Stable Coin คืออะไร เหตุใดจึงสำคัญ

Stable Coin คืออะไร เหตุใดจึงสำคัญ

ในช่วงปลายปีอย่างนี้ตลาดคริปโตเคอเรนซี่หรือเงินดิจิตอลก็กลับมาเป็นกระแสดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่อีกครั้งหลังจากที่เคยเป็นที่นิยมและเป็นที่ถูกพูดถึงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งสำหรับตลาดในประเทศไทยเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้นทำให้ กระแสในคริปโตประเทศไทยบูมมากขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว มีคนจำนวนมากมายที่ได้กำไรจากการที่ราคาเหรียญพุ่งขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าต้นเดือนธันวาคมนี้ จะกลายเป็นเรื่องที่เลวร้ายสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่หรือคนที่เพิ่งเข้ามาในวงการเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมราคาของ Bitcoin ลดลงมาถึงราคาเกือบถึง 1,600,000 บาท ทำให้ราคาเหรียญอื่นๆ ลดลงตามมาและนักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้าซื้อที่ราคาแพงสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก และด้วยกาแฟที่ได้รับความนิยมเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนทำให้มีคนหลายคนกู้เงินออกมาเล่นเพื่อหวังผลกำไรแต่แล้วก็ต้องสูญเสียเงินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ด้วยความผันผวนของตลาดทำให้เราจำเป็นที่จะต้องรู้จัก Stable Coin

ภาพจาก Pixabay

Stable Coin เป็นเงินดิจิตอลประเภทหนึ่งที่ราคาไม่มีความผันผวน เพราะว่าเป็นเหลี่ยมที่มีเงินดอลล่าค้ำอยู่ทำให้ราคาเหรียญจะเท่ากับเงินสกุลดอลลาร์ของสหรัฐนั้นเอง ซึ่งเป็นเหรียญที่เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่เป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะว่ามีความเสี่ยงต่ำเป็นอย่างมาก และตาม Exchange ต่าง ๆ ของต่างประเทศก็ใช้ Stable Coin ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอลสกุลอื่น ๆ ด้วย

ภาพจาก Pixabay

ด้วยความที่เป็นเหรียญที่ไม่มีความผันผวนทำให้เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่ชอบความเสี่ยงแต่อยากลงทุนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งกว่าจะได้กำไรไม่เยอะในช่วงที่ราคาขึ้นแต่อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุนเยอะเช่นกันในช่วงที่ราคาตลาดเป็นขาลง นอกจากนี้ในช่วงที่เหรียญอื่น ๆ ในตลาดมีการปรับตัวลงอย่างรุนแรง Stable Coin

สามารถใช้ในประคองพอร์ตของเราไม่ให้ขาดทุนได้ดีมากเลยทีเดียว แถมให้ช่วงที่ราคาของเหรียญในตลาดเป็นขาลง นักลงทุนหลาย ๆ คนใช้ Stable Coin ในการพักเหรียญเพื่อรอเวลาที่ตลาดจะกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ทำให้มีโอกาสที่เรียก Stable Coin จะมีราคาพุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดเป็นขาลง ตัวอย่างเช่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงที่ Bitcoin มีราคาลดลง เหรียญ USDT ซึ่งเป็นเหรียญ Stable Coin มีราคาสูงขึ้นจาก 34 บาทเป็น 36 บาทเลยทีเดียว

ภาพจาก Pixabay

นอกจากมีเรื่องของการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญต่างๆ ในตลาดแล้ว Stable Coin ยังใช้เป็นเหรียญในการลดความเสี่ยงของแพลตฟอร์ม DeFi อีกด้วย เพราะเป็นเหรียญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่อง impermanent loss ได้ดีอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับเหรียญ Stable Coin ที่นิยมใช้ในปัจจุบันนี้ก็คือ USDT, USDC, BUSD และ DAI

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก  
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook 

ออมเงินแบบ 50/30/20 เหมาะกับสังคมไทยอย่างไรบ้าง

ออมเงินแบบ 50/30/20 เหมาะกับสังคมไทยอย่างไรบ้าง

                ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าการออมเงิน เป็นอะไรที่ยากลำบากมากสำหรับคนที่อยู่ในช่วง COVID-19 เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร แต่เราก็ต้องอยู่อย่างมีความหวังจริงไหม การออมเงินเรียกได้ว่า ณ ตอนนี้ทำอะไรได้ทำไปก่อน อาจจะหยอดกระปุกออมสินบ้าง อาจไปฝากเงินเข้าธนาคาร หรืออาจฝากเงินจากการได้รับเงินก้อนโตจากครอบครัว ซึ่งเราเองก็ไม่อยากให้เงินเหล่านั้นขาดมือหรือหายไป เอาล่ะในบทความนี้จะมาแนะนำสูตรการออมเงินแบบ 50/30/20 ซึ่งเป็นสูตรเก็บเงินที่เรียกได้ว่าดีมากๆ เลยล่ะ ซึ่งจะอธิบายสูตรการออมเงินได้ดังนี้

                การออมเงินแบบ 50/30/20 จะไม่ค่อยต่างจากการออมเงินสูตร ออม 1 ส่วน ใช้ 3 ส่วนนัก แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนคือ 50/30/20 เป็นการออมเงินที่แบ่งตามร้อยละของเงินที่ได้นี่แหล่ะ สามารถคำนวณได้จากรายรับของตนเอง ไม่ว่าจะกลุ่มทำงานอาชีพอะไร แม้กระทั่งกลุ่มทำงานพาร์ทไทม์ ควรใช้สูตรนี้มากๆ ปกติแล้วตามวิธีการออมเงินแบบ 50/30/20 ซึ่งในต่างประเทศนิยมมาก แต่สามารถใช้ในประเทศไทยได้ ถ้าจะใช้สูตร 50/30/20 ต้องอ้างอิงจากเงินที่ตนมี จะกี่บาทก็ได้ และวางแผนการออมว่าออมเพื่ออะไร จะได้สัดส่วนที่ชัดเจนกว่าการออมแบบอื่นค่อนข้างมากเลยทีเดียว

  • ควรสำรองงบประมาณไว้ 50% สำหรับสิ่งจำเป็น เช่น ค่าเช่า งวดรถรายเดือน อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
  • 30% สำหรับการใช้จ่ายตามดุลยพินิจและอย่างน้อยควรจะมีในสัดส่วนนี้ เช่น เงินสำรองค่ารักษาพยาบาล เงินเดือนส่งให้พ่อแม่ที่บ้าน
  • 20% สำหรับการออม อันนี้ไม่ควรแตะต้องด้วยประการทั้งปวง เพราะไม่อย่างนั้นเป้าหมายจะเสียทันที แล้วเราต้องมานับหนึ่งใหม่ ซึ่งมันไม่ควรเป็นแบบนี้

                การออมเงินด้วยสูตรนี้ดูเหมือนง่ายพอ คุ้มค่าคุ้มเวลาในการจัดการด้านการเงิน และนี่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นที่เพิ่งเริ่มจะฝึกคำนวณการใช้งบประมาณ สิ่งสำคัญคือต้องทำความคุ้นเคยกับการรู้ว่าเงินของคุณกำลังไปที่ใด โดยการแบ่งการเงินของคุณออกเป็นสามประเภทที่แตกต่างกัน ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับระบบงบประมาณนี้คือคุณยังสามารถจัดงบประมาณเพื่อความสนุกสนานได้ เช่น เที่ยว ช็อปปิ้ง หรือปาร์ตี้ส่วนตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดการเป้าหมาย ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดการเงินของคุณอย่างเหมาะสมในขณะที่ใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย สิ่งนี้เองจะทำให้เรามีแผนรับมือสำรองได้ดีกว่าการออมแบบออม 1 ส่วน ใช้ 3 ส่วนอย่างมาก

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

นักลงทุนกระดานเทรด Bitmart เรียกร้องขอค่าเสียหาย

Bitmart

Bitmart ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอล

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมานี้กระดานเทรด Bitmart ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอลหรือว่าคริปโตเคอเรนซี่นั้นได้ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์และสูญเสียเงินไปกว่า 196 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่งเงินที่ถูกโอนออกไปจัด Bitmart ได้อยู่ใน  Ethereum Chain จำนวน 100 ล้านเหรียญ และอยู่บน Binance Smart Chain  จำนวน 96 ล้านเหรียญ  ซึ่งการถูกโจมตีครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

หลังจากการถูกโจมตี Bitmart ก็ให้คำมั่นสัญญากับนักลงทุนว่าจะมีการคืนเงินค่าเสียหายให้กับนักลงทุนทั้งหมดเป็นเหยื่อการถูกแฮกในครั้งนี้ โดยทาง Bitmart จะใช้เงินในกองทุนของตัวเองนั้นจ่ายค่าเสียหายให้กับนักลงทุน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าคำสัญญาจะไม่มีความหมาย เพราะว่านักลงทุนบางส่วนยังไม่ได้รับค่าเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียว โดยนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือลงทุนใน Safemoon ซึ่งในส่วนนี้ถ้าหากว่าทาง Bitmart  ไม่ยอมออกมาแก้ไขปัญหาทางนักลงทุนก็จะเริ่มต้นฟ้องคดีกับทาง Exchange ดังกล่าวด้วย 

ในระหว่างนี้นักลงทุนหลายรายก็ได้มีการโพสต์ในทวิตเตอร์และติดแฮชแท็ก  #WenBitMart เพื่อเป็นการประท้วงให้ Bitmart รีบเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็วมากที่สุด และยังมีนักลงทุนบางส่วนที่ได้มีการติดต่อไปทาง Bitmart แต่ก็ไม่มีการตอบรับใด ๆ กลับมา ซึ่งการละเลยถึงปัญหาในคราวนี้ทำให้ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่า Bitmart จะมีการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับนักลงทุนอย่างไรและนักลงทุนจะได้เงินประเภทใดเป็นผลตอบแทนจะเป็นเงินสกุล Fiat หรือว่าเป็นเหรียญที่ถูกแฮกออกไป

การลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่นั้นถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงมาก ถ้าได้ติดตามข่าวมาโดยตลอดจะเห็นได้ว่ามีหลายครั้งหลายคราวที่มีผู้ไม่หวังดีแฮกเข้ามาเพื่อโจรกรรมเงิน ซึ่งหลาย ๆ คนก็สูญเสียไปเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะว่าเป็นสกุลเงินที่อยู่ในโลกของอินเตอร์เน็ตดังนั้นถ้ามีช่องโหว่เพียงเล็กน้อยก็ทำให้สามารถถูกโจมตีได้อย่างง่ายดายเลย ที่จะลงทุนในเงินดิจิตอลหรือคริปโตเคอเรนซี่ได้นั้นมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องศึกษาหาความรู้วิธีการที่ปลอดภัยเพื่อรักษาทรัพย์สินของเราให้ได้มากที่สุดและยิ่งไปกว่านั้นเราควรเลือกแพลตฟอร์มที่ใช้ในการลงทุนให้ปลอดภัยให้ได้มากที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ในโลกไร้พรมแดนของคริปโตเคอเรนซี่นั้นมีช่องโหว่มากมายให้แฮกเกอร์โจมตีการหมั่นเข้าเช็คเงินที่เรานำไปลงทุนเป็นประจำก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้หลีกเลี่ยงความเสียหายได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก The Verge 

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Stable Coin คืออะไร เหตุใดจึงสำคัญ

Stable Coin

Stable Coin เป็นเงินดิจิตอลประเภทหนึ่งที่ราคาไม่มีความผันผวน

ในช่วงปลายปีอย่างนี้ตลาดคริปโตเคอเรนซี่หรือเงินดิจิตอลก็กลับมาเป็นกระแสดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่อีกครั้งหลังจากที่เคยเป็นที่นิยมและเป็นที่ถูกพูดถึงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งสำหรับตลาดในประเทศไทยเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้นทำให้ กระแสในคริปโตประเทศไทยบูมมากขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว มีคนจำนวนมากมายที่ได้กำไรจากการที่ราคาเหรียญพุ่งขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าต้นเดือนธันวาคมนี้ จะกลายเป็นเรื่องที่เลวร้ายสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่หรือคนที่เพิ่งเข้ามาในวงการเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมราคาของ Bitcoin ลดลงมาถึงราคาเกือบถึง 1,600,000 บาท ทำให้ราคาเหรียญอื่นๆ ลดลงตามมาและนักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้าซื้อที่ราคาแพงสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก และด้วยกาแฟที่ได้รับความนิยมเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนทำให้มีคนหลายคนกู้เงินออกมาเล่นเพื่อหวังผลกำไรแต่แล้วก็ต้องสูญเสียเงินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ด้วยความผันผวนของตลาดทำให้เราจำเป็นที่จะต้องรู้จัก Stable Coin

Stable Coin เป็นเงินดิจิตอลประเภทหนึ่งที่ราคาไม่มีความผันผวน เพราะว่าเป็นเหลี่ยมที่มีเงินดอลล่าค้ำอยู่ทำให้ราคาเหรียญจะเท่ากับเงินสกุลดอลลาร์ของสหรัฐนั้นเอง ซึ่งเป็นเหรียญที่เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่เป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะว่ามีความเสี่ยงต่ำเป็นอย่างมาก และตาม Exchange ต่าง ๆ ของต่างประเทศก็ใช้ Stable Coin ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอลสกุลอื่น ๆ ด้วย

ด้วยความที่เป็นเหรียญที่ไม่มีความผันผวนทำให้เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่ชอบความเสี่ยงแต่อยากลงทุนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งกว่าจะได้กำไรไม่เยอะในช่วงที่ราคาขึ้นแต่อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุนเยอะเช่นกันในช่วงที่ราคาตลาดเป็นขาลง นอกจากนี้ในช่วงที่เหรียญอื่น ๆ ในตลาดมีการปรับตัวลงอย่างรุนแรง Stable Coin

สามารถใช้ในประคองพอร์ตของเราไม่ให้ขาดทุนได้ดีมากเลยทีเดียว แถมให้ช่วงที่ราคาของเหรียญในตลาดเป็นขาลง นักลงทุนหลาย ๆ คนใช้ Stable Coin ในการพักเหรียญเพื่อรอเวลาที่ตลาดจะกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ทำให้มีโอกาสที่เรียก Stable Coin จะมีราคาพุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดเป็นขาลง ตัวอย่างเช่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงที่ Bitcoin มีราคาลดลง เหรียญ USDT ซึ่งเป็นเหรียญ Stable Coin มีราคาสูงขึ้นจาก 34 บาทเป็น 36 บาทเลยทีเดียว

นอกจากมีเรื่องของการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญต่างๆ ในตลาดแล้ว Stable Coin ยังใช้เป็นเหรียญในการลดความเสี่ยงของแพลตฟอร์ม DeFi อีกด้วย เพราะเป็นเหรียญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่อง impermanent loss ได้ดีอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับเหรียญ Stable Coin ที่นิยมใช้ในปัจจุบันนี้ก็คือ USDT, USDC, BUSD และ DAI

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Bitcoin กลับมาแล้วหลังจากราคาร่วงไปเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์

Bitcoin

Bitcoin หนึ่งในนามสกุลดิจิตอลที่กำลังถูกจับตามองจากทั่วทุกมุมโลกในปัจจุบันนี้เกี่ยวกับสถานะรวมไปถึงการใช้งานของตัว Bitcoin หลายคนให้สถานะเป็นทองในโลกดิจิตอล หลายคนบอกว่าจะมาเป็นตัวกลางที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในโลกอนาคต จากการตื่นตัวดังกล่าวนี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากสนใจที่จะหันมาลงทุนในเงินดิจิตอลอย่าง Bitcoin ซึ่งมันก็ส่งผลให้ราคาของเหรียญเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกันและในปัจจุบันก็มีนักลงทุนรายใหญ่หันมาลงทุนกันเป็นจำนวนมากทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Bitcoin กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเราไปแล้ว

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาราคาของ Bitcoin ได้เริ่มปรับตัวลง หลังจากมีข่าวต่าง ๆ มากมายที่ส่งผลเสียต่อ Bitcoin ตัวอย่างเช่น รักสิ่งแวดล้อมออกมากังวลว่าการขุด Bitcoin นั้นจะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม elon musk ออกมากล่าวหลังจากซื้อ Bitcoin ไปได้ไม่นานว่าราคาพุ่งสูงขึ้น หรือแม้กระทั่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาออกมาบอกว่า Bitcoin ยังไม่สามารถใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนได้ ซึ่งเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็วจาก 1 ล้าน 7 แสนกว่าบาทลงมาถึง 1 ล้าน 4 แสนกว่าบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในช่วงที่ราคานั้นได้ปรับตัวลงมาผู้คนส่วนมากก็ยังมีความเชื่อว่า Bitcoin จะยังสามารถมีบทบาทในอนาคตได้ และนั่นก็ส่งผลให้ราคาของ Bitcoin กลับมามีราคาเหนือ 1 ล้าน 7 แสนบาทอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 11 มีนาคมนี้ แล้วมูลค่าค่าของ Bitcoin ก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกในช่วงเวลาหลังจากนี้ 

ด้วยความเสี่ยงที่ราคาของ Bitcoin มีความผันผวนอย่างรวดเร็วทำให้ในหลาย ๆ ประเทศจำเป็นต้องออกกฎหมายเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อควบคุมการลงทุนและเพื่อดูแลนักลงทุนไม่ให้เผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่มากเกินไป ซึ่งก็เป็นผลดีกับนักลงทุน แต่กฎเกณฑ์ของแต่ละประเทศนั้นก็ต้องเหมาะสมด้วยเช่นเดียวกันเพราะถ้าหากว่ามีกดที่แข็งมากไปก็จะทำให้ส่งผลเสียต่อนักลงทุนรวยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การขุด Bitcoin นั้นถือว่ายังส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมด้วย อย่างไรก็ตามมูลค่าของ Bitcoin ยังอยู่ในทิศทางบวก ในหลาย ๆ ประเทศอนุญาตให้มีการทดลองชำระสินค้าและบริการด้วย Bitcoin แล้ว 

#Bitcoin , #ธุรกิจ , #การลงทุน , #marketing , #มาร์เก็ตติ่ง , #mee-money.com

ภาพจาก Canva

การขุด Bitcoin ถูกระงับในเขตปกครองมองโกเลีย

Bitcoin

การลงทุนในทรัพย์สินดิจิตอลนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นกระแสอยู่ในปัจจุบันนี้เนื่องจากถูกพูดถึงโดยผู้นำทางด้านเทคโนโลยีหลายคนและบริษัทยักษ์ใหญ่หลายเจ้านั้นตัดสินใจที่จะหันมาลงทุน  Bitcoin หลังจากที่ภาวะเงินเฟ้อนั้นมีมากเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทของตัวเองและเป็นการป้องกันเงินเฟ้อ ซึ่งจากกระแสดังกล่าวทำให้  Bitcoin นั้นมีมูลค่าสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาและดึงดูดรายย่อยให้เข้ามาลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน

ถึงแม้ว่าจะมีนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยหันมาลงทุน  Bitcoin มากขึ้นแต่อย่างไรก็ตามในหลาย ๆ ประเทศ  Bitcoin นั้นก็ยังไม่ได้ถูกยอมรับ 100% สำหรับการมี  Bitcoinเป็นของตัวเองนั้นสามารถทำได้ 2 วิธี วิธีแรกคือการซื้อจาก Exchange ที่เปิดให้บริการ และอีกวิธีหนึ่งก็คือการขุด bitcoin ซึ่งสิ่งที่จำเป็นก็คือการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพ แล้วจะวิธีที่ 2 ที่ได้กล่าวมานี้เองที่เป็นวิธีที่จะทำให้ได้  Bitcoin มาโดยฟรีแล้วไม่ต้องเสียเงินเพียงแค่มีคอมพิวเตอร์หรือการ์ดจอเพียงแค่ 1 ตัวเพียงแค่เท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้คนที่มีเงินทุนก็จะใช้การ์ดจอหลายตัวในการขุด  Bitcoin และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการใช้พลังงานมหาศาล ขณะนี้เขตปกครองมองโกเลียในประเทศจีนได้สั่งระงับการขุด Bitcoin เป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากการใช้พลังงานมหาศาลนี่เอง และสาเหตุที่เขตปกครองมองโกเลียเป็นแหล่งการขุด  Bitcoin ก็เพราะว่าค่าใช้จ่ายนั้นถูกกว่าบริเวณอื่น ๆ นั่นเอง นอกจากเขตปกครองมองโกเลียแล้วยังมีเขตปกครองอื่น ๆ ที่ใช้เป็นแหล่งในการขุด  Bitcoinไม่ว่าจะเป็น มณฑลเสฉวน และ เขตปกครองตัวเองซินเจียง 

การขุด  Bitcoin ก็ทำให้นักสิ่งแวดล้อมหลายคนออกมาเป็นห่วงเรื่องความไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโลก ถึงแม้ว่าตัวของสกุลเงิน Bitcoin จะมีข้อดีในตัวของมันแต่มันก็มีข้อเสียด้วยเช่นเดียวกันทำให้มีหลายคนนั้นยอมรับเงินสกุล  Bitcoin จนถึงขั้นสามารถแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ยอมรับว่าเงินสกุลดิจิตอลอย่าง bitcoin นั้นจะมาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้จริง ทิศทางของเงินดิจิตอลจะเป็นอย่างไรนั้นก็คงต้องติดตามดูกันในอนาคต และก็มีทางออกอื่น ๆ อีกไหมที่จะทำให้การได้มาซึ่ง bitcoin นั้นไม่ส่งผลกระทบต่อโลกของเรา 

#การขุดBitcoin , #Bitcoin , #การลงทุน , #marketing , #มาร์เก็ตติ่ง , #mee-money.com

ข้อมูลจาก Prachachat.net

“อีลอน มัสก์” ประกาศสามารถใช้ “Bitcoin” ซื้อสินค้าเทสล่าได้

อีลอน มัสก์ประกาศสามารถใช้ Bitcoin ซื้อสินค้าเทสล่าได้

ในช่วงนี้วงการขอเงินสกุลดิจิตอลนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงกันอย่างวงกว้างเลยทีเดียวทั้งในแง่ของการลงทุนเพื่อเก็งกำไรหรือทั้งในแง่ของการใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาข่าวที่ดังที่สุดเกี่ยวกับวงการเงินสกุลดิจิตอลอย่าง Bitcoin นั้นก็คือการที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเทสล่านั้นได้ประกาศว่าได้ลงทุนใน Bitcoin และทันทีทันใดที่ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปราคาของ Bitcoin ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างทันตาเห็น

ถึงแม้ว่าในตอนนี้ราคาของ Bitcoin จะปรับตัวลงมาจากจุดสูงสุดและยังไม่เลือกทิศทางว่าจะขึ้นหรือลง แต่ว่ากระแสของมันก็ยังคงอยู่ตลอดเวลา และล่าสุดบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเทสล่าที่มีอีลอน มัสก์เป็นเจ้าของและเป็นผู้จุดกระแส Bitcoin เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่ารับชำระในการซื้อสินค้าด้วยเงินสกุลดิจิตอลอย่าง Bitcoin และต้องเสียค่าธรรมเนียมขั้นต่ำจำนวน 100 ดอลลาร์สหรัฐ

การที่อิลอน มัสก์ประกาศให้สามารถชำระเงินผ่าน Bitcoin ได้ คงทำให้ Bitcoin และเงินสกุลดิจิตอลอื่น ๆ เป็นที่ยอมรับมากขึ้นอย่างแน่นอนเลยทีเดียว หลังจากที่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเงินสกุลดิจิตอลนั้นได้ถูกโจมตีจากหลากหลายคนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นบิล เกตส์ที่มีจุดยืนที่แน่ชัดว่าตัวของเขานั้นไม่สนับสนุน Bitcoin เนื่องจากเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม หรือรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ออกมาบอกว่า Bitcoin นั้นยังไม่สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนได้เนื่องจาก Bitcoin นั้นยังไม่สามารถจับต้องได้

อย่างไรก็ตามสกุลเงินดิจิตอลนั้นเป็นสิ่งที่เพิ่งเกิดมาใหม่ ยังคงต้องใช้เวลาในการศึกษา ในอนาคตคงจะมีทางออกให้กับเงินสกุลดิจิตอลมากขึ้นอย่างแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และเมื่อหาจุดลงตัวของความเห็นที่แตกต่างกันได้แล้วไม่แน่ Bitcoin อาจจะกลายมาเป็นตัวกลางที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประเทศที่ทุกคนให้การยอมรับก็เป็นได้ ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ต้องจับตามองก็คือหลังจากที่ข่าวในคราวนี้ถูกแพร่กระจายออกไปราคาของ Bitcoin จะปรับตัวสูงขึ้นไหม

Cr.ภาพ : Siamblockchain , Wikimedia

ติดตามบทความ Guรู้ การเงิน ในทุกสัปดาห์ได้ที่ mee-money.com

Bitcoin ทำราคาสูงสุดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2021

bitcoin
bitcoin

เข้าสู่ปี 2021 ที่โลกนั้นดูเหมือนว่าจะหมุนไวไปอย่างมากนับตั้งแต่เข้ามาสู่ยุคของอินเทอร์เน็ตหลาย ๆ อย่างได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องการเงินการลงทุนที่ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิตอลนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทในการลงทุนระยะสั้น เมื่อพูดถึงเงินสกุลดิจิตอลเงินสกุลแรกที่ทุกคนมักจะนึกถึงก็คือ Bitcoin  ซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมาราคาต่อ 1 เหรียญก็พุ่งสูงขึ้นอยู่ตลอด และในช่วงรอยต่อของปี 2020 จนถึงปี 2021 กระแสของ Bitcoin นั้นก็พุ่งสูงเป็นอย่างมากนับตั้งแต่ราคาของ bitcoin ทะลุ 1 ล้านบาทและต่อมาก็ได้มีข่าวการลงทุนของเทสล่าบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลกนั้นมาลงทุนใน bitcoin ทำให้ตอนนี้มูลค่าของ bitcoin นั้นพุ่งสูงถึง 1.5 ล้านบาท เป็นเวลาเพียงไม่ถึง 1 เดือนก็ทำราคาสูงสุดมา ประมาณ 4 ครั้งแล้ว จนตอนนี้หลายคนที่ไม่ใช่นักลงทุนรายใหญ่ก็คงหันมาสนใจที่จะลงทุนใน Cryptocurrency

bitcoin1

ถึงแม้ว่าในช่วงเดือนมกราคมจนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่ตลาดของเงินดิจิตอลนั้นเป็นจุดสนใจและทำให้ราคาของBitcoin และ สกุลเงินหลาย ๆ สกุลเงินมีราคาที่สูงขึ้นและนักลงทุนต่างพากันเก็บโกยกำไรไปได้จำนวนมาก อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นเงินสกุลดิจิตอลและยังไม่มีเงินปันผลทำให้ลักษณะในการลงทุนเป็นการเก็งกำไรเสียมากกว่า ในตอนนี้ทุกสกุลเงินในระยะสั้นยังอยู่ในช่วงที่ราคานั้นลดลงและถ้าหากเป็นนักลงทุนมือใหม่อาจจะขาดทุนได้ถ้าหากว่าตัดสินใจที่จะมาลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลตอนนี้

bitcoin การลงทุน
bitcoin2

ดังนั้นจึงฝากนักลงทุนที่กำลังสนใจในการลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลอย่างBitcoin นั้นควรศึกษาวิธีการลงทุนให้ดีเสียก่อนและถ้าหากได้ลองลงทุนแล้วช่วงแรกขออย่าให้ใช้เงินจำนวนทั้งหมดที่มีในการเล่นเพราะว่าการลงทุนมีความเสี่ยง รวมถึงราคาของเงินสกุลดิจิตอลและมีความผันผวนสูง ทำให้ได้กำไรเยอะรวมถึงขาดทุนเยอะเช่นเดียวกัน แต่ในทิศทางเดียวกันนั้นสำหรับอนาคตของเงินสกุลดิจิตอลมีท่าทีที่จะมีอนาคตที่ดีมากเลยทีเดียวตอนนี้นักลงทุนรายใหญ่หลาย ๆ รายก็กำลังหันมาสนใจ ต่อจากบริษัทเทสล่าก็มีข่าวดีเกี่ยวกับบริษัทของ Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและใหญ่ของโลกนั้นกำลังสนใจที่จะหันมาลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน

Tag: #bitcoin, #การลงทุน, #mee-money.com, #Guรู้การเงิน