ทำไมบางคนถึงสามารถดึงดูดความสำเร็จเข้ามาในชีวิตได้บ่อยๆ ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้มีฐานะทางการเงิน และโอกาสพิเศษกว่าคนอื่นๆเลย เขาเหล่านั้นมีความคิดที่แตกต่างๆจากคนทั่วไปอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย
อย่างแรกคือ คนสำเร็จมีความคิดไม่เหมือนคนทั่วไป เวลาที่เค้าคิดจะทำอะไรให้สำเร็จเขามักจะลบความคิดลบๆในหัวของตัวเองให้หมดไปได้ ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่คุณจะลงมือทำสิ่งใหม่ๆ พอคุณเจอคำว่า “ ยาก” คุณและหลายๆ คนหยุดยั้งสิ่งที่จะทำตั้งแต่เจอคำนี้ ซึ่งคำนี้มันปิดกั้นความสามารถของเราตั้งแต่คิดแล้ว แล้วคุณก็ยังจะไปหาเหตุผลมาสนับสนุนอีกด้วยว่า ทำไมมันถึงยาก และสุดท้ายคุณก็จะปล่อยให้คำว่ายาก มีอำนาจเหนือจิตใจของคุณ แต่สำหรับคนสำเร็จเขาคิดต่างกัน เขาชนะมันได้ง่ายมาก เพราะเขาเข้าใจลึกลงไปว่า จิตของเรามันเหมือนกับการทำสวน ถ้าสวนผักสวยงามแสดงว่าเราดูแลจิตใจได้ดีมาก แต่ว่าส่วนสกปรกรกร้างเต็มไปด้วยวัชพืชที่คอยแย่งอาหารพืชที่ปลูก คุณพลาดไปแล้ว คุณต้องเข้าใจว่าทุกอย่างคุณคือผู้มีอำนาจสร้างให้มันเป็นอย่างไรก็ได้ และเมื่อคุณมีอำนาจต้องใช้อย่างระวัง เพราะคุณสามารถอนุญาตให้ความคิดบางอย่างทั้งดีและไม่ดี ให้เป็นใหญ่และเติบโตในจิตใจของคุณได้ เปรียบเหมือนการหว่านเมล็ดพืชลงดินให้มันฝังรากและเติบโต คนที่สำเร็จบอกมาว่า ถ้าคุณห้ามความคิดว่ายากไม่ได้ คุณก็ต้องคิดให้มันต่างออกไปว่า “ ก็เพราะเป็นสิ่งที่ยากไง คนเลยเลียนแบบไม่ได้ ถ้ามันง่ายคนก็ทำตามกันหมดแล้วสิ” คิดให้ดีๆ ประโยคนี้ปลดล็อคความคิดลบๆของคุณได้อย่างดี

ยกตัวอย่าง อีลอน มัสก์ เขาได้ขึ้นเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ก็เพราะเขาทำแต่เรื่องยากๆที่คนอื่นทำไม่ได้ เขาสร้างยานอวกาศ สามารถนำยานขึ้นไปบนอวกาศได้ และแม้กระทั่งในขณะที่โลกกำลังประสบวิกฤติการณ์โควิด 19 เขาก็ยังสามารถขายรถไฟฟ้าจนได้ยอดขายสูงสุด ทุกสิ่งที่เขาทำมันยากที่คนอื่นจะทำเลียนแบบได้ทั้งสิ้น คุณต้องจำไว้เสมอว่าเมล็ดพันธ์ทางความคิดที่คุณอนุญาตให้ฝังลงไปในจิตใจจะออกดอกออกผลจนเป็นนิสัย เป็นตัวตนของคุณ และสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของคุณเสมอ ดังคำที่ว่า “ธรรมชาติจะช่วยให้มนุษย์ทุกคนได้รับในสิ่งที่เราคิดถึงบ่อยที่สุด”

มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่งที่จะทำให้คุณเข้าใจประเด็นได้มากขึ้น คือมีช่างไม้สูงอายุท่านหนึ่งที่ต้องการจะเกษียณตัวเอง เขาก็บอกเจ้านายของเขาว่า ผมอยากเกษียณกลับไปอยู่กับภรรยามากเลย ถึงจะเสียดายค่าจ้างที่จะได้รับแต่ผมก็อยากจะเกษียณ เจ้านายได้ยินก็บ่นเสียดายที่ต้องสูญเสียช่างฝีมือดีไป ก็เลยขอร้องให้ช่างคนนี้ช่วยสร้างบ้านให้อีกสัก 1 หลัง ช่างไม้คนนี้ก็ตอบตกลง และรีบสร้างบ้าน แต่พอบ้านไม้สร้างเสร็จก็พบว่ามันไม่เหมือน และไม่ใช่งานของช่างฝีมือคนนี้แม้แต่น้อย งานที่ออกมาไม่ดี ไม่มีความประณีต ใช้วัตถุที่ด้อยคุณภาพ ซึ่งมันเป็นการจบชีวิตช่างฝีมือที่ไม่สวยงามเลย และเมื่อเจ้านายของเขามาสำรวจงานชิ้นนี้เสร็จ เจ้านายก็ยื่นกุญแจให้แล้วบอกกับช่างไม้ว่า นี่คือบ้านของคุณผมขอมอบให้คุณเป็นของขวัญ ได้ยินเช่นนั้นช่างไม้ถึงกับอึ้งแทบหงายหลัง คิดเสียดายในใจว่า ถ้ารู้สักนิดว่าสร้างบ้านของตัวเองอยู่ ก็คงตั้งใจสร้างให้มันดีกว่านี้
ฟังเรื่องเล่าเรื่องนี้จบแล้วมันเหมือนกับชีวิตของคุณนั่นแหละ เพราะคุณกำลังสร้างชีวิตของตัวเองด้วยการสะสมสิ่งต่างๆทีละเล็กทีละน้อย หลายครั้งที่คุณไม่ได้ให้ความสำคัญในการสร้างชีวิตของตัวเอง เมื่อวันหนึ่งมาถึง คุณก็ต้องใช้ชีวิตอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเป็นผู้สร้างมันมาทั้งหมด และเมื่อถึงเวลานั้นคนส่วนใหญ่มักจะพูดกับตัวเองว่า ถ้าย้อนเวลากลับมาได้มันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ความจริงคุณไม่เหลือเวลาของอดีตอีกแล้ว
พวกเราทุกคนก็คือช่างไม้ ตอนนี้พวกเรากำลังตอกตะปู ปูกระดาน หรือกำลังเลือกกำแพงให้กับชีวิตตัวเอง เพราะชีวิตคือสิ่งที่เราสร้างให้กับตัวเอง ทุกๆความคิดที่เราเลือกให้กันในวันนี้มันก็เหมือนกับการสร้างบ้านให้ตัวเอง
ดังนั้นจงสร้างบ้านด้วยความฉลาด และสร้างบ้านของคุณด้วยความคิดที่ดีที่สุด
ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ มาร์เก็ตติ่ง
เวปไซด์ mee-money.com