ธนาคารเตรียมปรับสินเชื่อบ้านยกเลิกแคมเปญ “ดอกเบี้ยคงที่” ทำให้ลูกค้าที่ซื้อบ้านในช่วงปลายปีนี้ ต้องจ่ายดอกเบี้ยกู้สูงขึ้น ธนาคารต่างๆเตรียมปล่อยดอกเบี้ย “ลอยตัว” ชี้กรณีขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ลูกค้ามีภาระผ่อนต่อเดือนสูงขึ้น 4-5% แต่ ธอส.-ออมสิน ยังคงตรึงดอกเบี้ยนานที่สุดเพื่อช่วยประชาชนให้นานที่สุด

Cr.pic:https://www.dailynews.co.th/
สำหรับลูกค้าเดิมที่ทำการผ่อนกับธนาคารอยู่จะมีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทันที แต่จะไม่ได้รับผลกระทบในการผ่อนต่องวดแต่ว่าลูกหนี้ต้องผ่อนนานขึ้น โดยน่าจะมีการปรับหลังธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาชี้แจงการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกมา ประชาชนที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และภาระค่างวดจะสูงขึ้น เนื่องจากการปรับขึ้นของค่าครองชีพ และค่าเงินเฟ้อ ขณะที่สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกัน ดอกเบี้ยมีอัตราที่สูงขึ้น จะปรับดอกเบี้ยมาเป็นแบบลอยตัวมากขึ้น

Cr.pic: https://www.tisco.co.th/th/
ถ้าดอกเบี้ยขึ้นสูงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ จะส่งกระทบกำลังซื้อบ้าน ส่วนนโยบายการปล่อยสินเชื่อยังคงยึดเกณฑ์ความสามารถการชำระหนี้และรายได้
1. อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว
หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนด ณ ปัจจุบันตามประกาศของสถาบันการเงิน ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้นหรือลงได้ตามสถานการณ์ในปัจจุบัน หรือต้นทุนทางการเงินของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ซึ่งในการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยขึ้น-ลงแต่ละครั้ง จะส่งผลกระทบต่อเงินงวดที่ชำระในแต่ละเดือนของผู้กู้ โดยเฉพาะหากอัตราดอกเบี้ยบ้านปรับตัวสูงขึ้นในภายหลัง เงินงวดที่ชำระรายเดือนเดิมอาจต้องมีการปรับสูงขึ้นได้

Cr.pic:https://decor.mthai.com/
2. อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ แบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ ได้แก่
-อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้ หมายถึง การกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ หรือตายตัวตามประกาศของสถาบันการเงินที่กู้ซื้อบ้าน โดยไม่มีการปรับขึ้นเลยไม่ว่าสถานการณ์เป็นยังไง ผู้กู้ก็ยังจ่ายเท่าเดิมที่ธนาคารกำหนด
-อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นในช่วงแรกหลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ยบ้านแบบคงที่ระยะสั้นภายในหนึ่งถึงสองปีและจะปรับเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว

Cr.pic:https://decor.mthai.com/
2.3 อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันไดในช่วงแรกหลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึง การกำหนดอัตราดอกเบี้ยบ้านแบบคงที่ระยะสั้น 1-5 ปี แต่ในระหว่างนี้อาจกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดของธนาคารที่คุณไปกู้
การพิจารณาในการเลือกใช้อัตราดอกเบี้ย
1.อัตราดอกเบี้ยในแต่ละสถาบันการเงินซึ่งจะมีความแตกต่างกัน
2.การพิจารณาถึงความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยย้อนหลัง โดยควรเลือกประเภทที่มีความผันผวนน้อย เนื่องจากผู้กู้จะสามารถบริหารจัดการหนี้ได้ง่ายกว่า และทางธนาคารจะทำการคำนวณที่ต้องจ่ายต่อเดือนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นเอง
3.ให้พิจารณาเรื่องความมั่นคงของสถาบันการเงินนั้นๆ
ติดตามบทความเรื่อง การเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ที่ เศรษฐกิจโลก
เวปไซด์ mee-money.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook