คริปโตเคอเรนซี เป็นเหรียญดิจิทัลที่คนรุ่นใหม่นิยมลงทุนในยุคดิจิตอล เพราะได้ผลตอบแทนเร็วที่สุด ทำให้เป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก แต่มีความเสี่ยงสูงมากกว่าสินทรัพย์อย่างอื่น แต่ถึงแม้จะมีความผันผวนสูง ก็ไม่มีใครอยากพลาดโอกาสในการลงทุน วันนี้เราจะมาแชร์วิธีลงทุนคริปโตในระยะยาวกัน

Cr.pic; https://kasikornbank.com/th/personal/the-wisdom/articles/Pages/Wealth-Product_July_2019.aspx
1. การจัดพอร์ตลงทุนที่เรายอมรับความเสี่ยงได้
การจัดพอร์ตขึ้นอยู่กับเรา ว่าเรายอมรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน รวมถึงอายุและประสบการณ์ จัดการความเสี่ยงด้วยการวางแผนลงทุนสินทรัพย์ตามระดับความเสี่ยงของสินทรัพย์ อย่างเช่น น.ส.ดาว อายุ 22 ปี พึ่งเริ่มทำงานปีแรก มีเงินสำรองฉุกเฉินอยู่ 6 เท่าของรายจ่าย สามารถลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ได้ 10% กองทุนรวมอื่นๆ เช่น สายสุขภาพ 20% และหุ้น 70% หากใครที่ยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น อาจเพิ่มสัดส่วนเงินลงทุน เพราะการบริหารความเสี่ยงเป็นสำคัญพอๆกับการนำเงินไปลงทุนให้ถูกสินทรัพย์

Cr.pic; https://www.brandbuffet.in.th/2021/12/crypto-summary-2021/
2. เลือกลงทุนกับเหรียญคริปโตที่มีคนเทรดเยอะ เพราะสำหรับมือใหม่ และคนที่ต้องการลงทุนระยะยาว ควรเลือกเหรียญที่มีมูลค่าการลงทุนจำนวนมาก จำนวนคนเทรดเยอะยิ่งทำให้ราคาของเหรียญมีการขึ้น-ลงเสมอ เนื่องจากเหรียญที่มีคนเทรดน้อย นานวันเข้ามูลค่าของเหรียญอาจลดลง เช่น เหรียญบิทคอยน์ และกระจายความเสี่ยง ด้วยการเลือกเหรียญที่มีมูลค่าทางการตลาดระดับท็อป1-5
Cr.pic; https://pr.postjung.com/1263182
3. การลงทุนระยะยาว ต้องใจเเข็ง แม้ขาดทุน อาจต้องถือครองเหรียญต่อ สำหรับใครที่ต้ดสินใจลงสายออมระยะยาวแล้วหล่ะก็ นอกจากเตรียมเงินให้พร้อมแล้ว ยังต้องเตรียมใจด้วย ทั้งอดทนและใจเเข็งพอที่จะไม่ขายทิ้ง มีความเชื่อมั่นในเหรียญที่เลือกลงทุนมากพอ
Cr.pic; https://servalbuild.com

4. เลือกใช้กลยุทธ์การลงทุนระยะยาวที่เหมาะสมกัยเรา เช่น เทคนิค Dollar Cost Average หรือที่เราคุ้นหูกันดีว่า DCA การซื้อสินทรัพย์เป็นรายเดือน รายปี โดยใช้เงินลงทุนที่มีจำนวนเท่ากันทุกเดือน ลงทุนอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่เรากำหนด ข้อดีของการลงทุนประเภทนี้ คือ เราไม่ใช้อารมณ์มาช่วยในการตัดสินใจลงทุน เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลา ช่วยฝึกนิสัยรักการออม ใช้เงินลงทุนจำนวนไม่มาก เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เทคนิคValue Average หรือ VA เป็นอีกหนทางการลงทุนที่ต่างจากDCA ตรงที่ลงทุนรายเดือนด้วยจำนวนเงินที่ไม่เท่ากัน เพราะแต่ละเดือนต้องลงทุนให้เงินต้นงอกเงยขึ้นตามเป้าหมายแต่ละเดือน ซึ่งต่างจากการDCA ที่ไม่สนใจว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน แต่เมื่อมาทบทวนมูลค่าพอร์ตแล้วทุก3-6เดือน
แล้ว มูลค่าพอร์ตโดยรวมควรเป็นไปตามเป้าหมายการลงทุน หากไม่เป็นไปตามนั้น จะมีการปรับสัดส่วนของสินทรัพย์ที่ลงทุน ซึ่งการ VA จะให้ความสำคัญกับการซื้อ-ขายสินทรัพย์ มูลค่าสินทรัพย์ที่ปรับขึ้นและปรับลง เช่น ถ้าเหรียญนั้นมูลค่าลดลง ทำให้พอร์ตโดยรวมมีมูลค่าลดลง อาจซื้อเพิ่มเพื่อให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากเดือนแรกเป็นเท่าตัว หรือถ้าเหรียญมูลค่าเพิ่มขึ้น อาจขายทิ้งเพื่อรักษามูลค่าพอร์ตไม่ให้ได้กำไรมากเกินเป้าหมาย จะได้ผลตอบแทนมากขึ้นทุกๆเดือน และปรับมูลค่าพอร์ตให้ตรงตามเป้าหมาย
การลงทุนในสินทรัพย์ทุกอย่างมีความเสี่ยง เราจะสามารถลงทุนได้ตามเป้าหมาย ขึ้นอยู่กับการที่เราบริหารความเสี่ยง และการเลือกสินทรัพย์การลงทุน เราหวังว่าทั้งสี่ข้อที่เราได้แนะนำ จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ
ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook