FTX ล่ม! โดมิโน่ตัวสำคัญของวงการคริปโต

FTX ล่ม! โดมิโน่ตัวสำคัญของวงการคริปโต

ฤดูหนาวของวงการคิดโตยังคงไม่จบสิ้นหลังจากที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้เกิดข่าวใหญ่ขึ้นมานั่นก็คือการล่มสลายของศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตอันดับ 2 ของโลกอย่าง FTX ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนไม่น้อยเลย

ภาพ Pixabay

เหตุการณ์การล่มสลายครั้งนี้เริ่มต้นจากการFTX ได้มีเสกเหรียญ FTT ขึ้นมา และให้ Alamanda Research บริษัทลูกของตนเองถือไว้ ซึ่งมูลค่าของทรัพย์สินที่เป็น 80% ของทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินไป แถมหนี้สินของบริษัทก็ยังไม่ได้มีการระบุที่มาที่ไปที่ชัดเจน มันทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนทั่วโลก หลังจากนั้นไม่นาน CZ เจ้าของ Binance ที่เป็นศูนย์ซื้อขายอันดับ 1 ของโลกนั้นได้ทำการทวิตว่าจะมีการขายเหรียญ FTT เพราะกลัวซ้ำรอย Celsius ที่ล้มละลายไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่ได้มีการทวิตไปได้ไม่นานความกังวลก็เริ่มเกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่พากันแห่ขายเหรียญ FTT จนมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง แล้วหลังจากนั้นไม่นานนักลงทุนก็เริ่มมีการถอนเงินออกจาก FTX จนกระทั่งทางศูนย์ซื้อขายได้มีการระงับการถอนเงินเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ภาพ Pixabay

เมื่อ FTX เริ่มไม่มั่นคง ก็เริ่มมีการเจรจากับ Binance เพื่อทำการเข้าซื้อกิจการ แต่แล้วดีลก็ถูกปฏิเสธไปเนื่องจาก ฺBinance ได้ค้นพบว่า FTX มีการใช้เงินในบริษัทที่ผิดปกติ โดยมีการนำเงินของลูกค้าที่นำไปลงทุนโอนไปให้กับบริษัทลูกของตัวเอง และด้วยเหตุนี้ทำให้ FTX จำเป็นที่จะต้องยื่นล้มละลายในที่สุด

ผลกระทบของ FTX

แน่นอนว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือผู้ที่นำเงินไปฝากเพื่อใช้ในการลงทุนใน FTX นอกจากนี้มันยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในวงการคริปโตอีกด้วย ทำให้คนเชื่อมั่นใน CEX (Centralized Excahange) น้อยลง รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อรายใหญ่ที่นำเงินไปฝากไว้ในFTX เช่นเดียวกันตัวอย่างเช่น BlockFi, Genesis, Crypto.com, Gate.io ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้อาจจะมีการยื่นล้มละลายหลังจาก FTX ซึ่งในปัจจุบันนี้บางส่วนก็ระงับการถอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพ Pixabay

สำหรับทีมกีฬาและทีมอีสปอร์ตที่ FTX เข้าไปเป็นสปอนเซอร์ก็พากันถอนป้าย FTX ออก ตัวอย่างเช่น TSM ทีมการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตยักษ์ใหญ่ในประเทศอเมริกา ก็ได้มีการประกาศการยกเลิกการเป็นสปอนเซอร์กับFTX ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือแม้แต่ทีม Miami Heat ทีมบาสเกตบอลในลีก NBA ก็คงจะเปลี่ยนชื่อสนามเหย้าของตัวเองกลับไปเป็นชื่อเดิม โดยในปัจจุบันใช้ชื่อสนามว่า FTX Arena

และสำหรับใครที่อยู่ในวงการคริปโตเคอเรนซี่ หรือว่าอยากเข้ามาลงทุนในช่วงเวลานี้ก็ควรที่จะติดตามข่าวของศูนย์ซื้อขายต่าง ๆ ที่เรานำเงินไปลงทุนอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะให้ไหวตัวทันและถอนเงินออกมาได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหาย แล้วที่สำคัญถ้าหากว่าต้องการเก็บเหรียญคริปโตในระยะยาวก็ควรที่จะศึกษาเรื่อง Hardware wallet ให้ดี

ข้อมูลจาก The Standard

Evergrande Crisis กระทบเศรษฐกิจโลก

Evergrande Crisis

บริษัท Evergrande Group เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศจีนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2539

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายนที่ผ่านมาในโลกของเศรษฐกิจและการลงทุนพวกเราคงจะได้เห็นการปรับตัวลงของตลาดอย่างรุนแรงไม่ว่าจะเป็นหุ้นดัชนีหรือว่าคริปโต ซึ่งทั้งหมดน่าจะมีเหตุผลมาจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน

ตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงสำหรับแวดวงข่าวเศรษฐกิจเลยก็ว่าได้สำหรับบริษัท Evergrande Group ที่กำลังเป็นหนี้ก้อนโตและเสี่ยงต่อการล้มละลายโดยบริษัท Evergrande Group เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศจีนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2539 และได้มีโครงการจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่เข้าไปลงทุนก็มีจำนวนมากเช่นเดียวกัน แต่ว่าบริษัทนี้ก็เป็นหนี้อยู่เป็นจำนวนมหาศาลโดยคิดเป็นจำนวนได้มากถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมากบวกกับตอนนี้ประเทศจีนกำลังมีมาตรการเกี่ยวกับในเรื่องของการกู้ยืมทำให้ตอนนี้ทางบริษัท Evergrande Group ประสบกับปัญหาทั้งภายในและภายนอกเลยทีเดียว ซึ่งทางบริษัทก็กำลังหาวิธีในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยประธานของบริษัทก็มีความมั่นใจว่า Evergrande Group จะผ่านพ้นวิกฤตดังกล่าวไปได้แล้วจะดำเนินการทุกอย่างให้เรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบโครงการ แสดงความรับผิดชอบต่อผู้ซื้อหุ้น นักลงทุนและผู้ถือหุ้นทั้งหมด

และจากปัญหาการเป็นหนี้สินดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐ ตลาดหุ้นจีน รวมไปถึงคริปโตเคอเรนซี่ด้วย และถึงแม้ว่าในตลาดเงินดิจิตอลนั้นจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวมากนักแต่นักลงทุนส่วนใหญ่ก็มีความหวาดกลัวทำให้ราคาของเหรียญส่วนใหญ่มีการปรับตัวลงอย่างรุนแรงนั่นเอง ซึ่ง Stable Coin ที่เป็นเหรียญที่มีราคาอ้างอิงตามเงินสกุลต่างๆ ของโลกตัวอย่างเช่น USDT ก็ติดผลพวงปัญหานี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยทางบริษัทที่พัฒนาเหรียญดังกล่าวนั้นได้มีการลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการลงทุนกับบริษัท Evergrande Group นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเป็น Stable Coin ทำให้ราคานั้นไม่ลดลงรุนแรงมากนัก แต่ที่สำคัญเลยก็คือการทำให้สภาพคล่องของตลาดเงินดิจิตอลนั้นลดลงนั่นเอง

สิ่งที่น่าสนใจเลยก็คือทางประเทศจีนนั้นจะเข้ามาช่วยในเรื่องปัญหาดังกล่าวนี้อย่างไร บริษัทEvergrande Group จะผ่านพ้นวิกฤตนี้โดยไม่ล้มละลายได้หรือไม่ และที่สำคัญเลยก็คือจะส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศและภายนอกประเทศและตลาดการลงทุนในระยะยาวหรือระยะสั้นก็คงต้องมาติดตามข่าวกันต่อไป 

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก อีไฟแนนซ์ไทย , โพสต์ทูเดย์ , The Standard

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook