เปลี่ยน 3 นิสัยใหม่ เพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนเก่งติดSpeed ตอนที่ 2

เปลี่ยน 3 นิสัยใหม่

จากบทความตอนที่ 1 ที่ทิ้งท้ายไว้เรื่องการตั้งคำถามและให้คำตอบกับตัวเองของมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง อีลอน มัสก์ ที่ว่าชีวิตนี้ฉันเกิดมาเพื่อรักษาการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ”นั้น ใครจะไปเชื่อว่าเมื่อโตขึ้นมาเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีหมดเลย เริ่มตั้งแต่บริษัทที่เป็นระบบชำระเงินของโลก เวลาซื้อของข้ามประเทศ บริษัทของเขาก็จะเป็นตัวกลางที่โอนเงินข้ามประเทศไปมา และเป็นธุรกิจนี้ที่ทำให้อีลอน มัสก์ ร่ำรวยมากๆ 

แต่สุดท้ายเขาก็ขายกิจการบริษัทนี้ไป เพื่อเอาเงินที่ขายได้มาสร้างจรวดบินไปในอวกาศ จนในที่สุดบริษัทเอกชนของเขาก็เป็นบริษัทแรกของโลกที่สามารถพานักบินไปกลับระหว่างสถานีอวกาศและโลกได้  คุณเห็นไหมว่าการตั้งคำถามที่ถูกต้องมันเปลี่ยนชีวิตคุณได้มากแค่ไหน? และถ้าคุณกำลังคิดว่า แล้วฉันจะตั้งคำถามยังไงให้ชีวิตเพื่ออนาคตไปได้ไกล  

คุณลองฟังประโยคนี้ของ เลส บราวน์ เขาเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจระดับโลก แล้วคุณจะได้แนวคิด เพราะเขาพูดว่า “หากคุณกำลังจะตายในวันนี้ รอบตัวของคุณมีแต่วิญญาณที่รายล้อมเตียงของคุณ วิญญาณแห่งความคิด วิญญาณแห่งความสามารถ วิญญาณแห่งพรสวรรค์ที่มอบให้คุณ ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่คุณไม่เคยทำตามความฝันเหล่านั้นเลย ไม่เคยทำตามความคิด ไม่เคยทำตามพรสวรรค์เหล่านั้น เขาเหล่านั้นกำลังมองมาที่คุณอยู่ตอนนี้ แล้วบอกคุณว่าคุณเท่านั้นที่สามารถให้ชีวิตกับเขาได้ และตอนนี้เขากำลังจะตายไปพร้อมกับคุณตลอดกาล” 

คำถามคือ ถ้าคุณจะต้องตายในวันนี้จริงๆ ความสามารถ ความฝัน พรสวรรค์อะไรที่ต้องตายไปพร้อมกับคุณ  คุณอ่านแล้วคุณคิดว่าอย่างไร ? นั่นคือแนวคิดในการที่คุณต้องตั้งคำถามที่สำคัญกับตัวคุณเอง

ข้อที่ 3 เปลี่ยนเป็นคนที่ทำทุกอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้อารมณ์ 

นิสัยข้อนี้ เป็นท่าไม้ตายที่คนประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนใช้กันบ่อยมาก เพราะคุณรู้ไหมว่า เรื่องนี้มันคือศัตรูที่ขัดขวางความสำเร็จของคนจำนวนมาก จากการวิเคราะห์ชายหญิงจำนวน 25,000 คน ที่ประสบความล้มเหลว 

มีผลสรุปในการทำวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า การไม่ยอมตัดสินใจ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่ทำให้เกิดความล้มเหลวในชีวิต เรื่องนี้มันเป็นความจริง และการผัดวันประกันพรุ่งเป็นขั้วตรงกันข้ามของการจัดสินใจ เป็นศัตรูที่ทุกคนต้องเอาชนะมันให้ได้  

ลองมาดูอีกฝั่งหนึ่ง จากการวิเคราะห์คนหลายร้อยคนที่มีทรัพย์สมบัติเกินว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ความจริงที่เห็นก็คือ คนรวยเหล่านั้นทุกคนมีนิสัยตัดสินใจทันทีและเปลี่ยนใจช้ามาก หมายความว่าคนที่เขาสำเร็จในชีวิต เขาจะไม่รอให้อารมณ์มาก่อน แล้วค่อยตัดสินใจลงมือทำ คุณอาจจะเคยได้ยินศิลปินบางคนพูดว่า เดี๋ยวอารมณ์มาแล้วค่อยลงมือทำ 

แต่ความจริง ศิลปินก็มี  2 แบบ คือศิลปินไส้แห้งกับศิลปินที่ร่ำรวย ถ้าคุณเคยได้ยินคำพูดของ สตีเวน คิง นักเขียนนิยายเขย่าขวัญชาวอเมริกัน เขาก็เป็นศิลปินนักเขียนนิยายที่โด่งดังมากๆ เป็นนักเขียนที่ถูกจัดอันดับว่ามีรายได้ระดับต้นๆของโลก  และเขาก็เคยพูดว่า “ในหลายๆครั้งผมก็ลงมือเขียนหนังสือโดยไม่มีอารมณ์ และเมื่อย้อนกลับไปอ่านดูอีกครั้งผมก็แยกไม่ออกว่า งานเขียนตอนไหนที่ทำตอนมีอารมณ์ หรือทำตอนไม่มีอารมณ์” นั่นแสดงให้เห็นว่า การที่สมองจะไหลลื่นมากที่สุดไม่ใช่ตอนที่นั่งรออยู่เฉยๆ แต่มันจะเริ่มตอนที่เราได้ลงมือทำไปแล้วสักระยะหนึ่ง จำได้ว่าทฤษฎีเรื่องนี้มาจาก “คุณขุนเขา” นักจิตวิทยาทางด้านสมอง 

ดังนั้นคุณจะเห็นภาพชัดว่า คนที่ร่ำรวยคือ คนที่ตัดสินใจเร็ว แต่เปลี่ยนใจช้า เมื่อตัดสินใจเร็ว สมองก็เลยลื่นไหล และการที่เปลี่ยนใจช้าก็เพราะว่า เขาทำงานนั้นได้นานมากพอที่จะไม่เปลี่ยนใจไปทำอย่างอื่น ฉะนั้นการตัดสินใจทำ เหมือนกับการปาจรวดกระดาษ ไม่จำเป็นต้องรอดินฟ้าอากาศ จรวจก็สามารถร่อนไปข้างหน้าได้ ด้วยธรรมชาติของมัน

ดังนั้นทั้งหมดนี้จำง่ายๆไว้ให้ขึ้นใจว่าว่านิสัย 3 ข้อที่คุณต้องเปลี่ยนและฝึกเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้น และก้าวไปข้างหน้าได้เร็วกว่าใครก็คือ

1.คำพูดที่ออกจากปากคือ อนาคตของคุณ

2.ถ้าคุณตั้งคำถามที่ใช่ คุณจะได้คำตอบที่เปลี่ยนชีวิต

3.ทำทั้งๆที่ไม่มีอารมร์ เพราะเดี๋ยวอารมณ์จะมาตอนที่ลงมือทำ

เริ่มเปลี่ยนตัวเองให้เปฌนคนเก่งนับตั้งแต่ตอนนี้ได้เลบ

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com

เปลี่ยน 3 นิสัยใหม่ เพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนเก่งติดSpeed ตอนที่ 1

เปลี่ยน 3 นิสัยใหม่

คุณเชื่อไหมว่าถ้าคุณเปลี่ยนนิสัยตัวเองใน 3 ข้อต่อไปนี้ได้ คุณจะเป็นคนที่เก่งขึ้น และก้าวไปข้างหน้าได้เร็วกว่าใครๆที่อยู่รอบตัวคุณ เอาล่ะถ้าใจพร้อมและต้องการจะเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นก็ไปดูคำแนะนำทั้ง 3 ข้อที่ว่ากันเลย

1.รู้จักเปลี่ยนคำพูดธรรมดาให้มีราคาสูงสุด

คุณเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ คำพูดที่ออกจากปากมันคืออนาคตของคุณ” บ้างไหม? มันเป็นเรื่องจริงที่สุดว่าถ้าคุณอยากจะให้คำพูดของคุณมีมูลค่าเท่าไหร่คุณก็ทำมันอย่างนั้น มีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ บรูซ ลี  ซึ่งเป็นดาราที่มีอิทธิพลมากๆในประวัติศาสตร์ของฮอลลีวู้ด เรียกได้ว่า มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นคนที่ร่ำรวยมาก 

แต่หลังจากที่เขาเสียชีวิต ได้มีการค้นพบความลับบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา มันคือจดหมายฉบับหนึ่งที่เขาเขียนให้กับตัวเอง และได้มีการนำจดหมายฉบับนั้นมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยจดหมายฉบับดังกล่าวมันเป็นคำพูดที่ บรูซ ลี เขียนขึ้นมาให้กับตัวเขาเองว่า โดยมีใจความว่า “ข้าพเจ้า บรูซ ลี จะเป็นซุปเปอร์สตาร์ชาวเอเชียคนแรกที่ค่าตัวสูงที่สูดในอเมริกาในปี 1970 ข้าพเจ้าจะสำเร็จในการมีชื่อเสียงไปทั่วโลก” 

จากคำพูดของเขานี่เองที่มันเปลี่ยนชีวิตของบรูซ ลี ไปตามคำพูดของเขาจริงๆ เขากลายเป็นฮีโร่ของคนที่ถูกข่มเหง ไม่ใช่แค่ในประเทศจีน แต่เขาเป็นฮีโร่ของคนทั้งโลก เรียกได้ว่าดังเท่ากับเฉินหลงในยุคนี้ได้เลย 

เฉินหลงเองในปัจจุบันเขารวยเป็นหมื่นล้าน แต่ก่อนหน้านั้นเฉินหลงได้เคยเป็นตัวแสดงแทนในบทบาทเตะต่อยให้กับ บรูซ ลี มาก่อน ซึ่งจะเห็นได้ว่าบรูซลีในสมัยก่อนนั้นเขาประสบความสำเร็จในชีวิตมากในระดับไหน นี่เป็นเรื่องจริงที่ยกตัวอย่างขึ้นมาเพื่อให้คุณได้เห็นภาพชัดๆว่า คำพูดของคุณเองมันศักดิ์สิทธิ์และมีพลังมากๆ เพราะคนที่พูดกับคุณบ่อยที่สุด ไม่ใช่พ่อแม่หรือคนใกล้ชิด แต่มันคือตัวของคุณเองนั่นแหละ ประเด็นที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือว่า คนส่วนใหญ่พูดกับตัวเองทั้งวันทั้งคืน แต่ไม่เคยควบคุมสิ่งที่พูดกับตัวเอง สรุปง่ายๆคือ คุณพูดอะไรกับตัวเองมันก็คืออนาคตของคุณ ดังนั้นถ้าคุณจะควบคุมอนาคตของคุณ คุณต้องควบคุมคำพูดของตัวเองให้จริงจัง

ข้อที่ 2 จงเปลี่ยนคำถามธรรมดาเป็นคำถามที่คนสำเร็จใช้กัน

ความหมายของข้อนี้คือ ถ้าคุณรู้จักตั้งคำถามที่ใช่ คุณจะได้คำตอบที่เปลี่ยนชีวิตคุณ  คุณรู้จัก อีลอน มัสก์ ใช่ไหม? เขาคือเศรษฐีที่เปลี่ยนชีวิตจากการตั้งคำถาม 

ชีวิตในวัยเด็กของ อีลอน มัสก์ ไม่ค่อยเหมือนกับเด็กทั่วไป พ่อแม่เขาหย่าร้างตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โตขึ้นมาถูกเพื่อนรุมรังแกโยนลงจากบันไดสูงหลายชั้น และยังถูกตามรุมกระทืบซ้ำจนสลบเข้าโรงพยาบาล สาเหตุนี้ทำให้เขาเป็นคนเก็บตัว ไม่อยากเข้าสังคม แต่ชอบไปซุกอยู่ในห้องสมุดและอ่านหนังสือวันละ 10 ชั่วโมง 

จนวันหนึ่งเขาได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการท่องอวกาศ เขามีความคิดที่จะตั้งคำถามกับตัวเองว่า ชีวิตนี้ฉันเกิดมาเพื่ออะไร? ซึ่งความจริงการหาคำตอบไม่ใช่เรื่องยาก แต่การตั้งคำถามที่ถูกต้องเป็นเรื่องที่ยากและสำคัญที่สุดในชีวิต ซึ่งสุดท้ายมันทำให้อีลอน มัสก์ ค้นพบคำตอบจากคำถามของตัวเขาเองว่า “ชีวิตนี้ฉันเกิดมาเพื่อรักษาการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ”  ฟังแล้วมันดูยิ่งใหญ่มากใช่ไหม ดังนั้นคุณลองติดตามดูในบทความตอนต่อไปว่า อีลอน มัสก์  เขาทำอะไรกับคำตอบของเขาต่อมาในชีวิต

ติดตามบทความตอนต่อไป

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com