อยากใช้เงินตามใจฉัน ไม่กังวล…จะออมเงินยังไงดี

อยากใช้เงินตามใจฉัน ไม่กังวล...จะออมเงินยังไงดี

                อิสระทางการเงินคือสิ่งที่ใครๆ หลายคน ไม่ว่าจะฐานะทางการเงินเป็นแบบไหนก็ตาม เราก็อยากเก็บเงินสักก้อนเพื่อที่ตนเองจะได้ใช้ชีวิต มากกว่าที่จะมานั่งทำงานเพื่อเงิน แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะให้เงินทำงานอย่างไร เพื่อที่ตนเองจะได้มีอิสระในการใช้ชีวิตของตนเองได้อย่างไร้กังวล สามารถตามใจฉันได้โดยไม่ต้องกลัวว่า เงินจะไม่พอ หรือต้องมาพะวงหน้าพะวงหลังเรื่องครอบครัว ในบทความนี้จะมาแนะนำว่าเราจะมีอิสระทางการเงินจากการออมเงินได้อย่างไร

                อิสรภาพทางการเงินหมายความว่า คุณสามารถตัดสินใจในชีวิตได้โดยไม่ต้องเครียดกับผลกระทบทางการเงินมากเกินไปเพราะคุณเตรียมพร้อมแล้ว คุณควบคุมการเงินของคุณแทนที่จะถูกควบคุมโดยพวกเขา เส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงินไม่ใช่กลยุทธ์รวยทันใจ และอิสรภาพทางการเงินไม่ได้หมายความว่าคุณจะ “เป็นอิสระ” จากความรับผิดชอบในการจัดการเงินของคุณได้ดี ค่อนข้างตรงกันข้าม การมีอำนาจควบคุมการเงินของคุณได้อย่างสมบูรณ์ คือผลของการทำงานหนักการเสียสละและเวลา และความพยายามทั้งหมดนั้นคุ้มค่า ซึ่งจะวางแผนการออมได้ดังนี้

  • คุณอยากอยู่ที่ไหนใน 10 ปีข้างหน้าของคุณ? เริ่มต้นด้วยจุดนั้นซึ่งเป็นจุดที่คุณกำหนดเองไว้ในใจ งานนี้เหมาะสมกับเป้าหมายโดยรวมของคุณหรือไม่?
  • ถามตัวเองว่าคุณมีศักยภาพในการหารายได้หรือไม่? แม้ว่าคุณจะไม่ได้เงินเดือนในฝันตั้งแต่เริ่มต้น แต่ให้แน่ใจว่ามีโอกาสที่รายได้ของคุณจะเพิ่มขึ้นเมื่อมูลค่าของคุณเพิ่มขึ้น
  • สามารถลงมือทำในเรื่องการออมเงินได้ไหม? มีโอกาสที่คุณจะก้าวขึ้นและเติบโตทั้งในด้านส่วนตัวและด้านอาชีพหรือไม่? ถ้ายังไม่แน่ใจควรรีบศึกษา หรือหาข้อมูลเรื่องการลงทุน
  • คุณสนุกกับงานหรือไม่? อย่าใช้อาชีพในงานที่คุณเกลียด ค้นหาสิ่งที่คุณหลงใหล ควรใช้งานที่ตนชอบซึ่งช่วยให้คุณใช้ของขวัญและทักษะของคุณได้ (เอาง่ายๆ คืออยู่ให้ถนัดและใช่สำหรับตน)
  • ผลประโยชน์ช่วยสนับสนุนเป้าหมายของอิสรภาพทางการเงินหรือไม่? ตัวเลือกสำหรับการออมเพื่อการเกษียณอายุและประกันสุขภาพ อาจส่งผลต่อความสามารถในการสร้างความมั่งคั่งของคุณอย่างมาก

                อิสรภาพทางการเงินเป็นมากกว่าการออมเงินกว่าที่คิดเสียอีก เพียงแต่ความรอบคอบในการออมเงินนั้นสามารถในการครอบคลุมเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด เช่น การซ่อมแซมรถยนต์ โดยไม่ทำนให้เหงื่อแตกตอนตัวเองจนแต้ม ความสนุกเริ่มขึ้นเมื่อคุณตระหนักว่า คุณสามารถตอบสนองความต้องการของผู้อื่นได้เช่นกัน ไม่ว่าจะแชร์ประสบการณ์ด้านการออมเงิน การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ความคุ้มค่าในการออมเงินเพื่อลำดับความสำคัญ นอกจากนี้ถ้าเรารอบคอบในการออมเงินมากขึ้น เราแทบไม่ต้องกังวลเลยว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่มีจะขาดมือเลย

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ออมเงินแบบ 50/30/20 เหมาะกับสังคมไทยอย่างไรบ้าง

ออมเงินแบบ 50/30/20 เหมาะกับสังคมไทยอย่างไรบ้าง

                ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าการออมเงิน เป็นอะไรที่ยากลำบากมากสำหรับคนที่อยู่ในช่วง COVID-19 เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร แต่เราก็ต้องอยู่อย่างมีความหวังจริงไหม การออมเงินเรียกได้ว่า ณ ตอนนี้ทำอะไรได้ทำไปก่อน อาจจะหยอดกระปุกออมสินบ้าง อาจไปฝากเงินเข้าธนาคาร หรืออาจฝากเงินจากการได้รับเงินก้อนโตจากครอบครัว ซึ่งเราเองก็ไม่อยากให้เงินเหล่านั้นขาดมือหรือหายไป เอาล่ะในบทความนี้จะมาแนะนำสูตรการออมเงินแบบ 50/30/20 ซึ่งเป็นสูตรเก็บเงินที่เรียกได้ว่าดีมากๆ เลยล่ะ ซึ่งจะอธิบายสูตรการออมเงินได้ดังนี้

                การออมเงินแบบ 50/30/20 จะไม่ค่อยต่างจากการออมเงินสูตร ออม 1 ส่วน ใช้ 3 ส่วนนัก แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนคือ 50/30/20 เป็นการออมเงินที่แบ่งตามร้อยละของเงินที่ได้นี่แหล่ะ สามารถคำนวณได้จากรายรับของตนเอง ไม่ว่าจะกลุ่มทำงานอาชีพอะไร แม้กระทั่งกลุ่มทำงานพาร์ทไทม์ ควรใช้สูตรนี้มากๆ ปกติแล้วตามวิธีการออมเงินแบบ 50/30/20 ซึ่งในต่างประเทศนิยมมาก แต่สามารถใช้ในประเทศไทยได้ ถ้าจะใช้สูตร 50/30/20 ต้องอ้างอิงจากเงินที่ตนมี จะกี่บาทก็ได้ และวางแผนการออมว่าออมเพื่ออะไร จะได้สัดส่วนที่ชัดเจนกว่าการออมแบบอื่นค่อนข้างมากเลยทีเดียว

  • ควรสำรองงบประมาณไว้ 50% สำหรับสิ่งจำเป็น เช่น ค่าเช่า งวดรถรายเดือน อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
  • 30% สำหรับการใช้จ่ายตามดุลยพินิจและอย่างน้อยควรจะมีในสัดส่วนนี้ เช่น เงินสำรองค่ารักษาพยาบาล เงินเดือนส่งให้พ่อแม่ที่บ้าน
  • 20% สำหรับการออม อันนี้ไม่ควรแตะต้องด้วยประการทั้งปวง เพราะไม่อย่างนั้นเป้าหมายจะเสียทันที แล้วเราต้องมานับหนึ่งใหม่ ซึ่งมันไม่ควรเป็นแบบนี้

                การออมเงินด้วยสูตรนี้ดูเหมือนง่ายพอ คุ้มค่าคุ้มเวลาในการจัดการด้านการเงิน และนี่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นที่เพิ่งเริ่มจะฝึกคำนวณการใช้งบประมาณ สิ่งสำคัญคือต้องทำความคุ้นเคยกับการรู้ว่าเงินของคุณกำลังไปที่ใด โดยการแบ่งการเงินของคุณออกเป็นสามประเภทที่แตกต่างกัน ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับระบบงบประมาณนี้คือคุณยังสามารถจัดงบประมาณเพื่อความสนุกสนานได้ เช่น เที่ยว ช็อปปิ้ง หรือปาร์ตี้ส่วนตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดการเป้าหมาย ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดการเงินของคุณอย่างเหมาะสมในขณะที่ใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย สิ่งนี้เองจะทำให้เรามีแผนรับมือสำรองได้ดีกว่าการออมแบบออม 1 ส่วน ใช้ 3 ส่วนอย่างมาก

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

อยากใช้เงินตามใจฉัน ไม่กังวล…จะออมเงินยังไงดี

อยากใช้เงินตามใจฉัน ไม่กังวล...จะออมเงินยังไงดี

อิสระทางการเงินคือสิ่งที่ใครๆ หลายคน ไม่ว่าจะฐานะทางการเงินเป็นแบบไหนก็ตาม เราก็อยากเก็บเงินสักก้อนเพื่อที่ตนเองจะได้ใช้ชีวิต มากกว่าที่จะมานั่งทำงานเพื่อเงิน แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะให้เงินทำงานอย่างไร เพื่อที่ตนเองจะได้มีอิสระในการใช้ชีวิตของตนเองได้อย่างไร้กังวล สามารถตามใจฉันได้โดยไม่ต้องกลัวว่า เงินจะไม่พอ หรือต้องมาพะวงหน้าพะวงหลังเรื่องครอบครัว ในบทความนี้จะมาแนะนำว่าเราจะมีอิสระทางการเงินจากการออมเงินได้อย่างไร

อิสรภาพทางการเงินหมายความว่า คุณสามารถตัดสินใจในชีวิตได้โดยไม่ต้องเครียดกับผลกระทบทางการเงินมากเกินไปเพราะคุณเตรียมพร้อมแล้ว คุณควบคุมการเงินของคุณแทนที่จะถูกควบคุมโดยพวกเขา เส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงินไม่ใช่กลยุทธ์รวยทันใจ และอิสรภาพทางการเงินไม่ได้หมายความว่าคุณจะ “เป็นอิสระ” จากความรับผิดชอบในการจัดการเงินของคุณได้ดี ค่อนข้างตรงกันข้าม การมีอำนาจควบคุมการเงินของคุณได้อย่างสมบูรณ์ คือผลของการทำงานหนักการเสียสละและเวลา และความพยายามทั้งหมดนั้นคุ้มค่า ซึ่งจะวางแผนการออมได้ดังนี้

คุณอยากอยู่ที่ไหนใน 10 ปีข้างหน้าของคุณ? เริ่มต้นด้วยจุดนั้นซึ่งเป็นจุดที่คุณกำหนดเองไว้ในใจ งานนี้เหมาะสมกับเป้าหมายโดยรวมของคุณหรือไม่?

ถามตัวเองว่าคุณมีศักยภาพในการหารายได้หรือไม่? แม้ว่าคุณจะไม่ได้เงินเดือนในฝันตั้งแต่เริ่มต้น แต่ให้แน่ใจว่ามีโอกาสที่รายได้ของคุณจะเพิ่มขึ้นเมื่อมูลค่าของคุณเพิ่มขึ้น

สามารถลงมือทำในเรื่องการออมเงินได้ไหม? มีโอกาสที่คุณจะก้าวขึ้นและเติบโตทั้งในด้านส่วนตัวและด้านอาชีพหรือไม่? ถ้ายังไม่แน่ใจควรรีบศึกษา หรือหาข้อมูลเรื่องการลงทุน

คุณสนุกกับงานหรือไม่? อย่าใช้อาชีพในงานที่คุณเกลียด ค้นหาสิ่งที่คุณหลงใหล ควรใช้งานที่ตนชอบซึ่งช่วยให้คุณใช้ของขวัญและทักษะของคุณได้ (เอาง่ายๆ คืออยู่ให้ถนัดและใช่สำหรับตน)

ผลประโยชน์ช่วยสนับสนุนเป้าหมายของอิสรภาพทางการเงินหรือไม่? ตัวเลือกสำหรับการออมเพื่อการเกษียณอายุและประกันสุขภาพ อาจส่งผลต่อความสามารถในการสร้างความมั่งคั่งของคุณอย่างมาก

อิสรภาพทางการเงินเป็นมากกว่าการออมเงินกว่าที่คิดเสียอีก เพียงแต่ความรอบคอบในการออมเงินนั้นสามารถในการครอบคลุมเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด เช่น การซ่อมแซมรถยนต์ โดยไม่ทำให้เหงื่อแตกตอนตัวเองจนแต้ม ความสนุกเริ่มขึ้นเมื่อคุณตระหนักว่า คุณสามารถตอบสนองความต้องการของผู้อื่นได้เช่นกัน ไม่ว่าจะแชร์ประสบการณ์ด้านการออมเงิน การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ความคุ้มค่าในการออมเงินเพื่อลำดับความสำคัญ นอกจากนี้ถ้าเรารอบคอบในการออมเงินมากขึ้น เราแทบไม่ต้องกังวลเลยว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่มีจะขาดมือเลย

#ธุรกิจ #การออมเงิน #การเงิน #GUรู็ การเงิน  #mee-money.com

‘เราผูกผัน’ อีกหนึ่งสิ่งดีๆที่มอบให้แก่ข้าราชการชั้นผู้น้อย

เราผูกผัน

‘เราผูกพัน’เป็นอีกหนึ่งมาตรการดีๆที่ทางรัฐบาลได้มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือข้าราชการชั้นผู้น้อย ลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างประจำ พนักงานรัฐและรัฐวิสาหกิจที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินในช่วงที่ประเทศไทยกำลังถูกเชื้อไวรัสcovid-19แพร่ระบาดอยู่ในประเทศไทย ณ ขณะนี้ ซึ่งในตอนนี้ทุกๆหน่วยงานกำลังจะยื่นเรื่องเพื่อเร่งให้มีผลอนุมัติโดยเร็วที่สุด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในตอนนี้รัฐบาลนั้นกำลังคิดหามาตรการที่จะเป็นการช่วยเหลือประชาชนคนไทยเราให้ได้อย่างสุดความสามารถทั้งหมดนี้ก็เพื่อต้องการไม่ให้คนไทยเราต้องไปเป็นหนี้ต่างชาติกับดอกเบี้ยที่สูงจนน่าตกใจ โดยผู้ที่เป็นข้าราชการไม่ต้องลงทะเบียน เพียงแค่เช็คเงื่อนไข หากใครมีสิทธิ์ก็รอรับเงินได้เลย

หลังจากที่มาตรการ ‘เราชนะ’ ออกมาเพื่อหวังช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยด้วยการจ่ายเงินเยียวยาให้แก่ผู้มีรายได้น้อย7,000บาทโดยให้ใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งในส่วนของกลุ่มที่ตกหล่นนั้นจะเป็นกลุ่มของข้าราชการ ลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างประจำ และรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 โดยทางกระทรวงการคลังได้มีการออกมาเปิดเผยว่าผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในมาตรการ ‘เราผูกพัน’

นั้นจะมีกลุ่มข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ลูกจ้างหน่วยงานราชการทั้งชั่วคราวและประจำ พนักงานราชการตามสัญญาจ้างที่มีรายได้ต่ำ ข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีเงินเดือนใกล้เคียงกับค่าแรงขั้นต่ำเดือนละ15,000บาท จำนวนผู้ได้รับจำนวนสองแสนราย โดยข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวและรัฐวิสาหกิจจะได้รับเงินเยียวยาเท่ากับกลุ่มมาตรการม.33 เรารักกันที่ช่วยเหลือในระบบประกันสังคม33 เป็นจำนวนเงินรายละ4,000บาท


ในส่วนของขั้นตอนในการรับเงินนั้น ทางปลัดกระทรวงการคลังได้มีการกล่าวว่าข้าราชการที่มีรายได้น้อยไม่จำเป็นจะต้องลงทะเบียนเพื่อขอเข้ารับสิทธิ์ เนื่องจากกระทรวงการคลังได้มีฐานข้อมูลในระบบอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้อยู่จะต้องทำการทบทวนดูก่อนว่าต้องการที่จะช่วยเหลือในรูปแบบใด ซึ่งโดยปกติแล้วกรมบัญชีกลางจะเป็นหน่วยงานที่จ่ายเงินให้แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างประจำทุกหน่วยอยู่แล้ว

ดังนั้นในมาตรการ ‘เราผูกพัน’ นั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีการลงทะเบียนแต่อย่างใดและในส่วนของการนำเงินเข้าในระบบนั้นจะมีอยู่2รูปแบบคือ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารหรือโอนเงินเข้าบัญชีแอปพลิเคชั่นเป๋าตังเพราะมีข้าราชการบางส่วนได้รับสิทธิ์ในมาตรการคนละครึ่งและมีการใช้จ่ายผ่านแอพเป๋าตังอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีข่าวลือกันว่ามาตรการนี้ไม่ผ่านการอนุมัติแต่ความจริงแล้วทางปลัดกระทรวงการคลังได้ออกมาแถลงการณ์แล้วว่ากำลังรอรัฐบาลทำการพิจารณาและรอให้มีการอนุมัติอยู่

#การเงิน #เราผูกผัน #GUรู็ การเงิน  #mee-money.com

ออมเงินแบบ 50/30/20 เหมาะกับสังคมไทยอย่างไรบ้าง

ออมเงิน

ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าการออมเงิน เป็นอะไรที่ยากลำบากมากสำหรับคนที่อยู่ในช่วง COVID-19 เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร แต่เราก็ต้องอยู่อย่างมีความหวังจริงไหม การออมเงินเรียกได้ว่า ณ ตอนนี้ทำอะไรได้ทำไปก่อน อาจจะหยอดกระปุกออมสินบ้าง อาจไปฝากเงินเข้าธนาคาร หรืออาจฝากเงินจากการได้รับเงินก้อนโตจากครอบครัว ซึ่งเราเองก็ไม่อยากให้เงินเหล่านั้นขาดมือหรือหายไป เอาล่ะในบทความนี้จะมาแนะนำสูตรการออมเงินแบบ 50/30/20 ซึ่งเป็นสูตรเก็บเงินที่เรียกได้ว่าดีมากๆ เลยล่ะ ซึ่งจะอธิบายสูตรการออมเงินได้ดังนี้

การออมเงินแบบ 50/30/20 จะไม่ค่อยต่างจากการออมเงินสูตร ออม 1 ส่วน ใช้ 3 ส่วนนัก แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนคือ 50/30/20 เป็นการออมเงินที่แบ่งตามร้อยละของเงินที่ได้นี่แหล่ะ สามารถคำนวณได้จากรายรับของตนเอง ไม่ว่าจะกลุ่มทำงานอาชีพอะไร แม้กระทั่งกลุ่มทำงานพาร์ทไทม์ ควรใช้สูตรนี้มากๆ ปกติแล้วตามวิธีการออมเงินแบบ 50/30/20 ซึ่งในต่างประเทศนิยมมาก แต่สามารถใช้ในประเทศไทยได้ ถ้าจะใช้สูตร 50/30/20 ต้องอ้างอิงจากเงินที่ตนมี จะกี่บาทก็ได้ และวางแผนการออมว่าออมเพื่ออะไร จะได้สัดส่วนที่ชัดเจนกว่าการออมแบบอื่นค่อนข้างมากเลยทีเดียว

  • ควรสำรองงบประมาณไว้ 50% สำหรับสิ่งจำเป็น เช่น ค่าเช่า งวดรถรายเดือน อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ 
  • 30% สำหรับการใช้จ่ายตามดุลยพินิจและอย่างน้อยควรจะมีในสัดส่วนนี้ เช่น เงินสำรองค่ารักษาพยาบาล เงินเดือนส่งให้พ่อแม่ที่บ้าน
  • 20% สำหรับการออม อันนี้ไม่ควรแตะต้องด้วยประการทั้งปวง เพราะไม่อย่างนั้นเป้าหมายจะเสียทันที แล้วเราต้องมานับหนึ่งใหม่ ซึ่งมันไม่ควรเป็นแบบนี้

การออมเงินด้วยสูตรนี้ดูเหมือนง่ายพอ คุ้มค่าคุ้มเวลาในการจัดการด้านการเงิน และนี่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นที่เพิ่งเริ่มจะฝึกคำนวณการใช้งบประมาณ สิ่งสำคัญคือต้องทำความคุ้นเคยกับการรู้ว่าเงินของคุณกำลังไปที่ใด โดยการแบ่งการเงินของคุณออกเป็นสามประเภทที่แตกต่างกัน ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับระบบงบประมาณนี้คือคุณยังสามารถจัดงบประมาณเพื่อความสนุกสนานได้ เช่น เที่ยว ช็อปปิ้ง หรือปาร์ตี้ส่วนตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดการเป้าหมาย ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดการเงินของคุณอย่างเหมาะสมในขณะที่ใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย สิ่งนี้เองจะทำให้เรามีแผนรับมือสำรองได้ดีกว่าการออมแบบออม 1 ส่วน ใช้ 3 ส่วนอย่างมาก

#ธุรกิจ #การออมเงิน #การเงิน #การลงทุน #GUรู็ การเงิน  #mee-money.com

อันไหนดีกว่า…ระหว่างออมทรัพย์กับการลงทุน

ออมทรัพย์กับการลงทุน

การออมเงินในปัจจุบันมีได้หลายช่องทางมากเลยทีเดียว ไม่ว่าคุณจะทำงานเกี่ยวกับการเงินมาหลายปีหรือเพิ่งเริ่มต้น ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าเมื่อใดที่คุณควรออมและควรลงทุนเมื่อใด การออมเป็นเส้นทางทางการเงินที่ปลอดภัยกว่า เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วจำนวนเงินที่มีในบัญชีธนาคารของคุณจะไม่ลดลง เว้นแต่คุณจะถอนเงินหรือเอาไปจ่ายสินค้าและบริการผ่านแอปธนาคารหรือบัตรเครดิต แต่อัตราดอกเบี้ยในบัญชีออมทรัพย์จะไม่ค่อยให้เงินของคุณเติบโตอย่างรวดเร็วนัก น่าเสียดายที่อัตราดอกเบี้ยมักจะต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหมายความว่าเงินออมของคุณอาจสูญเสียกำลังซื้อเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆ ปี และสถานการณ์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง

หลายคนสับสนกันมากระหว่างออมทรัพย์กับการลงทุน มักจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่จริงๆ แล้ว ออมทรัพย์กับลงทุนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งนักลงทุนมือใหม่หลายคนไม่เข้าใจว่าการออมเงินเพื่อการออมทรัพย์ กับการลงทุนเงินเป็นสิ่งที่แตกต่างกันที่เป้าหมายของการออม รวมถึงผลตอบแทน ความเสี่ยงของสองอย่างนี่แหล่ะ พวกเขามีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันและมีบทบาทที่แตกต่างกันในกลยุทธ์ทางการเงินและงบดุลของคุณ  ซึ่งจะต้องศึกษาค้นคว้าข้อมูลให้แน่ใจว่าคุณมีความชัดเจนในแนวคิดพื้นฐานนี้ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นการเดินทางไปสู่การสร้างความมั่งคั่ง และการค้นหาความเป็นอิสระทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญเพราะสามารถช่วยคุณจากความเสียใจและความเครียดได้มากมาย (เพราะไม่มีใครอยากกังวลเรื่องเงินไปตลอดชีวิต) ในกรณีที่เป็นการลงทุน คุณยังสามารถรับความเสี่ยงได้มากพอที่จะสูญเสีย (ถ้าได้มาซึ่งความคุ้มค่า เช่น สินทรัพย์การลงทุนที่ให้เงินหมุนเวียน) ได้ แม้จะมีพอร์ตการลงทุนที่ยอดเยี่ยม เพราะคุณไม่เห็นคุณค่าของเงินสดในพอร์ตการลงทุนของคุณ เงินสดสมควรได้รับการเก็บรักษาและมีการเติบโตอยู่ตลอดเวลา เป้าหมายของเงินสดอาจจะไม่ใช่เพื่อสร้างผลตอบแทนให้คุณเสมอไป ถ้าเราไม่รู้วิธีการลงทุนที่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งนัก

เอาง่ายๆ คือ อยากได้ผลตอบแทนระยะสั้นให้ไปที่ออมทรัพย์ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนธุรกรรมทางการเงินได้ตลอดเวลา ดอกเบี้ยรายปี ไม่ว่าจะฝากเงิน ถอนเงิน ส่วนการลงทุนจะเน้นเป้าหมายระยะยาวมากกว่า ซึ่งจะมีความเสี่ยงซึ่งต้องรับได้ในการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้การเทรดหุ้น ก็เป็นการทำในรูปแบบของการลงทุนรูปแบบหนึ่ง

จะสรุปได้ว่าการลงทุนทำให้เงินของคุณมีศักยภาพที่จะเติบโตได้เร็วกว่าที่สามารถทำได้ในบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งออมทรัพย์จะมีดอกเบี้ยเป็นอัตราตอบแทน ซึ่งต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของธนาคารนั้นๆ หากคุณมีเวลานานจนกว่าคุณจะต้องบรรลุเป้าหมายผลตอบแทนของคุณจะทบต้น โดยทั่วไปนี่หมายความว่านอกเหนือจากอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นรายได้จากการลงทุนของคุณจะได้รับเงินเมื่อเวลาผ่านไป

#ธุรกิจ #การออมเงิน #การเงิน # การลงทุน #GUรู็ การเงิน  #mee-money.com