ทำไมต้องควรรู้เกี่ยวกับการเงินในทุกๆช่วงอายุ

การเงิน

สำหรับการเงิน จะมาใช้คำว่า อายุเป็นเพียงตัวเลข คงไม่ได้ เพราะอายุเท่าไหร่ก็ต้องมีความรู้ด้านการเงิน ไม่ว่าจะเกิดหรือตาย ไม่มีตอนไหนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน และในความจริงของชีวิต คนเรามีเวลาหาเงินแค่ในช่วงอายุ 20-60 ปีเท่านั้น

ดูเหมือนนานแต่ก็หาเงินได้ไม่พอสักที  ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่จนมาถึงเราก็ยังไม่พอ  ดังนั้นเรื่องการเงินจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับในทุกช่วงอายุ ดังนั้นมาลองวิเคราะห์กันว่าในแต่ละช่วงอายุเราควรรู้เกี่ยวกับเรื่องการเงินอย่างไรบ้าง

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่า คนที่มีความรู้ด้านการเงิน ไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือแล้วมีความรู้ด้านการเงิน แต่มันคือ คนที่มีความเฉลียวฉลาดด้านการเงิน ซึ่งตอนนี้เศรษฐีที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกคือ ไคลี่ เจนเนอร์  เป็นผู้หญิงที่มีอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น  ที่ยกตัวอย่างเธอคนนี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะชี้ให้เห็นว่า มีคนที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยในตอนอายุ 20 กว่าปีแล้ว เขาเริ่มทำงานกันแล้ว อย่างเช่น เถ้าแก่น้อยก็ร่ำรวยตอนอายุ 20 กว่า ๆ อายุ 20 บางคนเป็นเศรษฐี 1,000 ล้านก ในขณะที่บางคนยังเมาเหล้า ยังหมกมุ่นเรื่องความรักอยู่ ยังวนเวียนอยู่กับความรัก, เหล้า, เที่ยว ,เพื่อน ซึ่งอยากจะบอกว่าอายุเท่าไหร่ก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น จึงต้องมีความรู้เรื่องการเงิน 

อายุ 20 ปี เป็นช่วงอายุที่ได้เปรียบมาก ถ้าคุณเริ่มใส่ใจในเรื่องการเงินตั้งแต่วันนี้ และคุณอาจจะเกษียณได้ก่อนอายุ 60 ปี ซึ่งความรู้ด้านการเงิน 3 สิ่งหลักๆ ที่ทุกคนต้องมีคือ 1.เงินลงทุน 2.สิ่งตอบแทนและ 3.ระยะเวลา  คนอายุช่วง 20 ปีสิ่งที่คุณได้เปรียบมากที่สุดก็คือเรื่องของ ระยะเวลา จึงให้อยากมีทิศทางการเงินตั้งแต่วันนี้จะยอดเยี่ยมมาก  แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ อายุ 30 ,40 จะสายไปที่จะเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องการเงินนะ 

ความได้เปรียบของคนอายุ 20 หรือคนอายุน้อยที่เริ่มเรียนรู้เรื่องการเงิน ก็คือ คุณสามารถลองผิดลองถูกได้เยอะ คุณสามารถเสี่ยงได้มาก เพราะถ้าเจ๊งก็ยังสามารถหาเงินทุนใหม่ได้ ชีวิตคือการเดินทางระยะยาว ถ้าได้ทำอะไรหลายๆอย่าง ก็จะมีประสบการณ์ แม้บางอย่างจะทำแล้วไม่สำเร็จ มันก็คือบทเรียนที่ดี  เมื่ออายุ 30-40 จะสบายไหม? หรืออีก 10 ปีต่อจากนี้จะสบายไหม? ก็ขึ้นอยู่กับคุณเรียนรู้เรื่องการเงินในวันนี้ไว้อย่างไร?

ช่วงอายุ 30 ปี เป็นช่วงอายุที่คนส่วนใหญ่ทำงานกันมาประมาณ10 ปีแล้ว ถ้านับจากการจบปริญญาตรีตอนอายุ 21-22 ปี หรือถ้าจบปริญญาโทอายุ 25 ปี ก็ทำงานมา 5 ปี ซึ่งช่วงอายุนี้คุณมีรายได้ พร้อมๆกับมีภาระ เช่นผ่อนคอนโด ,ผ่อนบ้าน,ผ่อนรถ  บางคนแต่งงานมีลูกแล้ว ช่วงนี้ถ้าตั้งตัวได้เร็วก็สบายเร็ว การลองผิดลองถูกก็ยังทำได้อยู่ สำหรับคนอายุในช่วง 30 ปี สิ่งที่ต้องระวังในเรื่องการเงินคือ อย่าใช้ชีวิตหรูหราเกินความเป็นจริง แต่จงทำตัวเให้มีความแข็งแรงด้านการเงินไว้สำคัญที่สุด

ช่วงอายุ 40ปี ถ้าคุณเป็นพนักงานประจำในองค์กร อายุ 40 นี่ถือว่าค่อนข้างเยอะแล้ว โอกาสเปลี่ยนงานเริ่มน้อยลง ดังนั้นคนอายุ 40 เป็นช่วงที่มีโอกาสเปลี่ยนงานเป็นช่วงสุดท้ายแล้ว ถ้าเลือกที่จะอยู่องค์กรไหนหลังจาก 40 ก็ต้องอยู่ยาวจนจบ กรณีนี้เราพูดถึงกรณีที่เป็นพนักงานประจำ ช่วงเวลานี้เราเติบโตขึ้นทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ แต่ความกังวลก็มากขึ้นด้วย คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในช่วงอายุนี้ไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ แต่ก็มีบางคนที่เริ่มทำธุรกิจตอนอายุ 40-50  เช่น SAM WALTON เจ้าของธุรกิจ WALMART หรือ Ray  Kroc เจ้าของ MADONOALD’S ก็เริ่มต้นธุรกิจตอน 53 ปี  ที่ยกตัวอย่างมากล่าวนี้ เพื่อที่จะบอกว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้นที่จะเรียนรู้เรื่องการเงินแต่ถ้าวันนี้คุณอายุ 40 ปีและมาอ่านเจอบทความนี้ ขอให้คุณเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องการเงินตั้งแต่วันนี้ เพราะยังไม่สายไปที่จะเริ่มเรียนรู้แต่ต้องเร่งเรียนรู้อย่างเข้มข้น  และคนที่อายุ 20,30 ก็เช่นกัน ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะเป็นช่วงอายุที่ได้เปรียบที่สุดที่จะเริ่มเรียนรู้เรื่องการเงิน 

ขอยกตัวอย่างบุคคลหนึ่งในประเทศไทยคือ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ที่ก่อนหน้าจะมีเงินประมาณ 3-4 พันล้านบาทในปัจจุบัน เขา มีเงินเก็บอยู่  10 ล้าน ในปี 2540 ตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง  ดร.นิเวศน์ จึงเริ่มศึกษาเรื่องหุ้นอย่างจริงจังในช่วงอายุ 40-50 ปี เริ่มต้นเรียนรู้เรื่องหุ้นตอนอายุเยอะ ซึ่งปัจจุบันกร.นิเวศน์ อายุ 66 ปี

ดังนั้นถ้าวันนี้คุณอ่านบทความนี้อยู่ และคุณมีอายุน้อยกว่า ดร.นิเวศน์ แต่คุณเริ่มตั้งใจที่จะเรียนรู้เรื่องการเงิน ทำไมชีวิตคุณจะร่ำรวยไม่ได้ วันนี้ยังไม่สาย เริ่มตั้งแต่วันนี้กันเลยดีกว่า เพราะความรู้เรื่องการเงินสำคัญต่อชีวิตคุณในอนาคต

ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ GUรู็ การเงิน 
เวปไซด์ mee-money.com