คิดให้ดี ระวังเป็นหนี้ เพราะผ่อน 0%
เมื่อใดก็ตามที่คุณเห็นโฆษณาที่เป็นโปรโมชั่นยอดฮิต ผ่อน 0 % อาทิ ผ่อนจ่ายนาน 10 เดือน ดอกเบี้ย 0 % ที่มันทำให้คุณจ่ายได้ง่ายขึ้น เราจะมาวิเคราะห์ ข้อดีและข้อเสียของมันว่ามันเป็นอย่างไรกันแน่

ก่อนอื่นเรามาเริ่มกันที่เรื่องนี้ก่อน ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาแถลง เมื่อปี 2019 ว่า อาจจะทีการยกเลิกการผ่อน 0 % เพราะคนใช้กันเยอะมากจนเป็นหนี้ท่วม แต่ขณะนั้นยังไม่มีหารบังคับใช้ ซึ่งถ้ามาดูหนี้ครัวเรือนของประเทศเรา ในปี 2019 สูงถึง 87.7 % เมื่อเทียบกับ GDP ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย และในอันดับโลกเราก็เป็นอันดับที่ 11 ของโลก เราเป็นผู้นำทางด้านหนี้สินเลยทีเดียว
หลายคนสงสัยว่าหนี้ครัวเรือนคืออะไร มันก็คือหนี้ที่คนไปเอาจากธนาคารมาเพื่อจับจ่ายใช้สอย ไปซื้อบ้าน ซื้อของใช้ รวมไปถึงการทำธุรกิจ ทั้งหมดรวมเรียกว่าหนี้ครัวเรือน และนี่คือที่ธนาคารต่างๆและธนาคารแห่งประเทศไทยเก็บข้อมูลได้เท่านั้น แปลว่ามันไม่ได้รวมหนีนอกระบบ นั่นคือหนี้ของประเทศไทยมันเยอะกว่านี้
คราวนี้เรามาพูดถึง หนี้ 0 % กันบ้าง ซึ่งจะเห็นโปรโมชั่น 0 % เยอะมากในการจับจ่ายใช้สอยรอบตัว ตั้งแต่ซื้อมือถือผ่อน 0 % ไปถึงการคลอดลูกยังมีผ่อน 0 % 10 เดือนเลย

มาดูกันว่า ใครบ้างได้ประโยชน์จากการผ่อน 0 %
1.ลูกค้า ลูกค้าเจอมือถือราคา 30,000 บาทผ่อน 0 % นาน 10 เดือน ไม่ต้องจ่ายทีเดียว 30,000 บาท จ่ายแค่เดือนละ 3,000 บาทก็ใช้เงินคล่องขึ้นมันทำให้เราเอาเงินที่เหลือไปหมุนทำอย่างอื่นได้ แต่ที่สำคัญมันทำให้ คุณซื้อของแพงได้ง่ายขึ้น นั่นคือประโยชน์ของลูกค้า แต่ลืมไปว่ายังมีหนี้ที่ต้องใช้อีก 10 เดือน

2.ร้านค้า การมีโปรโมชั่น 0 % ทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทำให้ขายได้เร็วขึ้นมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าของแพงจะขายไม่ได้ ต่อให้สินค้าราคา 1 แสน ก็เหลือจ่ายเดือนละหมื่น เพราะถ้าจ่ายแสนก้อนเดียวก็อาจจะไม่ไหว ดังนั้นตรงนี้ร้านค้าได้ประโยชน์เต็มๆ มันก็เลยทำให้ขายได้เยอะขึ้น นอกจากนั้นได้ความสบายใจที่ไม่ต้องคอยเช็คเครดิตลูกค้า หรือกลัวลูกค้าจะเบี้ยว เพราะมีบุคคลที่ 3 มาช่วยการันตีให้แล้วคือธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต
3.ธนาคาร เมื่อมีโปรโมชั่น 0 % ใครก็อยากใช้ ทำให้คุณมีความผูกพันกับบัตรเครดิตของธนาคารมากขึ้น ใช้บัตรบ่อยขึ้น ทางธนาคารก็ได้เงินจากคุณมากขึ้น บางครั้งอาจมี 2-3 % ที่จะถูกผลักภาระไปให้ผู้บริโภค คือคนที่รูดบัตรเป็นคนจ่ายเอง หรือบางครั้งร้านค้าก็จะเป็นคนแบกภาระนั้นเอง ซึ่งถ้าคุณเคยใช้บัตรเครดิต คุณก็คงเคยได้ยินจากเจ้าของร้านว่า ถ้าใช้บัตรใบนี้ต้องชาร์ตเพิ่ม 3 % นะ และบางร้านก็ไม่อยากจะรับบัตรเครดิต เพราะเค้าไม่ต้องแบกรับภาระตรงนี้เอง และสิ่งที่ธนาคารจะได้เพิ่มขึ้นก็ตรงที่ เมื่อลูกค้ารูดซื้อสินค้าแล้ว แต่ลูกค้าไม่สามารถชำระให้ธนาคารเจ้าของบัตรไม่ทัน ธนาคารก็จะคิดดอกเบี้ยได้ในอัตราที่สูงถึง 18 % ต่อปี ซึ่งถ้าคุณลงทุนแล้วได้กำไร 18 % ต่อปีคือยอดเยี่ยมที่สุด แต่ถ้าคุณต้องเป็นผู้จ่าย 18 % ต่อปี มันตรงกันข้ามคือเป็นสิ่งที่ ยอดแย่ เพราะมันจะทบต้นทบดอก และการที่ธนาคาร ส่งข้อความไปเตือนทวงหนี ส่งจดหมายไปเตือนทวงหนี้ และโทรไปเตือน ทวงหนี้ ค่าใช้จ่ายในการเตือนทั้งหมด คุณเป็นผู้จ่ายทั้งสิ้น ซึ่งตรงนี้ธนาคารเรียกว่า ค่าธรรมเนียมในการทวงถาม
ที่กล่าวมาทั้งหมดคือผู้เส้นทางของผุ้ที่ได้รับผลประโยชน์และเสียประโยชน์จากการผ่อน 0 % ทั้ง 3 ฝ่าย รู้เช่นนี้แล้วก็ต้องระมัดระวังจากการผ่อนชำระ 0 % ให้มากขึ้น เพราะถ้าผ่อนจ่าย 0 % หลายๆรายการจนเพลิน รายรับที่ได้อาจจะไม่พอ ทำให้เกิดหนี้สินสะสม จากการผ่อน 0 % ในที่สุดก็คุณจะไปต่อไม่ไหว
ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook