หุ้น เป็นสิ่งที่แสดงความเป็นเจ้าของกิจการหนึ่งที่เราเข้าไปซื้อ เวลาที่เราซื้อหุ้นจะคาดหวังกำไรจากสองทาง คือ เงินปันผล และส่วนต่างราคาเวลาที่เราขาย หากมือใหม่สนใจสามารถไปเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งแต่ละบล.ก็มีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายแทนเราไม่กี่เปอร์เซ็นต์ การซื้อหุ้นนั้น ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อหุ้น แต่คนส่วนใหญ่จะซื้อหุ้นครั้งละ 100 บาท ยิ่งจะลงทุนในหุ้นราคาสูงต้องมีเงินซัพพอร์ตเยอะหน่อย วันนี้เราจะพาทุกคนมาวิเคราะห์หุ้นดีๆ
Cr.pic; www.freepik.com
หลายคนคงรู้จักการลงทุน 3 แบบ 3 สไตล์ ทั้งสายtechnical momentum fundamentalจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักลงทุนจึงควรรู้จักตัวเองก่อนรู้จักการลงทุนในหุ้น โดยวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับการลงทุนสายfundamental นักลงทุนประเภทนี้ต้องเป็นคนใจเย็น อดทน จิตใจมั่นคง ไม่หวั่นไหวกับความผันผวน ยอมรับความเสี่ยงได้พอสมควร เพราะผลประกอบการทั้งกำไร ขาดทุนนั้นไม่สะท้อนออกมาทางราคาหุ้นได้ในไม่กี่วัน เสมอไป การลงทุนที่มีแนวทางชัดเจนจึงเป็นเรื่องสำคัญ แล้วเราจะขายหุ้นประเภทนี้ได้เมื่อไหร่ เราจะขายเมื่อราคาหุ้นแพงเกินมูลค่าจริง ขายเมื่อเจอหุ้นตัวใหม่ที่มีโอกาสเติบโตมากกว่า ขายเมื่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง
ศึกษาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพ เช่น ความได้เปรียบด้านการตลาด ความต้องการของผู้บริโภค การแข่งขัน และศึกษาปัจจัยเชิงปริมาณ ได้แก่ อัตราส่วนทางการเงิน งบการเงิน งบกำไรขาดทุน งบดุล งบกระแสเงินสด และควรติดตามผลประกอบการอย่างสม่ำเสมอ
Cr.pic; www.freepik.com
การคัดเลือกหุ้นสำหรับสายพื้นฐาน หรือ สายVI แบบง่ายๆที่มือใหม่ก็ทำได้
– คนเราไม่ได้ถนัดไปซะทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นคัดหุ้นอุตสหกรรมที่เราไม่ถนัดออกไป เราควรฝึกวิเคราะห์หุ้นที่เราถนัดก่อน หุ้นที่เราเข้าใจ เราสามารถนำไปวิเคราะห์และต่อยอดกับอุตสาหกรรมอื่นได้ ถ้าหลังจากเราคัดกรองหุ้น
– นอกจากหุ้นที่คุณต้องทำการวิเคราะห์ และคัดเลือกหุ้นที่ดีที่สุดในสภวาวะตลาดนั้นแล้ว คุณต้องดูงบการเงินให้เป็นเช่นกัน เราจะคัดหุ้นที่เราถนัดโดยดูงบการเงิน ซึ่งประกอบไปด้วย 3 งบ งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด และงบแสดงฐานะการเงิน สิ่งที่เราต้องดูให้ละเอียดเป็นพิเศษ นั่นคือหนี้สิน รายได้ กำไรสุทธิ และราคาหุ้นไม่แพงเกินไป
Cr.pic; www.freepik.com
การวิเคราะห์หุ้นแบบ Top Down Analysis เป็นเทคนิคกการวิเคราะห์หุ้นจากบนลงล่าง หรือจากภาพใหญ่ไปภาพเล็ก
1.การที่เราวิเคราะห์ภาพรวมสภาวะเศรษฐกิจของหุ้นตัวนั้น รวมถึงวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งเศรษฐกิจของไทยและโลก โดยเราต้องรับฟังข่าวสารที่น่าเชื่อถือ อ่านบทวิเคราะห์หุ้นบ้าง
2.ศึกษาอุตสาหกรรมของหุ้นตัวนั้นเพื่อเฟ้นหาหุ้นพื้นฐานดี มีอุตสาหกรรมใดที่คาดว่าจะเป็นขาขึ้นในสภาวะตลาดนั้น ประเมินการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม เปรียบเทียบแต่ละอุตสาหกรรม
3.วิเคราะห์บริษัท วิเคราะห์บริษัทที่น่าลงทุน วิเคราะห์ทั้งคุณภาพ คือ การวิเคราะห์โอกาสการเติบโต ความสามารถ ความน่าเชื่อถือ แนวโน้มตลาด และการวิเคราะห์ปริมาณ ปริมาณในที่นี้หมายถึงงบการเงิน วิเคราะห์จากงบการเงิน งบกำไรขาดทุน งบดุล หรือความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน
การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เริ่มจากการมี mindset ที่ดี คือไม่หลงเชื่อความคิดเห็นคนอื่นมากไป ลงทุนตามความรู้ที่เรามี อย่าลงทุนเกินความสามารถตัวเอง ลงทุนในหุ้น จะต้องลงทุนระยะยาวแบบVI หาหุ้นที่พื้นฐานดี และราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ลงทุนตามเป้าหมาย ถ้าเป้าหมายคือการเกร็งกำไร ก็ต้องศึกษาวิธีวิเคราะห์กราฟสวยๆ
ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook
