เงินดิจิตอลหรือคริปโตเคอเรนซี่กลายเป็นจุดสนใจของคนจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก
เงินดิจิตอลหรือคริปโตเคอเรนซี่กลายเป็นจุดสนใจของคนจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกในด้านของการลงทุน เก็งกำไร เล่นเกม และในด้านอื่น ๆ ซึ่งตลอดช่วงปีที่ผ่านมาก็สร้างผลกำไรตอบแทนได้ไม่น้อยเลยทีเดียวด้วยลักษณะเด่นของคริปโตเคอเรนซี่ที่ไร้ศูนย์กลาง อยู่นอกเหนืออำนาจของรัฐบาลทุก ๆ ประเทศทำให้การถือครองสกุลเงินดังกล่าวนั้นจะเป็นของคนที่ถือครองอย่างแท้จริงและไม่มีใครสามารถมายึดได้ด้วยเหตุนี้ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มหันมาสนใจในตัวเงินดิจิตอลมากขึ้น

ในขณะที่รายย่อยเริ่มเข้ามาสนใจบริษัทใหญ่ ๆ ก็เริ่มสนใจด้วยเช่นเดียวกันแต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ารัฐบาลของหลาย ๆ ประเทศกำลังหาทางควบคุมและดูแลในเรื่องนี้อยู่ ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเราได้เห็นประกาศจากทางประเทศจีนว่าประเทศจีนจะมีการแบนเงินดิจิตอลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการลงทุนการแลกเปลี่ยนซื้อขายรวมไปถึงการทำอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin ทำให้ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจดังกล่าวเดินทางออกจากประเทศจีนและหาพื้นที่ใหม่ในการประกอบธุรกิจต่อไป ตัวล่าสุดประเทศอินเดียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่จะมีการวางแผนที่จะระงับการใช้งานคริปโตเคอเรนซี่

โดยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาทางรัฐบาลของประเทศอินเดียได้ออกร่างกฎหมายแบนคริปโต โดยจะเหลือไว้แค่เพียงสกุลเงินบางตัวที่สามารถมีประโยชน์ทั้งในด้านเทคโนโลยีและในด้านการใช้งาน และมีแผนการที่จะเริ่มต้นวางรากฐาน CBDC ของประเทศเอง (CBDC คือสกุลเงินดิจิตอลที่อ้างอิงกับเงินสกุลหลักภายในประเทศ ตัวอย่างเช่นหยวนดิจิตอล) ซึ่งการมี CBDC จะช่วยให้รัฐบาลสามารถควบคุมการเงินได้นั่นเอง ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำการระงับการใช้งานคริปโตเคอเรนซี่นั้นก็เพราะว่ามันเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน CBDC นั่นเอง

หลังจากการประกาศครั้งนี้ออกมาก็ทำให้ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศอินเดียปั่นป่วนเลยทีเดียว คนจำนวนมากมายแห่ขายเหรียญที่ตัวเองถือไว้จนมีราคาลดลงอย่างรวดเร็ว โดยราคาของ Bitcoin ลดลงมากกว่า 14 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงสกุลเงินอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งทางประธานของตลาดซื้อขายคริปโตของประเทศอินเดียอย่าง WazirX ก็ได้ออกมาบอกว่าการเทขายครั้งนี้เกิดจากความตื่นตระหนกของนักลงทุน โดยในประเทศอินเดียในตอนนี้มีนักลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 20 ล้านรายด้วยกัน
สำหรับคริปโตเคอเรนซี่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับสกุลเงินดังกล่าวแต่อย่างไรก็ตามในประเทศที่เห็นด้วยหรือในพื้นที่ที่เห็นด้วยก็มีการผลักดันกันอย่างเต็มที่เลยทีเดียว ก็ต้องมาดูกันว่าในอนาคตคริปโตเคอเรนซี่จะถูกใช้งานในประเทศไหนบ้างและจะถูกใช้งานในรูปแบบใด แล้วจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างกับรัฐบาลในแต่ละประเทศ
ภาพจาก Pixabay
ข้อมูลจาก MGROnline
ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook