เคล็ดลับในการลงทุน

การลงทุน

เก็บเงินล้านแรกด้วยการลงทุน

การจะเก็บเงินล้านแรกไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่มีความมุ่งมั่นและความอดทนต่อเป้าหมายที่ชัดเจนและลงมือทำตามเป้าหมายเท่านั้น ถึงจะสามารถประสบความสำเร็จด้านการเงินได้ วันนี้เรามีเคล็ดลับในการเก็บเงินล้านแรกมาฝากกันไปดูกันเลย

1.เปลี่ยนmind set หรือวิธีคิด เป็นออมก่อน จ่ายทีหลัง เราต้องมีเงินเหลือเก็บทุกเดือน โดยเราจะตัดเงินออมผ่านบัญชีธนาคารเป็นประจำ สะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กอช เป็นกองทุนการออมเงิน เพื่อผู้ที่ทำอาชีพอิสระ หรือ ฟรีแลนซ์ นักธุรกิจ ผู้ที่มีสิทธิ์ออม อายุ 15-60 ปีขึ้นไป ส่งเงินสะสม ผ่านแอพลิเคชั่นของกอช.หรือ ธ.ออมสิน ธ.ก.ส. ธ.กรุงไทย ไม่จำเป็นต้องส่งเงินออมทุกเดือน ไม่จำเป็นต้องส่งเงินจำนวนเท่าๆกัน แถมรัฐบาลยังมีจ่ายเงินสมทบให้ ตามช่วงอายุ ถ้าอายุ 15-30 ปีจะเพิ่มเงินสมทบให้คุณไม่เกิน 600 บ./ปี  ถ้าอายุมากกว่า 30-50 ปี จะจ่ายเงินสมทบ 960 บ./ปี อายุ 50 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 1200 บ./ปี มีสิทธิ์ได้รับเงินสมทบ เมื่ออายุครบ 60 ปี และเสียชีวิต ถ้าลาออกจากกองทุนก่อนครบกำหนดอายุ จะไม่ได้รับเงินสมทบ /ประกันสังคม / กบข. เป็นกองทุนออมเงินสำหรับราชการ มีแผนให้เลือกลงทุนหลากหลาย เพื่อชีวิตยามเกษียณของเรา และลดความเสี่ยงด้วยการออมเงินผ่านประกันชีวิต 

2.ลงทุนเพิ่มมูลค่า ให้ตัวเอง อย่าหยุดที่จะพัฒนาความสามารถของตนเอง เราต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองในทุกๆวัน เก่งขึ้นวันละ 1% อย่างสม่ำเสมอ เพราะการเรียนรู้ จะช่วยสร้างประสบการณ์ การที่เรามีประสบการณ์สูงนั้น ได้เปรียบกว่าคนที่ได้เกียรตินิยมเสียอีก อย่างน้อยก็เป็นบทเรียนชีวิตให้พัฒนาตัวเองต่อไป

4. การลงทุนที่ดี   การบริหารชีวิตได้แบบองค์รวม การลงทุนที่ดี เราจะต้องมีความสุขในการใช้ชีวิตด้วย ทั้งสุขภาพกายและใจ ความสัมพันธ์ในครอบครัวและคนรอบข้าง รวมถึงมีเวลาทำงานอดิเรก ได้ทำงานที่ตนเองรักด้วย บางครั้งผลตอบแทนที่คุ้มค่าอาจไม่ได้มาในรูปแบบของเงินเสมอไป แต่ความสุขและความทรงจำดีๆ ก็นับเป็นกำไรของชีวิตที่มีค่ามหาศาลแล้ว

เป้าหมายทางด้านการเงิน เป็นเป้าหมายที่หลายๆคน ตั้งไว้ช่วงปีใหม่ เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว อย่าลืมลงมือทำ และใส่ใจคนรอบข้างด้วยนะคะ เหมือนที่บางคนเคยบอกว่า อย่าลืมชมดอกไม้ข้างทาง เราอาจจะไปถึงเป้าหมายช้าหน่อย แต่ระหว่างทางเดินของเรานั้นเรามีความสุขกับมัน เพราะบางครั้ง เราอาจจะไปถึงเป้าหมายแล้ว จะกลับมาดูดอกไม้ข้างทางก็สายเกินไปซะแล้ว

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

วิธีลงทุน ETF

ETF

ETF คืออะไร มีดีอย่างไร

ETF คืออะไร แล้วมันแตกต่างจากการซื้อหุ้นอย่างไร หลายคนคงสงสัยกันใช่ไหมคะ ก็ตอนนี้ETFเป็นการลงทุนที่นิยมในปัจจุบัน ETF เปรียบเสมือนหุ้นรวมกับกองทุนรวม ที่สามารถกระจายความเสี่ยงได้ ไม่เหมือนการซื้อหุ้นรายตัว ถ้าซื้อETFของต่างประเทศจะมีตัวเลือกมากกว่าในไทย แต่หาซื้อยาก ต้องอาศัยโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือทำการซื้อขายETFแทนเรา วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ ETF ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า

ETF มีดีอย่างไร ทำไมถึงนิยมลงทุน

ETF เป็นการนำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ในกองทุนเปิด เหมือนกับหุ้นตัวหนึ่งที่ซื้อ-ขายได้แบบReal-Time ผ่านโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ พร้อมเสียค่าใช้จ่ายค่านายหน้าให้ หรือซื้อผ่านบริษัทหลักทรัพย์  ช่วงเวลาซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดจำนวนขั้นต่ำในการซื้อขาย คือ 100 หน่วย  มีข้อดีตรงที่ สามารถกระจายการลงทุนได้  มีผู้บริหารกองทุน มีผู้ดูแลสภาพคล่อง ทำให้ราคาซื้อ-ขายในสภาวะตลาดนั้นเป็นไปตามดัชนี การขายETF จะเป็นแบบ T+2หรือจะได้รับเงินหลังทำการการขาย 2 วัน  ผลตอบแทนที่ได้อยู่ในรูปแบบของเงินปันผลหรือส่วนต่างของราคาซื้อขาย หากซื้อช่วงที่ราคาตก แล้วราคา  ETF ขึ้นในภายหลัง เราจะได้กำไรจากส่วนนี้ค่ะ แต่การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง จากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน แต่เราสามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนได้จากความรู้และประสบการณ์ของเรา การซื้อ-ขาย ETF ต้องรู้จักคำศัพท์เหล่านี้ คือ มูลค่าของเงินลงทุนทั้งหมดหักกับค่าใช้จ่ายต่างๆ กลายเป็นค่า NAV ซึ่งค่านี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามสภาวะตลาดในแต่ละวัน   มูลค่าหน่วยลงทุนที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบReal-Timeในระหว่างวันเพื่อให้เราตัดสินใจลงทุน หรือที่เรียกกันว่าค่า iNAV  ส่วนราคาตาม Trading Price เป็นราคาที่นักลงทุนใช้ซื้อขายกันบนกระดานเทรดนั่นเอง

ในไทย สามารถแบ่งประเภทของ ETF ได้ ดังนี้

1. Index ETF  ได้แก่ 1DIV เป็นหุ้นปันผลสูง 30 ตัวแรก,  TH100 ลงทุนหุ้นไทย SET100,   BMSCG เป็นการลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก,  BMSCITH ลงทุนในหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติชอบลงทุน

2. Sector ETF เป็นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างหุ้นกลุ่มธุรกิจธนาคารหรือ EBANK หุ้นพลังงานหรือ ENGY & ENY

3. Foreign ETF เป็น ETF ลงทุนในหุ้นจีน CSI300

4. Gold ETF เป็น เป็น ETF ลงทุนในทองคำแท่ง 99.5%

5. Bond ETF เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ไทยและพันธบัตรไทย อย่าง ABFTH

ETF เป็นการลงทุนในกองทุนเปิด ที่ซื้อขายได้แบบReal-Time เพราะรู้ราคาซื้อขายทันที ซื้อขายง่าย มีสภาพคล่อง กระจายความเสี่ยงได้ โดยใช้เงินลงทุนน้อยคล้ายกับการลงทุนในกองทุนรวม แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นลงทุนใน ETF เราต้องศึกษาหาความรู้ มีพื้นฐานการลงทุนที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับเรา

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

การลงทุนที่ได้รับความสนใจในยุคโควิด 19

การลงทุน

การลงทุนของเศรษฐกิจไทย ที่ได้รับความสนใจในยุคโควิด 19

เนื่องด้วยกระแสการลงทุนของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมาซบเซาและมีความผันผวนอย่างต่อเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้หลายคนเริ่มเก็บออมเพื่อนำมาลงทุนกันมากขึ้น ธุรกิจต่างๆมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เช่น การทำงานที่บ้าน การปรับเปลี่ยนการทำงานต่างๆ

หลายคนจึงได้ศึกษาการลงทุนให้เงินทำงานแทน ซึ่งหลายคนไม่คนอาจจะยังไม่ทราบว่า การลงทุนในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงและให้ผลการตอบแทนที่แตกต่างกันไป 

1. การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น หรือตราสารเงิน

ทิศทางการลงทุนอัตราผลตอบแทนในช่วงที่เหลือของปี 2564 นี้ อัตราดอกเบี้ยระยะกลางและยาวจะทรงตัว  รอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อมาสนับสนุน หลังจากที่ปรับขึ้นมาเมื่อเกิดการระบาดของไวรัสโควิด 19อย่างต่อเนื่องเหมาะสำหรับนักลงทุนต้องการกระจายความเสี่ยง ต้องการลดความผันผวนในพอร์ตการลงทุน  การพักเงินไว้ในตราสารหนี้ระยะสั้นจะตอบโจทย์สำหรับคนที่ที่ต้องการผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากในบัญชีธนาคาร และมีความเสี่ยงต่ำ

2. การลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้ระยะยาว

2.1 การลงทุนในพันธบัตร

เป็นตราสารหนี้ประเภทหนึ่งที่รัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ออก มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ มีความเสี่ยงต่ำ เมือเราซื้อพันธบัตร รัฐบาลก็จะให้เงินปันผลเรา ซึ่งรัฐบาลได้ออกรุ่นพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่นเราชนะและพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่นยิ่งออมยิ่งได้ มาเพื่อให้ประชาชนได้ออมในพันธบัตรที่ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากในบัญชีธนาคาร และให้ผลตอบแทนปีละ 2ครั้ง

2.2 หุ้นกู้ระยะยาว

เป็นตราสารหนี้ระยะยาวที่ออกโดยบริษัทเอกชน เพื่อระดมเงินจากนักลงทุนไปใช้ในการดำเนินกิจการ หุ้นกู้เป็นตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล และมีความเสี่ยงมากกว่าจากการผู้ออกอาจผิดนัดชำระหนี้ อัตราผลตอบแทนขึ้นอยู่กับระดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้และผลกำไรที่ได้รับ

การลงทุนที่ได้รับความสนใจต่อมาคือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเศรษฐกิจทั่วโลกมีความผันผวน รวมถึงไทยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมนั้นมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุน เพราะว่ามีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลสูงอยู่เสมอและประกอบกับนโยบายของรัฐที่มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทำให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

กับดักของการลงทุนในประเทศไทย

การลงทุน

กับดักของการลงทุนในประเทศไทยในช่วงการระบาดของโควิด  19

จากการลงทุนของนักลงทุนที่ผ่านมา มีการลงทุนน้อยลงในตลาดหลักทรัพย์ของไทย และมีการระดมทุนเพื่อลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและสอดรับกับการใช้ชีวิตยุค New Normal,เทคโนโลยี,พลังงานทางเลือก ส่วนนักลงทุนต่างชาติแหล่งที่มาของ เงินลงทุนที่ได้รับต่างชาติมีอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่มาจาก ประเทศจีน รองลงมา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด 19 จะมีสัดส่วนการลงทุนที่น้อยลงเมือเทียบกับปีอื่นๆที่ผ่านมา

สาเหตุหลักที่ไทยยังติดอยู่ใน “กับดักการลงทุน” 

1.กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอจากปัญหาเศรษฐกิจที่นักท่องเที่ยวหายไปทำให้ไม่มีรายได้เข้าประเทศ หนี้ครัวเรือนที่สูงเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด 19

ธุรกิจในไทยไม่ว่าธุรกิจส่งออกหรือธุรกิจรายย่อยต่างๆได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากการลอกดาวน์ที่ผ่านมา ทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ปัญหาหนี้นอกระบบได้ส่งผลต่อประชาชนในวงกว้าง นักลงทุนส่วนใหญ่จะดูการขยายตัวของการบริโภคและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว แต่ในช่วงที่ผ่านมากำลังซื้อลดลงมีผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างมาก 

2.การขาดแคลนแรงงานคุณภาพ โดยเฉพาะแรงงานทักษะสูงด้านวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ เทคโนโลยี และการแพทย์ 

แรงงานไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด 19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายภาคส่วนยุติลงชั่วคราว รวมทั้งการลงทุนในธุรกิจต่างๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นคนว่างงาน รายได้ประชาชนหดหาย ปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั้งด้านปริมาณและคุณภาพได้ถูกกล่าวถึงอย่างมากและมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาทางโครงสร้างที่จะส่งผลต่อการเป็นแรงงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อความสามารถในการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศในระยะยาว เพราะเมือเราขาดแรงงานตามความต้องการของตลาดไป จะส่งผลถึงการทำงานท่อาจจะเกิดปัญหาในอนาคต

3.ปัจจัยเชิงสถาบัน โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้นโยบายรัฐขาดความต่อเนื่อง และ ปัญหาการคอร์รัปชั่น

ของไทยซึ่งเป็นพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อหน้าที่รับผิดชอบ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนร่วม เป็นพฤติกรรมของบุคคลที่ฉ้อฉลต่อความไว้วางใจของสังคม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง การใช้อำนาจที่ไม่ชอบ ซึ่งส่งผลกระทบโดยร่วม

4. ทิศทางการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ ที่นักลงทุนออกไปหาโอกาสในตลาดต่างประเทศมากขึ้น

ในช่วงเวลาของการระบาดของโควิด 19 นักลงทุนไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ่นเนื่งอจาก กระจายความเสี่ยง มองหาโอกาสการลงทุน ข้อมูลในช่วงปีที่ผ่านม ตลาดหุ้นแห่งประเทศไทยให้ผลตอบแทนน้อยกว่าตลาดหุ้นในประเทศอื่น ในช่วง 7 ปีหลังสุดดัชนีตลาดหุ้นไทยเติบโตช้าเมือเทียบกับประเทศอื่น ดัชนีของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียโดยรวมโตขึ้นกว่า เห็นได้จาก ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยไม่มีรับความสนใจในการลงทุนเท่าที่ควร เพราะด้วยปัจจัยหลายอย่างที่อ่อนแอทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ช้า 

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ส่องเทรนด์การลงทุน ในยุค New normal

การลงทุน

ส่องเทรนด์การลงทุน ในยุค New normal ที่ได้รับความสนใจ

หลายๆคนอาจจะมองหาการลงทุนที่ธุรกิจสามารถให้ผลกำไรในอนาคตจากการเปลี่ยนแปลงของการโลก ช่วงเวลาที่ผ่านมานักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า ราคาน้ำมันในอนาคตอาจปรับตัวลดลง แต่ในปัจจุบันการลงทุนเป็นทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากในธนาคาร การลงทุนในหุ้น หรือกองทุนที่เป็นทางเลือกการลงทุนในอนาคต เช่น หมวดพลังงาน ก็ให้ผลตอบแทนที่สูงมาก สามารถเอาชนะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมและทางเลือกใหม่สามารถเติบโตในอนาคตได้ เราจะมาแนะนำการลงทุนในอนาคตที่

การลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการลงทุนมาใหม่ (ESG)

 จากการเปลี่ยนแปลงที่ผู้ประกอบการจะให้ความสำคัญส่วนใหญ่กับกำไรที่จะได้รับ แต่ปัจจุบันได้มีการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจที่ต้องมีการคำนึงสิ่งแวดล้อม,สังคม,ธรรมาภิบาลและผลกระทบที่มาจากกระบวนการผลิต

นักลงทุนส่วนมากหันมาสนใจผลกระทบของการลงทุนมากขึ้นและบทบาทของสินทรัพย์ เช่น ผลกระทบทางด้านสภาพภูมิอากาศ โดยแต่ละกองทุนจะมีนโยบายการลงทุนที่ให้ความสำคัญทางด้านสภาพแวดล้อม 

การเลือกลงทุนในหุ้น กองทุนในกลุ่มพลังงานทดแทน

ประเทศไทยได้พัฒนาเริ่มหันมาใช้พลังงานทดแทนซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่มาผลิตไฟฟ้า เพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และยังช่วยลดสาเหตุภาวะโลกร้อน นักลงทุนได้หันมาสนใจพลังงานทางเลือกใหม่สำหรับอนาคตข้างหน้า โดยจากการสำรวจจากหลายๆบลจ.ที่ได้มีการออกกองทุนดังกล่าวมากขึ้นในช่วงนี้โดยรวมมีเหตุผลที่คล้ายคลึงกันและเป็นมุมมองเชิงบวกในกลุ่มพลังงานดังกล่าว สาเหตุหลักๆคือ สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ในหลายประเทศเกิดความร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวมากขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนในนโยบายสีเขียว ของ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน อีกด้วย ซึ่งเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะราคาน้ำมันที่มีความผันผวนและในอนาคตจะปรับตัวลดลงจากการเปลี่ยนแปลงของโลก

การเลือกลงทุนกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม

จากโรคระบาดของเชื้อโควิด 19 เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทกับโลกเพิ่มมากขึ้น และกลายเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันส่งผลให้พฤติกรรมของทุกคนเปลี่ยนไปการลงทุนกองทุนในนวัตกรรมอินเตอร์เน็ตยุคใหม่ ดิจิตอลแพลตฟอร์ม และ cloud นักลงทุนจะได้ผลประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน ของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะอยู่รอบตัวเรา และใช้เทคโนโลยีในการดำรงชีวิตอยู่แล้ว

การลงทุนในบิทคอยน์ 

บิตคอยน์คือ สกุลดิจิทัลที่สามารถโอนย้ายผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยผ่านระบบของบล็อกเชนและสามารถโอนเงินผ่านเครือข่ายทางอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาควบคุมเงินของรัฐเพื่อ ในปัจจุบันบิทคอยน์กำลังเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น และล่าสุดเราก็ได้มีบมจ.ที่เป็นการลงทุนในบิทคอยน์มาให้เลือกลงทุนแล้ว

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง 
เวปไซด์ mee-money.com

“กัญชาและกัญชง” ธุรกิจใหม่ไฟแรงที่มีแนวโน้มเติบโต

กัญชา

สารเสพติดสิ่งที่ทั่วทั้งโลกไม่ให้การยอมรับรวมถึงในประเทศไทยด้วย เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่สามารถทำลายชีวิตของคน 1 คนให้พังได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในโลกของปัจจุบันสารเสพติดบางชนิดได้ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการแพทย์ที่เราสามารถบอกได้ว่าสารเสพติดสามารถนำมาทำประโยชน์อะไรได้บ้าง อย่างแรกที่เราเห็นเลยก็คือนำมาเป็นยาในการรักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งก็ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อที่จะไม่ให้เสพติด โดยหนึ่งในสารเสพติดที่ใช้ในการรักษาก็คือใบกัญชงและกัญชา

กัญชา

กัญชงและกัญชามีสรรพคุณทางด้านการแพทย์หลายด้านและเป็นประโยชน์อย่างมากทำให้ประเทศไทยปลดกัญชาออกจากสารเสพติด และสามารถให้ปลูกเพื่อที่จะสร้างรายได้ได้ โดย 1 บ้านสามารถปลูกได้ 6 ต้น หลังจากที่รัฐบาลทำการปลดล็อคให้สามารถปลูกกัญชาและกัญชงได้ ทำให้พืชอย่างกัญชาและกัญชงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทย ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศได้

ปัจจุบันนั้นกัญชาก็ถูกนำไปทำประโยชน์ในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยารักษาโรค ซึ่งก็ผลักดันให้ธุรกิจกัญชาในประเทศไทยนั้นเติบโตมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน และทันทีทันใดที่รัฐบาลประกาศปลดล็อคให้สามารถปลูกจำหน่ายนำเข้าและส่งออกกัญชาและกัญชงได้ทำให้บริษัทหลากหลายบริษัทนั้นเริ่มดำเนินวางแผนที่จะนำพืชกัญชามาทำเป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อทำให้ธุรกิจของตนเองเติบโตและหนึ่งในนั้นก็คือบริษัทศรีตรังที่เป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ ที่มีแผนการที่จะปลูกกัญชงและกัญชาเพื่อนำมาสกัดน้ำมัน CBD รวมถึงมีบริษัทอื่น ๆ อีกมากมายเช่นเดียวกันที่สนใจ

กัญชา

จากสารเสพติดกลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ไฟแรงของประเทศไทยทำให้ดึงดูดนักลงทุนหันมาลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับกัญชงและกัญชาและนั่นก็ทำให้หุ้นของบริษัทศรีตรังนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเลยทีเดียว ต้องติดตามดูกันว่ากัญชาและกัญชงสามารถนำมาทำประโยชน์อะไรอื่น ๆ ได้อีกหรือไม่และจะมีแนวโน้มทางด้านธุรกิจอย่างไรในประเทศไทย

กัญชา

TAG #กัญชา #ธุรกิจ #การลงทุน #พืชเศรษฐกิจใหม่ #marketing #มาร์เก็ตติ่ง #mee-money.com

ภาพทั้งหมดจาก Canva

ข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ, ประชาชาติธุรกิจ

บริษัท Microstrategy ซื้อ bitcoin ในมูลค่า 1 พันล้าน

Microstrategy

Bitcoin เงินสกุลดิจิตอลที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในปัจจุบันนี้ในด้านการลงทุนเพื่อทำกำไรรวมถึงใช้หลีกเลี่ยงเงินเฟ้อที่มีอยู่ทั่วโลกในปัจจุบันทำให้ Bitcoin นั้นกลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาในช่วงเดือนที่ผ่านมาเลยทีเดียว โดยสาเหตุที่ราคาขึ้นเยอะขนาดนี้นั่นก็มีเหตุผลมาจากการที่นักลงทุนรายใหญ่หันมาลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลมากขึ้นนั่นเองและหนึ่งในผู้นำทางด้านการลงทุนในนามสกุลดิจิตอลอย่าง Bitcoin ก็คือ Microstrategy

bitcoin2

Microstrategy เป็นบริษัทที่ให้บริการทางด้านระบบการทำธุรกิจบนระบบ Cloud ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พุทธศักราช 2532 และบริษัท Microstrategy เป็นบริษัทแรกๆ ที่เข้ามาสนใจในเรื่องการลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลอย่าง Bitcoin ทำให้เงินสกุลดิจิตอลนั้นเริ่มกลายเป็นจุดสนใจและได้การยอมรับมากขึ้นแน่นอนว่าหลังจากนั้นก็มีบริษัทรายใหญ่หลายๆ หันมาลงทุนทางเลือกนี้เหมือนกันอย่างเช่น เทสล่า แต่หลังจากช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ bitcoin นั้นมีราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ นั้นเองราคาก็เหมือนจะปรับตัวลงหลังจากที่ผู้ที่เข้าซื้อ bitcoin คนล่าสุดที่เป็นข่าวที่ถูกจับตามองอย่างอีลอน มัสก์ได้ออกมาทวีตว่า Bitcoin มีราคาแพงไปราคาก็ดูเหมือนจะปรับตัวลง และการทวีตดังกล่าวนั้นก็ทำให้หุ้นของเทสล่าปรับตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในเงินสกุลดิจิตอลก็ยังเป็นจุดสนใจของนักลงทุนอยู่เช่นเดิมโดยบริษัท Microstrategy ได้ทุ่มเม็ดเงินถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเข้าซื้อ Bitcoin ตามการรายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมานี้ทำให้ตอนนี้บริษัท Microstrategy ข้อของ bitcoin มาถึง 90,531 เหรียญ

bitcoin3

ถึงแม้ว่าตอนนี้ Bitcoin จะถูกโจมตีในหลาย ๆ ด้านแต่ก็ยังมีนักลงทุนให้ความสนใจในการลงทุนอยู่ และการเข้าซื้อ Cryptocurrency ของบริษัท Microstrategy น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ Bitcion มีราคาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เพราะว่าหลังจากที่มีการปรับตัวลงดูเหมือนว่าเงินสกุลดิจิตอลอื่น ๆ นั้นก็จะมีการปรับตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน แต่ว่าในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลที่เท่านั้นก็กลับมาคึกคักและทำให้เงินสกุลดิจิตอลจำนวนมากขึ้นสู่แดนบวกอีกครั้ง

bitcoin

Tag #Bitcoin #Microstrategy #Cryptocurrency #GUรู็ การเงิน #mee-money.com

Cr.Pixabay

ข้อมูลจาก Bitcoin.com

KPI สำคัญอย่างไร เมื่อลูกค้า สนใจแต่ ROI

KPI ROI

คำถามแรกเลยของการทำการตลาด KPI สำคัญอย่างไร คุณตั้งKPIกันไว้อย่างไร แล้วทำตามได้ไหม วันนี้ผมเอามาขยายให้ฟังกันครับ แล้วลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจในความตั้งใจในส่วนนี้ไหม ผมบอกเลยว่าทุกคนมองหาแต่ ROIครับ แล้ว ROI นี่ล่ะคืออะไร มารู้จักพร้อมๆกันไปเลยครับ

kpi

KPI นั้นหมายถึง Key Performance Indicator แปลกันตรงๆตัวเลยก็คือ ตัวชี้วัด ดัชนีชี้วัด ในการทำงานที่เราประมวลผลมาเป็นตัวเลขได้ หรือเรียกให้สั้นๆลงก็ ตัวบ่งชี้ ดัชนีชี้วัด แล้วแต่ถนัดเรียกกัน แล้วมันมีความสำคัญอย่างไรล่ะ ในแง่ของการตลาดเราต้องการตัวเลขเพื่อวัดค่าความสำเร็จอย่างหนึ่งอย่างใด ผลลัพธ์ที่จะต้องสามารถบ่งวัดเป็นตัวเลขได้  เวลาเราตั้งความมุ่งมั่นในการทำการตลาดจะได้เอามายืนยันให้ทีมงานที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกัน เข้าใจจากดัชนีเหล่านี้แล้วเราสามารถวางแผนดำเนินงานขั้นต่อไปได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ROI

มาถึงอีกคำครับ ROI หรือ Return on Investment แปลตรงๆตัวเลยก็คือ ผลตอบแทนจากการลงทุน เมื่อเราทำการตลาดไป ตัวนี้ชี้วัดอะไร ก็คือตัววัดความคุ้มค่าจากทุนที่เราใช้ ที่เราทุมเท ที่เราเสียลงไปครับ เช่นงบดุลในการทำโฆษณากับสื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ รวมถึงการติดตามผลทุกย่างเป็นการลงทุนที่เอามา คิดมูลค่าทั้งสิ้นแล้ววกกับมาตรวจดูถึงความคุ้มค่ากับเม็ดเงินทุนที่ลงไปหรือเสียไปแล้ว มีความคุ้มค่าคืนกลับมามากน้อยแค่ไหน เป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้หรือไม่

KPI และ ROI สองคำนี้ มักจะถูกนำมาพูดและทำงานร่วมกันครับ เมื่อการตลาดมาถึงจุดหนึ่งของการวางแผน ดัชนีชี้วัดมูลค่าของการตั้งค่าไว้ มันสัมพันธ์กับผลกำไรที่เราควรจะได้มาหรือไม่ หลายท่านที่ทำการตลาดมักจะพูดติดปากเลยกับเหล่าเอเจนซี่ที่มาขายงาน “คุณไม่ต้องเอาตัวเลขมาขายผม ผมแค่อยากรู้ว่าถ้าทำงานกับคุณแล้วผมจะได้กำไรเท่าไหร่” พูดภาษาการตลาดเลยก็ไม่ต้องเอาKPIมาพูดกับผม คุณสร้างROIได้แค่ไหนผมอยากฟังมากกว่า นี่ก็เป็นความสัมพันธ์ของความสำคัญจากคำทั้งคู่นี้ครับ

KPI ROI

ลูกค้าทั่วไปมักจะมองหาเรื่องของ ความคุ้มค่าของการลงทุน เข้าใจง่ายคือกำไรที่จะได้ แต่นักการตลาดจะคำนึงถึงองค์ประกอบใหญ่คือการสร้างแบรนด์ครับ การสร้างแบรนด์นี่แหละครับสำคัญ ลูกค้าจำเราได้ไหม จำเราเพราะอะไร รู้จักว่าเราเป็นยังไง เราสร้างตัวตนให้ลูกค้ารู้จักได้แค่ไหน นี่เป็นส่วนที่KPIจะเอามาสร้างการสนับสนุนจากดัชนีชี้วัดเหล่านี้ แล้วสุดท้ายพอลูกค้าซื้อสินค้าและได้ใช้บริการ จนเกิดความประทับใจแล้วซื้อซ้ำ ถึงเป็นเรื่องของความคุ้มค่าในการที่ลงทุนไปครับ เมื่อสัมพันธ์กันดังนี้จึงเข้าใจได้ครับว่าทั้ง KPI และ ROI มีความสำคัญกับนักการตลาดอย่างไร แล้วอันไหนควรสร้างให้แข็งแกร่งในแง่ของแบรนด์

Tag #KPI #Key Performance Indicator #ROI #Return on Investment #การตลาด #การลงทุน #การเงิน #marketing #มาร์เก็ตติ่ง #mee-money.com