื่อเป็นช่องทางในการให้อนุมัติสินเชื่อรถยนต์มือสองให้แก่บุคคลที่มีรถ แต่ประสบปัญหาทางการเงิน รถยนต์ช่วยได้ โดยในปัจจุบันทางบริษัทloan2car ได้เป็นตัวแทนให้กับธนาคารอยู่3แห่งดังนี้

ทิสโก้ ออโต้ แคช

ทิสโก้ ออโต้ แคชสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ จะอนุมัติ วงเงินสำหรับรถยนต์และรถกระบะ 80% สำหรับรถบรรทุกนั้นจะอนุมัติวงเงินอยู่ที่75% ใช้ระยะเวลาในการเช่าซื้อสูงสุด72งวด

คาร์ ฟอร์ แคช

คาร์ ฟอร์ แคชสินเชื่อเพื่อคนมีรถ เป็นอีกหนึ่งสินเชื่อดีๆจากธนาคารกรุงศรี ซึ่งจะให้วงเงินสูงสุดถึง100%จากการประเมินราคาของทางธนาคาร และ สามารถรู้ผลรวดเร็วทันใจเพียง1วันหลังจากที่เอกสารครบถ้วน และได้รับเงินรวดเร็วทันใจเพียง1วันหลังจากที่ได้ทำการโอนย้ายทะเบียนเรียบร้อยแล้ว โดยสินเชื่อคาร์ ฟอร์ แคชนี้จะมีข้อดีตรงที่ไม่ใช้คนค้ำประกันอีกทั้งยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดอีกด้วย

ลีสซิ่ง ไอซีบีซี

ลีสซิ่ง ไอซีบีซี สินเชื่อรถแลกเงินที่จะอนุมัติวงเงินกู้สูงสุด90%ของราคาประเมินรถ ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน

กรุงไทย ออโต้ ลีส

กรุงไทย ออโต้ ลีส สินเชื่อรถแลกเงิน ไม่เช็คแบล็กลิส รุ้ผลภายในหนึ่งวันหลังจากที่ส่งเอกสารครบถ้วน และรับเงินภายในหนึ่งวันหลังจากทำการโอนย้ายทะเบียนเรียบร้อยแล้ว

เงินติดล้อ

เงินติดล้อเป็นสินเชื่อที่สามารถรับเงินสดทันใจได้เลยที่สาขา ไม่ต้องเสียเวลาไปขนส่งเองให้เมื่อย ไม่ต้องใช้คนค้ำผ่อนได้นานสูงสุด 60 งวด

SCB Leasing

SCB Leasingเป็นสินเชื่อจากธนาคารไทยพาณิชย์ที่จะอนุมัติวงเงินให้90%หลังจากที่ได้ประเมินราคารถยนต์เรียบร้อยแล้ว และยังสามารถโอนสิทธิเช่าซื้อให้บุคคลอื่นได้อีกด้วย

โดยส่วนใหญ่แล้วในการจะยื่นขออนุมัติสินเชื่อรถยนต์นั้นจะมีสาเหตุที่ไม่ผ่านการอนุมัติคือเคยติดเครดิตบูโรในเรื่องของการออกรถแล้วขาดส่งหรือไม่ได้ผ่อนชำระเลยเป็นเวลานาน ถูกศาลฟ้องร้องในเรื่องของการซื้อบ้านซื้อรถหรือมีประวัติผ่อนชำระรถยนต์อยู่แล้วมากกว่า1คัน สำหรับท่านใดที่สนใจจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของสินเชื่อรถจากทางบริษัทสามารถเข้ามาดูได้ที่เว็บไซต์ www.loan2car.com แอดไลน์: loan2car หรือhot line:086-414-6225 โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

การซื้อบ้านกับอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในช่วงปลายปี

การซื้อบ้านกับอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในช่วงปลายปี

ธนาคารเตรียมปรับสินเชื่อบ้านยกเลิกแคมเปญ “ดอกเบี้ยคงที่” ทำให้ลูกค้าที่ซื้อบ้านในช่วงปลายปีนี้ ต้องจ่ายดอกเบี้ยกู้สูงขึ้น ธนาคารต่างๆเตรียมปล่อยดอกเบี้ย “ลอยตัว” ชี้กรณีขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ลูกค้ามีภาระผ่อนต่อเดือนสูงขึ้น 4-5% แต่ ธอส.-ออมสิน ยังคงตรึงดอกเบี้ยนานที่สุดเพื่อช่วยประชาชนให้นานที่สุด

Cr.pic:https://www.dailynews.co.th/

สำหรับลูกค้าเดิมที่ทำการผ่อนกับธนาคารอยู่จะมีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทันที แต่จะไม่ได้รับผลกระทบในการผ่อนต่องวดแต่ว่าลูกหนี้ต้องผ่อนนานขึ้น โดยน่าจะมีการปรับหลังธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาชี้แจงการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกมา ประชาชนที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และภาระค่างวดจะสูงขึ้น เนื่องจากการปรับขึ้นของค่าครองชีพ และค่าเงินเฟ้อ ขณะที่สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกัน ดอกเบี้ยมีอัตราที่สูงขึ้น จะปรับดอกเบี้ยมาเป็นแบบลอยตัวมากขึ้น

Cr.pic: https://www.tisco.co.th/th/

ถ้าดอกเบี้ยขึ้นสูงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ จะส่งกระทบกำลังซื้อบ้าน ส่วนนโยบายการปล่อยสินเชื่อยังคงยึดเกณฑ์ความสามารถการชำระหนี้และรายได้

1. อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว

 หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนด ณ ปัจจุบันตามประกาศของสถาบันการเงิน ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้นหรือลงได้ตามสถานการณ์ในปัจจุบัน หรือต้นทุนทางการเงินของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ซึ่งในการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยขึ้น-ลงแต่ละครั้ง จะส่งผลกระทบต่อเงินงวดที่ชำระในแต่ละเดือนของผู้กู้ โดยเฉพาะหากอัตราดอกเบี้ยบ้านปรับตัวสูงขึ้นในภายหลัง เงินงวดที่ชำระรายเดือนเดิมอาจต้องมีการปรับสูงขึ้นได้

Cr.pic:https://decor.mthai.com/

2. อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ แบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ ได้แก่

-อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้ หมายถึง การกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ หรือตายตัวตามประกาศของสถาบันการเงินที่กู้ซื้อบ้าน โดยไม่มีการปรับขึ้นเลยไม่ว่าสถานการณ์เป็นยังไง  ผู้กู้ก็ยังจ่ายเท่าเดิมที่ธนาคารกำหนด

-อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นในช่วงแรกหลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ยบ้านแบบคงที่ระยะสั้นภายในหนึ่งถึงสองปีและจะปรับเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว

Cr.pic:https://decor.mthai.com/

2.3 อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันไดในช่วงแรกหลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึง การกำหนดอัตราดอกเบี้ยบ้านแบบคงที่ระยะสั้น 1-5 ปี แต่ในระหว่างนี้อาจกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดของธนาคารที่คุณไปกู้

การพิจารณาในการเลือกใช้อัตราดอกเบี้ย

1.อัตราดอกเบี้ยในแต่ละสถาบันการเงินซึ่งจะมีความแตกต่างกัน

2.การพิจารณาถึงความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยย้อนหลัง โดยควรเลือกประเภทที่มีความผันผวนน้อย เนื่องจากผู้กู้จะสามารถบริหารจัดการหนี้ได้ง่ายกว่า และทางธนาคารจะทำการคำนวณที่ต้องจ่ายต่อเดือนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นเอง

3.ให้พิจารณาเรื่องความมั่นคงของสถาบันการเงินนั้นๆ

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

อยากเป็นเซียนด้านลงทุนคริปโตฯ ต้องรู้อะไรบ้าง

อยากเป็นเซียนด้านลงทุนคริปโตฯ ต้องรู้อะไรบ้าง

   ก่อนจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการลงทุน คุณต้องเข้าใจก่อนว่าคริปโตมีที่มาอย่างไร จะได้เข้าใจการเทรดคริปโต คริปโต เป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงจึงเป็นสาเหตุทำให้เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ วันนี้เราจึงพาทุกคนไปรู้จักกับประเภทของเหรียญคริปโตฯ

     ความแตกต่างระหว่างคริปโตฯ Coin และ Token

Coin  เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่นำมาเป็นสื่อกลางในการเปลี่ยนสินค้าและบริการโดยไม่มีผู้ใดมากำหนดเงื่อนไข โดยไม่มีตัวกลางในการทำธุรกรรม และมีเครือข่ายบล็อกเชนเป็นของตัวเอง

Token เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างเครือข่ายบล็อกเชนผ่านSmart Contract จึงไม่จำเป็นต้องมีเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเอง สามารถนำมาใช้จ่ายในกิจวัตรประจำวันทั่วไปได้เช่นกัน แต่จะใช้จ่ายได้ในเงื่อนไขที่ผู้สร้างTokenนั้นกำหนดมา

คริปโตฯ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

Cr.pic; https://www.prachachat.net/

1. คริปโตฯ แบบรักษามูลค่า เป็นเหรียญที่มีจำนวนจำกัด นับวานนานเข้ายิ่งเพิ่มมูลค่ามากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญที่นิยมเทรด และเป็นเหรียญที่เป็นที่ยอมรับในสังคม เช่น เหรียญบิทคอยน์

2. คริปโตฯ แบบSmart Contract เป็นสัญญาที่จัดเก็บเงื่อนไขไว้บนระบบบล็อกเชน ซึ่งการที่ใครทำตามเงื่อนไขในสัญญา เหรียญจะทำตามที่ได้ระบุในสัญญาเช่นกัน เหรียญที่ว่า เช่น Polkadot หรือ DOT,ADA

Cr.pic; https://crypto.busforex.com/

3. คริปโตฯ แบบระบบการเงินที่ไม่มีศูนย์กลาง(DeFi) เป็นระบบที่ใช้ Smart Contract มารองรับ ไร้ตัวกลางในการทำธุรกรรม ซึ่งแต่ละเหรียญมีหน้าที่ จุดประสงค์ในการใช้และประโยชน์ต่างกัน อย่างเหรียญที่นิยมทำDefi เช่น

Uniswap (UNI)

4.คริปโตฯ แบบส่งต่อมูลค่าผ่านอินเตอร์เน็ต จัดเป็นเหรียญที่มีค่าธรรมเนียมถูก เช่น เราต้องการแลกสกุลเงินเมื่อต้องย้ายไปต่างประเทศ หรือโอนเงินให้กับคนที่อยู่ต่างประเทศ  เราสามารถโอนด้วยเหรียญXRP, XLMเพื่อลดค่าธรรมเนียมและรวดเร็วกว่าการการโอนเงินธรรมดา

Cr.pic; https://www.supercryptonews.com/

5. คริปโตฯ ประเภทโปรแกรมจัดการข้อมูล ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างข้อมูลภายใน-ภายนอกเพื่อจัดการข้อมูลในระบบ จะได้นำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น เช่น เหรียญBAND ,เหรียญLINK

6. คริปโตฯ แบบ Stablecoin

จะเป็นเหรียญที่มีมูลค่าเท่ากับสกุลเงินหลัก จึงนิยมนำไปชำระเงิน มากกว่านำไปเทรด ถ้าอยากได้เหรียญstablecoin เราต้องนำเงินสดไปแลก แล้วเหรียญนี้ก็สามารถนำไปซื้อสกุลเงินดิจิทัลที่นิยมเทรดอย่างบิทคอยส์ เช่น USDT, DAI

Cr.pic; https://cryptosiam.com/

7. เหรียญมีม

 เป็นเหรียญที่ทำเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หรือเป็นเหรียญที่สร้างกำลังใจ ไม่ได้นำไปใช้ทำประโยชน์อะไร ไม่ได้มีโปรเจคอะไร แต่ก็มีคนนิยมเทรดในช่วงสั้นๆ บางเหรียญอาจมีมูลค่ามากพอๆกับstablecoin เช่น เหรียญDog

        ก่อนที่เราจะเริ่มเทรดคริปโตฯ เราต้องรู้ประเภทเหรียญของคริปโตฯก่อน เพื่อที่เราจะได้เลือกลงทุนถูกว่าเหรียญนั้นมีความเสี่ยงและมูลค่ามากแค่ไหน เรายอมรับความเสี่ยงได้ไหม เหรียญประเภทไหน นำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับมือใหม่ที่ลงทุนในคริปโตฯนะคะ

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

FTX ล่ม! โดมิโน่ตัวสำคัญของวงการคริปโต

FTX ล่ม! โดมิโน่ตัวสำคัญของวงการคริปโต

ฤดูหนาวของวงการคิดโตยังคงไม่จบสิ้นหลังจากที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้เกิดข่าวใหญ่ขึ้นมานั่นก็คือการล่มสลายของศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตอันดับ 2 ของโลกอย่าง FTX ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนไม่น้อยเลย

ภาพ Pixabay

เหตุการณ์การล่มสลายครั้งนี้เริ่มต้นจากการFTX ได้มีเสกเหรียญ FTT ขึ้นมา และให้ Alamanda Research บริษัทลูกของตนเองถือไว้ ซึ่งมูลค่าของทรัพย์สินที่เป็น 80% ของทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินไป แถมหนี้สินของบริษัทก็ยังไม่ได้มีการระบุที่มาที่ไปที่ชัดเจน มันทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนทั่วโลก หลังจากนั้นไม่นาน CZ เจ้าของ Binance ที่เป็นศูนย์ซื้อขายอันดับ 1 ของโลกนั้นได้ทำการทวิตว่าจะมีการขายเหรียญ FTT เพราะกลัวซ้ำรอย Celsius ที่ล้มละลายไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่ได้มีการทวิตไปได้ไม่นานความกังวลก็เริ่มเกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่พากันแห่ขายเหรียญ FTT จนมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง แล้วหลังจากนั้นไม่นานนักลงทุนก็เริ่มมีการถอนเงินออกจาก FTX จนกระทั่งทางศูนย์ซื้อขายได้มีการระงับการถอนเงินเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ภาพ Pixabay

เมื่อ FTX เริ่มไม่มั่นคง ก็เริ่มมีการเจรจากับ Binance เพื่อทำการเข้าซื้อกิจการ แต่แล้วดีลก็ถูกปฏิเสธไปเนื่องจาก ฺBinance ได้ค้นพบว่า FTX มีการใช้เงินในบริษัทที่ผิดปกติ โดยมีการนำเงินของลูกค้าที่นำไปลงทุนโอนไปให้กับบริษัทลูกของตัวเอง และด้วยเหตุนี้ทำให้ FTX จำเป็นที่จะต้องยื่นล้มละลายในที่สุด

ผลกระทบของ FTX

แน่นอนว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือผู้ที่นำเงินไปฝากเพื่อใช้ในการลงทุนใน FTX นอกจากนี้มันยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในวงการคริปโตอีกด้วย ทำให้คนเชื่อมั่นใน CEX (Centralized Excahange) น้อยลง รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อรายใหญ่ที่นำเงินไปฝากไว้ในFTX เช่นเดียวกันตัวอย่างเช่น BlockFi, Genesis, Crypto.com, Gate.io ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้อาจจะมีการยื่นล้มละลายหลังจาก FTX ซึ่งในปัจจุบันนี้บางส่วนก็ระงับการถอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพ Pixabay

สำหรับทีมกีฬาและทีมอีสปอร์ตที่ FTX เข้าไปเป็นสปอนเซอร์ก็พากันถอนป้าย FTX ออก ตัวอย่างเช่น TSM ทีมการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตยักษ์ใหญ่ในประเทศอเมริกา ก็ได้มีการประกาศการยกเลิกการเป็นสปอนเซอร์กับFTX ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือแม้แต่ทีม Miami Heat ทีมบาสเกตบอลในลีก NBA ก็คงจะเปลี่ยนชื่อสนามเหย้าของตัวเองกลับไปเป็นชื่อเดิม โดยในปัจจุบันใช้ชื่อสนามว่า FTX Arena

และสำหรับใครที่อยู่ในวงการคริปโตเคอเรนซี่ หรือว่าอยากเข้ามาลงทุนในช่วงเวลานี้ก็ควรที่จะติดตามข่าวของศูนย์ซื้อขายต่าง ๆ ที่เรานำเงินไปลงทุนอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะให้ไหวตัวทันและถอนเงินออกมาได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหาย แล้วที่สำคัญถ้าหากว่าต้องการเก็บเหรียญคริปโตในระยะยาวก็ควรที่จะศึกษาเรื่อง Hardware wallet ให้ดี

ข้อมูลจาก The Standard