Tag: #การตลาด

เมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคม จู่ๆรัฐบาลจีนก็ประกาศอนุญาตประชาชนให้มีลูกได้สามคนแล้ว

นโยบายลูกสองคนเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2015 อันที่จริงประชาชนจีนก็สามารถมีลูกได้มากกว่าสองคน แต่ถ้ามีลูกคนที่สามค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆจะสูงมาก เพราะรัฐจะตัดความช่วยเหลือ

แล้วทำไมจู่ๆ รัฐบาลจีนถึงเปลี่ยนใจ?

คำตอบอยู่ที่สำนักสถิติแห่งชาติ ที่ประกาศผลสำรวจสำมะโนประชากรปี 2020 ที่เพิ่งจะประกาศเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่าในปัจจุบันประชากรจีนอยู่ที่ 1.41 พันล้านคน โดยผลจากการประชากรปีละ 0.53% โดยเฉลี่ยนับจากปี 2010

แต่ถ้าดูจากปี 2013 เป็นฐาน ตัวเลขประชากรวัยทำงานที่หลักพันล้านคนเศษๆ ผลสำรวจปี 2020 เหลือเพียง 968 ล้านคน นั่นหมายความหดตัวลงไปถึง 38 ล้านคน

นั่นทำให้รัฐบาลจีนต้องคิดไวทำไว ออกประกาศให้มีลูกเพิ่มได้อีกหนึ่งคน เป็นสามคน

แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า มาตรการนี้อาจจะไม่ทันท่วงทีเสียแล้ว

แล้วมันสะเทือนเศรษฐกิจโลกยังไง?

ต้องไม่ลืมว่า จีนเป็นชาติที่ถูกขนานนามว่า โรงงานโลก ประมาณการกันหยาบๆว่า 20% ของกำลังผลิตของโลก คือ ประชากรวัยทำงานของจีน แล้วถ้าประชากรวัยทำงานของจีนลดลงอย่างกะทันหัน จะเกิดอะไรขึ้น?

อย่างแรกคือ ค่าแรงในจีน จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อคนขาดแคลน และจะส่งผลต่อเนื่องให้สินค้าที่เคยมีต้นทุนการผลิตต่ำก็จะมีต้นทุนสูงขึ้น และจะกระทบสมดุลเศรษฐกิจโลกทั้งหมด

อย่างที่สอง คือ เงินเฟ้อ เมื่อคนจำนวนมากเข้าสู่วัยชราพร้อมกัน และนำเงินออกมาจับจ่ายโดยที่ไม่ได้ผลิตเพิ่มเติม แน่นอนส่วนหนึ่งต้องดึงมาจากกองทุนประกันสังคมที่พวกเขาสมทบมาตลอดชีวิต

แล้วรัฐบาลจีนไม่รู้หรือ?

แน่นอนว่า พวกเขาต้องรู้ดีอยู่แล้ว

มีสิ่งที่เราเห็นกับตาอยู่แล้วว่า รัฐบาลจีนกำลังหาทางชดเชยปัญหาวัยทำงานลดคนสูงวัยเพิ่ม ด้วยการ..

ในเมื่อคลังเงินสำรองของจีนนั้นมั่งคั่งที่สุดในโลกใน เวลาสิบปีที่ผ่านมา การปล่อยกู้ให้กับประเทศอื่นๆ จะประกันได้ว่าจะมีดอกเบี้ยและเงินต้นในระยะยาวไหลกลับเข้าสู่ประเทศเพื่อเลี้ยงประชากรของตัวเองได้

ผลักดันให้เกิดการลงทุนในต่างประเทศ สนับสนุนประชาชนของตนเองอยู่ในบทบาทลูกจ้างชั้นสูง ผู้นำ หรือเจ้าของในธุรกิจใหญ่กลางและเล็กในประเทศอื่น

ดังนั้นการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และในประเทศอื่นๆ จีนจึงไม่รังเกียจที่จะตกลงให้คนในประเทศนั้นเป็นแรงงานถูก แล้วให้คนจีนเป็นแรงงานชั้นสูงค่าตัวแพง เพราะว่าคนของเขาเริ่มจะไม่พอแล้ว พอเสร็จงานก็คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสัญญาเรื่องพื้นที่ทำการค้าที่ได้เปรียบอีกต่อ

รัฐบาลจีนยังสนับสนุนกลุ่มอาลีบาบาที่เป็นหัวหอกในการทำเขตเศรษฐกิจเอกชนพิเศษนอกประเทศ ช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและเล็กในจีนให้กระจายสินค้าในเงื่อนไขที่ดีสุดๆ

และสุดท้ายถ้าหากเกิดขาดแคลนแรงงานขึ้นมาจริงๆ ก็นำคนงานจากประเทศที่เป็นลูกไล่ทั้งหลายเข้าไปเสริม

เห็นได้ชัดว่า เกมนี้จีนเล่นเป็น ส่วนใครเล่นไม่เป็นหรือไม่มีจะเล่น ก็รู้ๆกันอยู่

#ธุรกิจ #การตลาด #อุปสรรค #มาร์เก็ตติ่ง #mee-money.com

หลายๆพื้นที่ทั่วโลกโควิด-19 กำลังจะเป็นอดีต หรือไม่ก็เปลี่ยนสถานะจากโรคติดต่อที่คุกคามชีวิตเป็นโรคติดต่อประจำวัน

ทำให้หลายๆบริษัททั้งยักษ์ใหญ่ ยักษ์เล็ก เริ่มมองๆแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่จะนำเหล่าลูกจ้างกลับมาสู่การทำงานที่สำนักงานอีกครั้ง หลังจากที่ทำงานด้วยระบบสื่อสารทางไกลมาร่วมๆ 15 เดือน

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านทรัพยากรมนุษย์ หลายคนได้เริ่มออกมาเตือนบริษัททั้งหลายเกี่ยวกับการนำพนักงานกลับเข้าสู่การทำงานภาคปกติ

ยกตัวอย่างเช่น Apple ที่กำลังคิดเรื่องให้พนักงานเริ่มกลับมาทำงานที่บริษัท 3 วันต่อสัปดาห์

คำถามคือ แล้วบริษัทอย่าง  Apple หรือทุกบริษัทต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

ตัวเลขสถิติการลาออกของคนอเมริกันอาจเป็นคำตอบที่ดี เพราะในช่วงเวลานี้ที่หลายบริษัทเริ่มงานกันแบบปกติห้าวันต่อสัปดาห์ หรือ กำหนดวันเช่น Google ปรากฏว่า รายงานสถิติเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีตัวเลขลูกจ้างลาออกจากงานสูงมากเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี !

โรส เกลลี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมองค์กร  กล่าวว่า ช่วงเวลา 15 เดือนที่ทำงานอยู่บ้าน มันนานเพียงพอที่จะเปลี่ยนมุมมองของผู้คน และพนักงานของบริษัท พวกเขาเริ่มเห็นลักษณะการใช้ชีวิตแบบใหม่ๆ และเห็นความเป็นไปได้แบบใหม่ๆ และการกลับไปทำงานนั่งโต๊ะในออฟฟิศสัปดาห์ละห้าวันอาจไม่ใช่คำตอบของทุกคน

และเมื่อการทำงานรูปแบบเดิมไม่ตอบโจทย์ เหล่าพนักงานที่มีความสามารถพวกนี้ จึงเลือกที่จะออกจากงานและสามารถหางานใหม่ที่ได้ค่าแรงมากขึ้นด้วยจากศักยภาพใหม่ๆที่พวกเขามีอีกต่างหาก จึงเกิดปรากฏการณ์จำนวนพนักงานลาออกมากที่สุด ทั้งๆที่อยู่ในห้วงเวลาที่อัตราการว่างงานก็ยังสูงเช่นนี้

เหล่าบริษัททั้งหลาย หันมาใช้วิธีการรั้งพวกเขาด้วยการเสนอเงินเดือนสูงๆ หรือให้เงินสวัสดิการเพิ่ม  ผลคือ ไม่ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะเหล่าพนักงานที่มีทักษะความสามารถมีโอกาสที่ดีกว่า และสิ่งที่พวกเขาต้องการมากกว่าเงินคือเวลาที่ยืดหยุ่น งานที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์และความสนใจส่วนบุคคล

สำหรับบริษัทสิ่งที่ทำให้เป็นบริษัทอยู่ได้คือ พนักงาน (ไม่ใช่สถานที่) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานที่มีความสามารถสูง การเปลี่ยนตัวพนักงานที่จำเป็นในอัตราที่สูง ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมาก ทั้งค่าใช้จ่ายในการหาพนักงานใหม่ ค่าใช้จ่ายในการเทรนคน หรือในบางครั้งอาจทำให้ธุรกิจถึงขั้นหยุดชะงักไปเลยทีเดียว

จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บริษัทต่างๆต้องหวนกลับมาทบทวนนโยบายการทำงาน และหันมาสนใจการสร้างคุณค่าในองค์กรกันครั้งใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจเสียสมดุลจากการเสียพนักงานสำคัญๆมากเกินไป

หันมาดูในไทยเรา เหตุการณ์แบบนี้ยังคงไม่ได้เกิดขึ้นอีกพักใหญ่ หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลย เนื่องจากโอกาสที่ภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นยังมองไม่เห็นหรือต่อให้เห็นก็ไม่ชัด ดังนั้นพนักงานที่ยังมีงานทำอยู่มีแนวโน้มว่าจะเกาะเก้าอี้ตัวเองให้แน่นๆมากกว่า

จริงอยู่ที่หากคุณเก่งพอ  คุณจะเดินออกไปไหนก็ได้ แต่นั่นก็ต้องมีปัจจัยภายนอกด้วยเช่นกัน ที่ต้องมีโอกาสลอยอยู่ให้คว้าได้ หากว่า”โอกาส”ไม่มีแล้วก็ไม่มีสิ่งใดให้คว้าจับ คิดแล้วอดยินดีกับคนอเมริกัน ไม่ได้จริงๆ

#ธุรกิจ #การตลาด #อุปสรรค #มาร์เก็ตติ่ง #mee-money.com

ด้วยในปัจจุบันจะเห็นได้จากผู้ว่าจ้างและบริษัทต่างๆ รวมถึงบุคคลทั่วไป ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล และตระหนักถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ซีกไหนของโลกก็ตามที่กำลังมองหาวิธีเหมาะสม ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคลที่เป็นอาชีพอิสระจัดทำตารางเวลาของตนเอง และทำงานให้กับลูกค้าที่หลากหลาย หากคุณเป็นกูรูด้านการออกกำลังกายที่มีหัวทางด้านธุรกิจ นี่อาจเป็นแนวคิดที่เหมาะสำหรับคุณได้ดีเลยทีเดียว จะเห็นได้จากปัจจุบันเริ่มทำอาชีพเหล่านี้มากขึ้นในกลุ่มเด็กจบใหม่ หรือกลุ่มคนที่มีความชอบด้านออกกำลังกายและมีความรู้ด้านการตลาด ซึ่งสามารถงัดจุดเด่นของตนเองออกมา เพื่อโอกาสการทำมาหากินของตนเอง

การที่เราจะเป็นผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล จะต้องจบวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือมีการอบรมเทรนเนอร์และมีใบประกาศเพื่อยืนยันว่าคุณผ่านหลักสูตรนี้มา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ไม่เพียงแต่มีการฝึกอบรมส่วนบุคคลออนไลน์ในพื้นที่ดิจิทัลเท่านั้น แต่ตอนนี้ยังเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ลูกค้าของเรา ซึ่งมีหลายเคสขอให้เราช่วยเหลือแต่ไม่สามารถมาได้โดยตรง หรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยง หากคุณต้องการเริ่มต้นเป็นผู้ฝึกสอนส่วนบุคคลออนไลน์โดยเร็วที่สุด จะต้องมีความรู้ในเรื่องกายวิภาคศาสตร์มาหนาแน่นพอสมควร แต่การจะเอาดีทางนี้ควรเข้าใจข้อนี้ให้ชัดเจน

การฝึกอบรมส่วนบุคคลออนไลน์ทำตลาดได้ยากกว่า PT แบบตัวต่อตัวมาก การสร้างความไว้วางใจกับคนที่คุณอาจไม่เคยพบต้องใช้เวลาและพลังงานมากเพื่อที่จะรักษาลูกค้า

การเข้าถึงลูกค้าช้าลงมาก หากคุณสามารถหาลูกค้าใหม่ได้หนึ่งรายต่อสัปดาห์ในธุรกิจแบบตัวต่อตัวอาจเป็นหนึ่งรายต่อเดือนในฐานะผู้ฝึกสอนออนไลน์

การฝึกเทรนออกกำลังกายออนไลน์ใช้เวลาและความพยายามไม่น้อย โดยปกติแล้วคุณจะใช้เวลาทั้งหมดในการฝึกอบรมลูกค้าแบบตัวต่อตัว การตลาดของตนเอง การสนับสนุนการรักษาลูกค้าและการเขียนโปรแกรมสำหรับลูกค้าออนไลน์

การเป็นเทรนเนอร์ออนไลน์นั้นไม่ใช้ทั้งเรื่องง่ายและเรื่องยาก แต่ต้องมีประสบการณ์อย่างน้อยหนึ่งปีในการเขียนโปรแกรมการออกกำลังกายกับลูกค้าแบบตัวต่อตัว นี่คือสิ่งที่ต้องทำ หากคุณไม่สามารถฝึกผู้คนเมื่อพวกเขาอยู่ต่อหน้าคุณแสดงว่าคุณไม่มีประสบการณ์เพียงพอที่จะฝึกคนออนไลน์ วุฒิการศึกษาหรือที่อบรมมาอาจไม่เพียงพอ จะเห็นได้จาก PT ส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยวิธีการทางการตลาดที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเนื่องจากมีเวลามากกว่าเงินในช่วงเริ่มต้น ด้วยเหตุนี้หากคุณเริ่มต้นธุรกิจการฝึกอบรมส่วนบุคคลออนไลน์จากการฝึกอบรมแบบตัวต่อตัวคุณอาจมีผู้ชมที่มีอยู่เพื่อทำการตลาดและอาจจะมีเงินเพื่อลงทุนและทำงานกับกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายได้เพื่อเป็นธุรกิจของคุณเอง

#ธุรกิจ #อาชีพ #ออนไลน์ #การตลาด #มาร์เก็ตติ่ง #mee-money.com

Virtual assistant หรือผู้ช่วยเสมือน เป็นอีกธุรกิจที่สามารถทำได้ในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นได้ทั้งอาชีพและธุรกิจในคนเดียวกันเพียงแค่มีแพลตฟอร์มในการดำเนินงานที่ชัดเจน เช่น Zoom, Email, Social Media รวมถึงการวางแผนการดำเนินงานที่บ้านในช่วง COVID-19 ซึ่งเรียกได้ว่าใครทำธุรกิจประเภทนี้ ปลอดภัยต่อการทำงานและสมดุลในเวลางานได้มากที่สุดในเวลาเดียวกัน นิยามของผู้ช่วยเสมือนคือผู้รับเหมาอิสระที่ให้บริการด้านการดูแลระบบแก่ลูกค้าขณะปฏิบัติงานนอกสำนักงานของลูกค้า โดยทั่วไปผู้ช่วยเสมือนจะทำงานจากสำนักงานที่บ้าน แต่สามารถเข้าถึงเอกสารการวางแผนที่จำเป็น เช่น ปฏิทินที่แชร์จากระยะไกลได้ การประชุมผ่านวีดีโอคอล

ส่วนมากกลุ่มที่เป็นธุรกิจแบบ Virtual assistant จะทำเพื่อการวางแผนเสียมากกว่า หากคุณเป็นคนทำงานประเภทใดประเภทหนึ่ง ที่ประกาศตัวเองว่ามีความสามารถพิเศษในการจัดองค์กร อย่าปล่อยให้ทักษะและคุณลักษณะเฉพาะของคุณสูญเปล่า การเป็นผู้ช่วยเสมือนเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทุกคนที่ชอบจัดการงานธุรกิจประจำวันจากโฮมออฟฟิศ (Work From Home) ที่สะดวกสบาย ซึ่งคุณสามารถรับหน้าที่หลายอย่างของเจ้าของธุรกิจทั่วไป เช่น การสนับสนุนลูกค้า การบริการลูกค้า และการสร้างเนื้อหา Content นั้นๆ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ลูกค้าของคุณมุ่งเน้นไปที่ทักษะและความสนใจของตนเอง ขึ้นอยู่กับความสนใจและจุดแข็งของคุณ แล้วจะพบว่าผู้ประกอบการจำนวนมากกำลังมองหาใครบางคนที่มีเป้าหมายเช่นนั้นอยู่ เช่น ถ้ากรณีมีคนสนใจด้านลดน้ำหนักและสุขภาพ เขาจะมาหาคุณเพื่อลดน้ำหนักนั่นเอง

ผู้ช่วยเสมือนคือพนักงานที่ทำงานด้วยตนเอง ซึ่งเชี่ยวชาญในการนำเสนอบริการด้านการดูแลระบบให้กับลูกค้า จากสถานที่ห่างไกลโดยปกติจะเป็นสำนักงานที่บ้าน

ขอบเขตของงานทั่วไปที่ผู้ช่วยเสมือน อาจดำเนินการได้ด้วยตนเอง ได้แก่ การจัดตารางนัดหมายการโทรศัพท์ การเตรียมการเดินทาง และการจัดการบัญชีอีเมล

แต่ในขณะเดียวกันผู้ช่วยเสมือนบางคนมีความเชี่ยวชาญในการนำเสนอที่ชำนาญเฉพาะ เช่น การออกแบบกราฟิก การเขียนบล็อก การทำบัญชีโซเชียลมีเดีย และบริการด้านการตลาด

ผู้ที่รับจ้างเป็นผู้ช่วยเสมือน สำหรับผู้ว่าจ้างมีข้อดีอย่างหนึ่งของการจ้างผู้ช่วยเสมือน คือความยืดหยุ่นในการทำสัญญาเฉพาะบริการที่พวกเขาต้องการ และยืดหยุ่นต่อการทำงานอย่างมาก

สำหรับลูกค้าข้อดีอย่างหนึ่งของการจ้างผู้ช่วยเสมือนคือความยืดหยุ่นในการทำสัญญาเฉพาะบริการที่พวกเขาต้องการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของข้อตกลง ผู้ช่วยเสมือนบางคนอาจได้รับเงินตามงานแทนที่จะเป็นรายชั่วโมง รายจ๊อบ ในทางตรงกันข้ามพนักงานในสำนักงานแบบเดิมมักจะต้องได้รับค่าจ้างตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนดต่อวัน ส่วนสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก การจ้างผู้ช่วยเสมือนสามารถช่วยให้พวกเขามีเวลาว่างอันมีค่าเพื่อมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของธุรกิจและสร้างรายได้ อาจเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่ากว่าในการจ้างงานภายนอกที่น่าเบื่อและใช้เวลานานสำหรับคนที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งใครคิดจะมาทางนี้ ควรค่าแก่การมาอย่างมาก และเป็นสายที่ไม่สู่ขิตอย่างแน่นอน

#ธุรกิจ #อาชีพ #ออนไลน์ #การตลาด #มาร์เก็ตติ่ง #mee-money.com