การออมเงินในปัจจุบันมีได้หลายช่องทางมากเลยทีเดียว ไม่ว่าคุณจะทำงานเกี่ยวกับการเงินมาหลายปีหรือเพิ่งเริ่มต้น ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าเมื่อใดที่คุณควรออมและควรลงทุนเมื่อใด การออมเป็นเส้นทางทางการเงินที่ปลอดภัยกว่า เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วจำนวนเงินที่มีในบัญชีธนาคารของคุณจะไม่ลดลง เว้นแต่คุณจะถอนเงินหรือเอาไปจ่ายสินค้าและบริการผ่านแอปธนาคารหรือบัตรเครดิต แต่อัตราดอกเบี้ยในบัญชีออมทรัพย์จะไม่ค่อยให้เงินของคุณเติบโตอย่างรวดเร็วนัก น่าเสียดายที่อัตราดอกเบี้ยมักจะต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหมายความว่าเงินออมของคุณอาจสูญเสียกำลังซื้อเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆ ปี และสถานการณ์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง

หลายคนสับสนกันมากระหว่างออมทรัพย์กับการลงทุน มักจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่จริงๆ แล้ว ออมทรัพย์กับลงทุนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งนักลงทุนมือใหม่หลายคนไม่เข้าใจว่าการออมเงินเพื่อการออมทรัพย์ กับการลงทุนเงินเป็นสิ่งที่แตกต่างกันที่เป้าหมายของการออม รวมถึงผลตอบแทน ความเสี่ยงของสองอย่างนี่แหล่ะ พวกเขามีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันและมีบทบาทที่แตกต่างกันในกลยุทธ์ทางการเงินและงบดุลของคุณ ซึ่งจะต้องศึกษาค้นคว้าข้อมูลให้แน่ใจว่าคุณมีความชัดเจนในแนวคิดพื้นฐานนี้ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นการเดินทางไปสู่การสร้างความมั่งคั่ง และการค้นหาความเป็นอิสระทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญเพราะสามารถช่วยคุณจากความเสียใจและความเครียดได้มากมาย (เพราะไม่มีใครอยากกังวลเรื่องเงินไปตลอดชีวิต) ในกรณีที่เป็นการลงทุน คุณยังสามารถรับความเสี่ยงได้มากพอที่จะสูญเสีย (ถ้าได้มาซึ่งความคุ้มค่า เช่น สินทรัพย์การลงทุนที่ให้เงินหมุนเวียน) ได้ แม้จะมีพอร์ตการลงทุนที่ยอดเยี่ยม เพราะคุณไม่เห็นคุณค่าของเงินสดในพอร์ตการลงทุนของคุณ เงินสดสมควรได้รับการเก็บรักษาและมีการเติบโตอยู่ตลอดเวลา เป้าหมายของเงินสดอาจจะไม่ใช่เพื่อสร้างผลตอบแทนให้คุณเสมอไป ถ้าเราไม่รู้วิธีการลงทุนที่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งนัก
เอาง่ายๆ คือ อยากได้ผลตอบแทนระยะสั้นให้ไปที่ออมทรัพย์ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนธุรกรรมทางการเงินได้ตลอดเวลา ดอกเบี้ยรายปี ไม่ว่าจะฝากเงิน ถอนเงิน ส่วนการลงทุนจะเน้นเป้าหมายระยะยาวมากกว่า ซึ่งจะมีความเสี่ยงซึ่งต้องรับได้ในการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้การเทรดหุ้น ก็เป็นการทำในรูปแบบของการลงทุนรูปแบบหนึ่ง

จะสรุปได้ว่าการลงทุนทำให้เงินของคุณมีศักยภาพที่จะเติบโตได้เร็วกว่าที่สามารถทำได้ในบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งออมทรัพย์จะมีดอกเบี้ยเป็นอัตราตอบแทน ซึ่งต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของธนาคารนั้นๆ หากคุณมีเวลานานจนกว่าคุณจะต้องบรรลุเป้าหมายผลตอบแทนของคุณจะทบต้น โดยทั่วไปนี่หมายความว่านอกเหนือจากอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นรายได้จากการลงทุนของคุณจะได้รับเงินเมื่อเวลาผ่านไป
#ธุรกิจ #การออมเงิน #การเงิน # การลงทุน #GUรู็ การเงิน #mee-money.com