Coinbase จับมือ Mastercard

Coinbase

Coinbase จับมือ Mastercard ซื้อผลงาน NFTs

คริปโตเคอเรนซี่ได้รับความนิยมขึ้นมาก็มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายเลยทีเดียวในโลกของเราไม่ว่าจะเป็นระบบการเงินและศูนย์กลาง (DeFi) , GameFi และผลงานศิลปะ NFTs ซึ่งแต่ละนวัตกรรมนั้นก็สร้างรายได้ให้กับนักลงทุนได้ไม่น้อยเลยทีเดียวโดยเฉพาะผลงาน NFTs ที่กำลังเป็นกระแสนิยมอย่างมากและได้เกิดเค็มใหม่ๆ ขึ้นมาตลอดเวลายอดขายพุ่งถล่มแทบทุกวันเลยก็ว่าได้โดยนวัตกรรมดังกล่าวก็ได้เป็นจุดสนใจของการทำผลงานศิลปะในรูปแบบใหม่ๆ และผู้คนส่วนใหญ่ก็อยากเข้าถึงการเป็นอย่างมากแต่การเข้าถึงโลกของ decentralized กลายเป็นสิ่งที่ยากสำหรับคนรุ่นเก่า หรือคนที่ไม่มีความรู้เป็นอย่างมากตอนนี้ผู้เชี่ยววชาญและเป็นผู้ประกอบการหลายรายจึงพยายามทำให้สิ่งนี้เข้าถึงได้ง่ายมากที่สุด

Coinbase เป็น Exchange ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอลหรือคริปโตเคอเรนซี่รายใหญ่ในประเทศอเมริกาที่กำลังผลักดันให้โลกของ decentralized และบล็อกเชนกลายเป็นที่รู้จักและเข้าถึงง่ายมากขึ้นโดยล่าสุดก็ได้จับมือกับ Mastercard เพื่อให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงผลงาน NFTs ได้ง่ายดายมากขึ้นโดยการชำระค่าผลงานผ่าน Mastercard ซึ่งการใช้งานดังกล่าวจะเกิดขึ้นบน Coinbase’s NFT marketplace ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ทาง Coinbase กำลังพัฒนาและจะเปิดใช้งานในอนาคตซึ่ง Coinbase’s NFT marketplace ได้ถูกเปิดเผยจาก Coinbase มาเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยภายในตลาดจะมีการขายทรัพย์สินดิจิตอลไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือผลงานทางด้านศิลปะนั่นเอง ในตอนนี้ Coinbase ก็ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยว่าจะมีการเปิด Coinbase’s NFT marketplace เมื่อไหร่กันแน่

Raj Dhamodharan ผู้ที่เป็นรองประธานบริษัท Mastercard ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “เรากำลังทำงานเพื่อที่จะทำให้ NFTs เป็นสิ่งที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพราะเราชื่อว่าเทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีที่มีความกว้างขวาง และเมื่อคนเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ก็จะกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ และเศรษฐกิจก็จะเติบโตขึ้นและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ”

สำหรับคนที่อยู่ในวงการคริปโตเคอเรนซี่และบล็อกเชนก็คงจะรู้ว่ากว่าจะซื้อผลงาน NFTs ได้ 1 ชิ้นนั้นต้องมีขั้นตอนมากมายเลยทีเดียว โดยเริ่มจากการที่นำเงินเฟียส (Fiat) เข้าไปซื้อเหรียญใน Exchange โอนเหรียญจาก Exchange เข้าไปในกระเป๋าเงินส่วนตัว หลังจากนั้นก็ต้องผูกกระเป๋าเงินกับแพลตฟอร์มตลาด NFTs ถึงจะเริ่มซื้อขาย NFTs ในตลาดนั้นได้ เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากสำหรับคนที่ไม่เข้าใจเทคโนโลยีดังกล่าวเลยทีเดียวและที่สำคัญในทุกขั้นตอนก็มีการเสียค่าธรรมเนียมไม่ใช่น้อยด้วยเช่นเดียวกันดังนั้นการทำให้เรื่องยากเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้นก็จะทำให้เทคโนโลยีและนวัตกรรม NFTs เข้าถึงคุณได้ง่ายมากขึ้นมากอย่างแน่นอนเลยทีเดียว ไม่แน่อนาคตก็จะมีอาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีกมากมายเลยทีเดียวสำหรับในเรื่องของการทำ NFTs

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ ข่าวทันโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Crypto.com โดนแฮก

Crypto.com

Crypto.com โดนแฮกสูญเสียเงินกว่า 15 ล้านเหรียญ 

เรียกว่าปีนี้ดูเหมือนจะสลับขั้วกับปีที่แล้วเลยสำหรับเรื่องคริปโตเคอเรนซี่หรือเงินดิจิตอลที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากไปทั่วโลกในปีที่แล้วโตอยู่ในช่วงขาขึ้นและดึงดูดคนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากซึ่งมาหลายคนก็เติบโตขึ้นและสามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้ แต่นี้ปีนี้คริปโตยังอยู่ในช่วงขาลงและยังไม่มีทีท่าที่จะกลับตัวขึ้นโดยเฉพาะ Bitcoin ซึ่งเป็นเหรียญใหญ่ที่สุดในตลาด ทำให้นักลงทุนรู้สึกหวาดผวากันมากเลยทีเดียว หนำซ้ำยังมาถูกแฮกเกอร์โจรกรรมอีก โดยล่าสุดได้เกิดกับเว็บไซต์ Crypto.com ซึ่งเป็น Exchange หรือกระดานซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ และเป็นรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลกเลยทีเดียว

Crypto.com ได้มีการประกาศว่า Exchange ถูกแฮกเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมาซึ่งสูญเสียมูลค่าไปกว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐโดยเงินส่วนใหญ่ที่ถูกโอนออกไปโดยแฮกเกอร์นั้นจะเป็นเงินสกุล Ethereum โดยก่อนที่ทาง Exchange จะมีการทวิตออกมาว่าถูกแฮกนั้นผู้ใช้งานบางส่วนก็ได้มีการรายงานว่าเงินทุนของตัวเองบางส่วนได้หายไปถึงแม้ว่า Crypto.com จะมีระบบเข้ารหัส 2 ชั้นหรือที่เรารู้จักในชื่อของ 2FA ก็ตามที หลังจากที่ Crypto.com ถูกแฮกเกอร์โจมตีก็ได้มีการปิดระบบการถอนเงินโดยทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม 

โดยรายละเอียดการโอนเงินนั้นได้ถูกเปิดเผยโดย PeckShield บริษัทรักษาความปลอดภัยบล็อกเชน เงินจำนวนหนึ่งที่ถูกโอนไปยังที่อยู่ของผู้โจมตีนั้นเป็น Ethereum จำนวนกว่า 4600 Ethereum  เลยทีเดียว โดยเป็นการส่งผ่าน Tornado Cash ซึ่งเป็น Ethereum privacy protocol 

หลังจากนี้ก็ต้องมาติดตามดูว่า Crypto.com จะให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างไรแต่ทาง Exchange เองก็ได้ออกมาบอกกับผู้ใช้งานว่าเงินทุนที่ผู้ใช้งานนำมาเก็บไว้กับ  Exchange จะปลอดภัยอย่างแน่นอน และทางบริษัทก็กำลังตรวจสอบและค้นหาหลักฐานต่างๆอยู่และจะมีการเปิดเผยรายละเอียดมาในอนาคตและที่สำคัญมากที่สุดจะมีการเพิ่มระบบความปลอดภัยให้กับ Exchange เพื่อป้องกันที่จะไม่ให้ถูกแท็กอีกด้วยเช่นเดียวกัน 

แต่ไม่ว่าอย่างไรเมื่อ Exchange ถูกแล้วความไว้วางใจของผู้ใช้งานต้องลดลงอย่างแน่นอนและอาจจะทำให้ผู้ใช้งานหนีออกจากฉันใช้ Crypto.com ก็เป็นได้และไปหากระดานเทรดอื่นที่มีความปลอดภัยมากกว่านี้และไม่แน่ผู้ใช้งานบางส่วนอาจจะเก็บเงินดิจิตอลนี้เป็นของตัวเองโดยการโอนออกไปใส่ไว้ใน Hardware wallet เลยก็เป็นได้ด้วยคำพูดสุดฮิตในโลกคริปโตก็คือ “Not your keys? Not your coins” ซึ่งมันหมายความว่าเงินที่อยู่กับ Exchange ที่เราใช้งานนั้นไม่ใช่เงินของเราแต่เป็นเงินของ Exchange ดังนั้นการเก็บเงินไว้กับตัวเองโดยการนำมาใส่ใน Hardware wallet หรือกระเป๋าอย่าง Metamask ก็อาจจะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะลดการสูญเสียจาก Exchange ได้ 

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก PCGamer

ความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ ข่าวทันโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook